Tell Stories ผ่าน Carousel Ads บนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมอย่างไรให้โดดเด่น

ท่ามกลางโฆษณามากมายบนโซเชียล มีเดีย คุณต้องการจะทำให้โฆษณาของคุณโดดเด่นบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมใช่หรือไม่ แล้วคุณเคยลองใช้โฆษณาแบบ Carousel Ads บ้างหรือยัง

หลายธุรกิจมักที่จะใช้การลงโฆษณาแบบ Carousel Ads แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อโปรโมทสินค้า ซึ่งก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะ Carousel Ads เป็นโอกาสที่คุณจะได้โชว์แบรนด์หรือสินค้าของคุณอย่างเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น โดยในบทความนี้ เราจะมาร่วมแบ่งปันวิธีการใช้ storytelling ใน Carousel Ads เพื่อโปรโมทสินค้าให้โดดเด่นเหนือคู่แข่งของคุณ

#1: Grab Attention With the First Image

กฎแรกของการเล่าเรื่อง (และงานโฆษณา) ก็คือจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่ง ให้แน่ใจว่าภาพแรกของคุณในชุดของ Carousel Ads จะสามารถเรียกความสนใจได้ และเมค เซนส์ในตัวมันเอง

และเพื่อทำให้ users จะไม่เลื่อนผ่านภาพชุดทั้งหมด คุณควรที่จะใส่ข้อความตามแนวขวาง มิเช่นนั้นคุณจะเสี่ยงต่อการทำให้ผู้ชมสับสนหรือรู้สึกว่าเสียความประทับใจไป

ตัวอย่างโฆษณาของ Progressive ชื่อชุดว่า #ActYourAge ซึ่งแค่ภาพแรกก็โดดเด่นในทันที

ในภาพดังกล่าวนี้ใช้พื้นแบล็กกราวด์เป็นสีขาว ซึ่งแตกต่างจากภาพปกติทั่วไปบนแพล็ทฟอร์ม และผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนเล่นโมบายเด็กทารก เมื่อภาพเรียกความสนใจก็ไม่ยากที่ user จะเข้ามาอ่านข้อคามด้านล่างว่า “Dump your parents’ car insurance company. #ActYourAge.”

นอกจากนี้ ภาพแรกของคุณจะต้องเป็นที่พึ่งให้กับภาพอื่นๆ ต่อไปด้วย เพื่อดึงความสนใจของผู้ชมให้ติดตามดูภาพอื่นๆ ต่อไป

#2: Make Them Swipe

กับเรื่องๆ หนึ่ง ประเด็นหลักคือการทำให้ผู้อ่านมีปฏิสัมพันธ์ต่อเนื่องอ่านไปถึงตอนท้ายสุดของเรื่องราว เช่นเดียวกับนักเขียนที่ต้องการให้ผู้อ่านของเขาสนใจในเรื่องที่เขาเขียน Carousel Ads ก็เช่นกัน

ครั้งก่อนที่คุณสามารถฮุค user ได้ด้วยภาพแรก พร้อมกับผลักดันให้มีสัมพันธ์กับภาพอื่นๆ ต่อไป มาตอนนี้แบรนด์ของคุณจะต้องมีอะไรที่เปิดเผยให้มากขึ้นและเพิ่มการกลับมาให้ได้ด้วย

ตัวอย่าง Carousel Ads จาก Tesco Foods ที่ไปช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกว่าไม่อยากหยุดให้มันเลื่อนต่อๆ ไป เมื่อเห็นภาพแล้ว users จะต้อง swipe ผ่านภาพชุดทั้งหมด นี่คือตัวย่างที่ดีของการให้ user ผ่านเรื่องราวและนี่คือเคสที่ดี และดูน่ากินมากๆ ด้วย

#3: Create a Scene

เมื่อเราทำให้ผู้ชมติดตามได้แล้ว ต่อไปก็คือการสร้างให้มีอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องราวด้วย เพื่อทำให้เกิดสิ่งนี้ก็ต้องใส่บริบทที่จำเป็นลงไป โดยให้ users รู้สึกเหมือนกับว่าเขาอยู่ตรงนั้นกับคุณ ทำให้พวกเขาเหมือนว่าได้อยู่ในฉากด้วย

ตัวอย่างที่ดีจาก TV series เรื่อง Wet Hot American Summer ซึ่งทำเรื่องนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทำให้ผู้ชมของเขาเข้าไปอยู่ในเนื้อเรื่องที่ Camp Firewood โดยภาพแสดงให้เห็นว่าคาแล็กเตอร์ต่างๆ แฮงก์เอ้าท์และทำอะไรสนุกๆ อยู่กับเพื่อนๆ ซึ่งภาพเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเป็นไอเดียที่ฉลาด แต่ยังทำให้เขารู้สึกว่าได้เข้าไปมีส่วนในแคมป์ดังกล่าวตามเนื้อเรื่องด้วย

