ทุกวันนี้แม้แต่ผู้บริโภค หรือคนธรรมดาทั่วไป จะโพสต์รูปแต่ละที ก็ต้องแน่ใจว่าภาพสวยจริง เพื่อให้คนมาไลค์ หรือคอมเม้นต์ สำหรับแบรนด์สินค้าเองก็เช่นกัน ที่ต้องการยอดไลค์ แชร์ และคอมเมนท์จากผู้บริโภค ภาพที่ดีจะเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จในแต่ละแคมเปญ
ในบทความนี้ เราขอนำเสนอวิธีการเลือกใช้ภาพบน Facebook ให้มีประสิทธิภาพที่สุด ดังนี้
ภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
คนส่วนใหญ่จะตอบสนองกับภาพที่สวย โดดเด่น มีเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร และสร้างแรงบันดาลใจได้ จึงจะทำให้เกิดการ Like, Share และคอมเมนต์ การให้ความสำคัญกับภาพ กำลังเป็นเทรนด์ที่หลายๆ แบรนด์ให้ความสนใจ ผู้บริโภคเองก็เช่นกัน
ในขณะที่แบรนด์ส่วนใหญ่คิดว่าภาพที่พวกเขาแชร์นั้นน่ารัก สวยงาม แต่น่าเสียดายที่มักจะมีบางสิ่งบางอย่างหายไปเสมอ จะสวยก็สวยไม่สุด จะสร้างแรงบันดาลใจก็สร้างได้ไม่เต็มที่ แบรนด์จึงต้องเลือกใช้ภาพที่มีคุณภาพสูง และไม่เหมือนใคร ที่สำคัญต้องเกี่ยวข้องกับแบรนด์ด้วย เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม
ยกตัวอย่างเช่น Facebook ของ TripAdvisor ที่เลือกโพสต์ภาพวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติสุดตระการตา ใครเห็นก็อยากคลิกไลค์ ซึ่งภาพสวยๆ เหล่านี้จะให้ผลตอบรับที่ดีกว่าภาพธรรมดาทั่วไป ภาพที่เห็นด้านล่างนี้ก็มีแคปชั่นง่ายๆ ว่า “Caption this …” ที่เปิดให้แฟนๆ ร่วมแสดงความคิดเห็น
จากภาพของ TripAdvisor จำนวน 20 โพสต์ ค่าเฉลี่ยของไลค์อยู่ที่ 251 ไลค์ และแชร์ 30 ครั้งต่อโพสต์
ส่วนภาพนี้ TripAdvisor ได้เลือกโพสต์ภาพสระว่ายน้ำ 12 ภาพ โดยตั้งชื่ออัลบั้มว่า “ถ้าสระว่ายน้ำแบบธรรมชาตินี้มาอยู่หลังบ้านคุณ” และคำบรรยายใต้ภาพ “เราชอบสระว่ายน้ำแบบธรรมชาติ” เมื่อดูแล้ว ใครๆ ก็อยากมีสระว่ายน้ำแบบนี้ที่บ้าน แน่นอนว่ามีคนไลค์เกือบ 2,700 ไลค์ และแชร์เกือบ 300 ครั้ง
ถ้าคุณต้องการสร้างการมีส่วนร่วม หรือ Engagement ก็ต้องให้เวลา และใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อแลกกับผลลัพธ์ที่คุ้มค่า
อย่ามองข้ามการทดสอบ
เพื่อค้นหาว่าภาพแบบไหนที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคมากที่สุด คุณต้องเลือกใช้ภาพที่ทำให้ผู้พบเห็นหยุดทุกอย่าง แล้วตั้งใจดูภาพนี้ แต่กว่าจะได้ภาพนี้ คุณต้องลองผิดลองถูกอีกนับครั้งไม่ถ้วน หาคำตอบให้ได้ว่าภาพแนวไหนคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ ซึ่งมันต้องใช้เวลา
ทั้งนี้ ภาพก็ไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้แคมเปญ หรือโพสต์นั้นๆ ประสบความสำเร็จ ยังอีกหลายปัจจัยที่แบรนด์ต้องเรียนรู้ เช่น การเขียน Headline หัวข้อ เนื้อหา Call to action เป็นต้น เป้าหมายของการใช้ภาพคือ ภาพๆ เดียวจะสามารถเข้าถึงคนที่แตกต่างกันได้มากกว่า 1 คน
ใช้เงินเข้าสู้
เนื่องจาก Facebook ได้เปลี่ยนกติกาบางอย่าง ที่ทำให้แบรนด์ และเพจต่างๆ ต้องดิ้นรนปรับคอนเทนต์กันเป็นการใหญ่ เพื่อแลกกับ Organic reach ที่จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ถ้าคุณต้องการเพิ่ม Reach และเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น การซื้อโฆษณากับ Facebook จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ยกตัวอย่างเช่น Facebook ของ Salesforce ที่มีแฟนกว่า 475,000 คน แต่กลับมี Organic reach น้อยมากๆ เมื่อดูจากภาพด้านล่างนี้จะเห็นว่ามีเพียง 31 ไลค์ และ 7 แชร์
เมื่อเทียบกับภาพนี้ที่ Salesforce ได้ซื้อโฆษณาเพื่อโปรโมท E-Book แน่นอนว่าทั้งยอดไลค์ และแชร์ก็พุ่งสูงขึ้น
การใช้เงินนิดๆ หน่อยๆ กับการซื้อโฆษณาบน Facebook จะช่วยสร้างความแตกต่างได้มากที่เดียว ซึ่งเราเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้ Facebook ช่างโหดร้ายกับเราเสียเหลือเกิน ซึ่งก็สอดคล้องกับประโยคทีว่า “ของฟรีไม่มีในโลก”
ทั้ง 3 วิธีที่เราบอกไปนี้ จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของการทำตลาดบน Facebook ได้ พยายามหาคำตอบได้ว่า ภาพแบบไหนที่เหมาะกับแบรนด์ของคุณที่สุด ภาพแบบไหนที่สร้างการมีส่วนร่วมได้มากที่สุด หากคุณมีความอดทนในการทดลองสิ่งใหม่ๆ คุณก็จะได้รับประโยชน์จากมันไปเต็มๆ