วิธีใช้ความเชื่อใจโน้มน้าวนักช็อปออนไลน์ให้ซื้อสินค้าของคุณ

ในโลกที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมายหลายหลาก คุณจะทำอย่างไรให้เขาเลือกสินค้าและบริการของคุณเป็นที่หนึ่ง? คอลัมนิสต์ Jonathan Hinz ให้ความเห็นว่าหัวใจสำคัญคือความเชื่อใจของลูกค้า

เมื่อคุณและคู่แข่งขายสินค้าแบบเดียวกัน แบรนด์จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภครู้สึกว่าตนเองแตกต่างและเป็นหนึ่งในใจที่ผู้บริโภคเลือกได้กัน ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับความเชื่อถือและวันนี้เราจะมาเปิดเผยเคล็ดลับว่าทำอย่างไรให้ลูกค้าเชื่อถือคุณ

1.ลบความกลัวของความไม่รู้

การศึกษาของ Google ระบุว่ากว่า 78% ของนักช็อปจะใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูลสินค้าที่จะซื้อช่วงวันหยุดและกว่า 40% จะซื้อสินค้าและบริการผ่านอินเตอร์เน็ตไปเลย

หากคุณยังเป็นแบรนด์อีคอมเมิร์ซขนาดเล็กอยู่ ลูกค้าใหม่อาจยังไม่เชื่อถือแบรนด์และไม่ยอมมอบข้อมูลบัตรเครดิตให้ ดังนั้นคุณต้องใช้เว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียเพื่ออธิบายขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลให้ลูกค้าอ่าน ลูกค้าไม่ชอบสิ่งที่เขาไม่รู้ หากเขาพอรู้จักคุณบ้างแล้วการตัดสินใจซื้อจะเกิดขึ้นได้ง่าย

2.ให้ความรู้แก่ลูกค้า

เราทราบไปแล้วว่า 78% ของนักช็อปหาข้อมูลออนไลน์ ขณะที่อีก 29% จะหาข้อมูลผ่านเพื่อนและครอบครัวดังนั้นจะเห็นว่าลูกค้าก็ยังเชื่อถือคนใกล้ตัวหรือคนดังที่เป็น influencers อยู่อีกมาก ลองหากูรูที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณให้เขาวิเคราะห์ข้อมูลหรือทำการวิจัยจากนั้นนำข้อมูลเหล่านั้นมาทำเป็น infographic หรือจะนำไปให้ influencers ช่วยเผยแพร่ต่อไป

การให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของคุณอย่างตรงไปตรงมาจะสร้างความน่าเชื่อถือระหว่างแบรนด์และลูกค้าโดยไม่ต้องโฆษณาให้มากเกินจริง

3.ใช้ความเห็นจากบุคคลที่สาม

กว่า 88% ของผู้บริโภคเชื่อถือรีวิวออนไลน์เท่าๆ กับคำแนะนำจากครอบครัวและเพื่อน

อย่าละเลยคอมเมนต์จากลูกค้า นำมันมาไว้ในหน้าเว็บไซต์ใกล้ๆ กับสินค้าและปุ่มเช็คเอ้าท์ด้วย ให้เหตุผลลูกค้าว่าทำไมพวกเขาถึงต้องเสียเงินให้คุณผ่านรีวิวของผู้ใช้คนอื่นๆ

นอกจากรีวิวแล้ว ยังมีข่าวหรือเรื่องราวที่นักข่าวช่วยทำข่าวให้คุณอีกด้วย อย่าลืมนำสารเหล่านั้นมาเผยแพร่ให้ลูกค้าคุณอ่านด้วยล่ะ

จำไว้ว่าแม้การสร้างความน่าเชื่อถือจะไม่ใช่เรื่องง่ายหากคุณเป็นแบรนด์เล็ก แต่การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ ให้ความรู้ลุกค้าและแสดงให้พวกเขาเห็นว่าแบรนด์ของคุณเป็นที่นิยมมากแค่ไหนจะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในตัวคุณจนนำไปสู่การซื้อสินค้า

Source