จริงๆ แล้วมันง่ายว่าที่จะเซ็ทฉากหากโฆษณาของคุณเป็นบางสิ่งที่เกี่ยวกับพล็อทหนัง ทีวีโชว์ หรือภาพยนตร์ แต่ถ้าเป็นพวกสินค้าหรือบริการ ก็จะต้องหาความเหมาะสมที่ลงตัวให้กับแบรนด์และลูกค้าของคุณ

#4: Think Sequentially

ในการจัดลำดับเหตุการณ์มีความจำเป็นยิ่งเพื่อนำมาสู่การสรุปเรื่องราว การลำดับเรื่องที่ดีจะช่วยทำให้ผู้อ่านติดตามและอ่านเรื่องราวของคุณจนจบ เช่นตัวอย่างจากซีรี่ส์ Penny Dreadful ที่บอกภายใน 4 ภาพว่าเรื่องราวเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง เขายิงบางคน บอกลาแฟนสาว และเข้าโบสถ์

ข้อความจำอีกอย่างคือ การลำดับเรื่องราวไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับตามเวลา มันแค่มีความหมายว่าทุกๆ แอ็คชั่นจะต้องนำมาสู่ปฏิกิริยาตอบสนอง

#5: Incorporate Visual Variety

การจัดภาพที่หลากหลาย หลายช้อต แต่ฉากที่เหมือนกัน ต่างกันแค่โลเกชั่น มุม ระยะห่าง และอื่น เลือการจัดประเภทของภาพเพื่อสร้างสตอรี่และต้องแน่ใจว่าภาพนั้นน่าสนใจด้วย

จากตัวอย่างภาพยีนส์ด้านล่างนี้เป็นโฆษณาของห้าง Target แต่ละภาพมีบทบาทของมันคือนำไปสู่ภาพใหญ่ ซึ่งนำผู้ชมมาสู่ห้องดีไซน์ในสตูดิโอ เรียกว่าเป็นหนึ่งวิธีในการแชร์ภาพสดูดิโอให้เหมือนเป็นดิสเพลย์ของยีนส์ที่กำลังผลิตกันอยู่

#6: Consider the Platform

ไม่ว่าเรื่องราวของคุณจะเกี่ยวกับอะไร ถ้าคุณต้องการสร้างความโดดเด่นให้เกิดขึ้น ควรคิดเกี่ยวกับช่องทางที่จะลงเป็นอันดับแรก

ดังตัวอย่างด้านล่างนี้ รถ Buick ซึ่งโดดเด่นมากบนอินสตาแกรมกับโฆษณาที่เสนอให้บริการเทสต์ไดรฟ์ ซึ่งภาพของอินสตาแกรมจะต้องเน้นความสวยและใช้ฟิลเตอร์ยอดนิยม ซึ่งได้รับ engagement สูงมาก

ปรับวิธีใช้ให้กับแต่ละช่องทางที่คุณลงให้ดีที่สุดในแต่ละแพล็ทฟอร์ม ซึ่งมันจะช่วยเพิ่ม engagement ให้คุณได้

#7: Leave Your Audience Wanting More

ในการเล่าเรื่อง บางครั้งไม่จำเป็นที่จะต้องเล่าเรื่องตอนจบหรือให้ข้อสรุปไปเสียทุกครั้ง มากกว่าการให้ข้อสรุปเราสามารถนำไปสู่การเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นได้

ยกตัวอย่าง Sour Patch Slurpee นำผู้ชมผ่านเข้ามาใน 4 ภาพแรกของเรื่องราว Sour Patch Kid ซึ่งมันช่างน่าตื่นเต้นมากจน user ต้องการที่จะเห็นมากกว่านี้ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถัดไป ซึ่งหลังจากที่พวกเขาคลิก ก็นำผู้อ่านไปยัง landing page ซึ่งขยายความคำว่า “ปาร์ตี้” ให้กับผู้อ่านได้เข้าใจมากขึ้น ทั้งนี้ landing page ยังเชิญชวนให้ users ได้แชร์แฮชแท็กของเขาด้วย #SPKSlurpeeSelfies

วัตถุประสงค์ของ Carousel ads คือการเพิ่ม awareness และ engagement อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือการให้ผู้ชมได้มีประสบการณ์อย่างต่อเนื่องและคลิกไปยัง landing page เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น คุณสามารถที่จะสร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับผู้ชมได้ และเป็นไปได้ก็จะทำให้ผู้ชมได้รับข้อมูลจากแบรนด์ของเราไปด้วย

บทสรุป

ทุกวันนี้ carousel ad ค่อนข้างยากเข้าไปทุกทีที่จะสร้างความโดดเด่น ถ้าคุณต้องการทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นจริง ดังนั้น คุณจะต้องเริ่มต้นอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกว่ามีส่วนร่วมไปกับโฆษณาของคุณและติดตามมันไปเรื่อยๆ จนจบ.

แหล่งที่มา