Content Story สำคัญในการทำ Video Strategy อย่างไร

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ในยุคที่การทำ Content Marketing เป็นเรื่องสำคัญ และหลาย ๆ ที่มักใช้ Content Marketing ในรูปแบบการการทำ Video Content อีกด้วย มีการคาดการณ์จากทางการประเทศว่า Video Content นั้นจะเป็น Traafic หลักของ internet กว่า 69% ในปี 2017 และแบรนด์กับนักการตลาดนั้นต้องเข้าใจในรูปแบบในการสร้าง Video เหล่านี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Communication Strategy ต่าง ๆ พร้อมไม่ลืมว่าวิดีโอเหล่านี้ต้องมีกุญแจสำคัญที่จำทำให้สำเร็จได้ นั้นคือการเล่าเรื่อง

2014_06_13_traffic

กระบวนการทำ Branded Video ในปัจจุบันนั้นถูกวางเป็นแค่สื่อหนึ่งในการสร้างกระแส หรือการสร้างไวรัลผ่าน Video นั้น​ ๆ (ซึ่งไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะไวรัลได้แค่ไหน) และต้องมีสื่ออื่น ๆ มากมายคอยช่วยเหลือเพื่อให้วิดีโอนั้นเกิด เมื่อนับวันการทำ Content Marketing กลายเป็นกระบวนการหลักในการตลาดมากขึ้น และการทำ video แบบการเล่าเรื่องกลายเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำกัน และจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การวางกลยุทธ์การทำวิดีโอนี้ต้องมีความระมัดระวังและใส่ใจมากขึ้น

httpv://www.youtube.com/watch?v=Wwx1-YAtz5k

การสร้างสรรค์การเล่าเรื่องผ่านกลยุทธ์วิดีโอนั้นมีได้หลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น Bosch นั้นใช้การเล่าเรื่องผ่านวิดีโอนั้นเป็นหัวใจหลักของการทำกลยุทธ์ของแบรนด์ในการปฏิสัมพันธ์ผู้บริโภคทั้งหมด ด้วยการหาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันผู้บริโภคที่เป็นปัญหาต่าง ๆ แม้ว่าปัญหานั้นจะไม่เคยเกิดกับตัวเอง แต่ต้องเคยได้ยินหรือได้เห็นจากคนรอบข้างมา ซึ่ง Bosch นั้นได้เอาเรื่องราวต่าง ๆ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ผู้บริโภคได้เจอในชีวิตประจำวัน มาเล่าผ่านเรื่องราวขำขันและผูกกับว่าสินค้าของตัวเองจะเข้าไปช่วยไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร ซึ่งเป็นการตอบคำถามว่าทำไมต้องมีอุปกรณ์หรือสินค้าในบ้านด้วย เพราะจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเองดังในวิดีโอ ซึ่งเมื่อวิดีโอออกไปทาง Bosch ได้ทำกลยุทธ์ต่อมาโดยการสร้าง Campaign ประกอบที่ให้คนนั้นสามารถส่งเรื่องราวของตัวเองในการทำอะไรด้วยตัวเองว่ามีอะไรล้มเหลวหรือสำเร็จบ้าง

httpv://youtu.be/XHCl0jrEuZI

อีกตัวอย่างกลยุทธ์การเล่าเรื่องของ Barclays ผ่านวิดีโอนั้น น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการมองว่า Video นั้นจะกลายเป็นสื่อที่ผู้บริโภคนั้นค้นหาเพื่อใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ทำให้ทาง Barclays นั้นสามารถกำหนดกลยุทธ์ว่าจะ สร้างวิดีโอแบบใด หรือมีเป้าหมายเพื่ออะไร ที่จะทำให้ผู้บริโภคนั้นมามีปฏิสัมพันธ์มากที่สุด โดย Barclays แบ่ง Video Strategy ตัวเองออกเป็น 3 ด้านดัวกัน คือ 1. การวัดผลแบรนด์และปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ 2. การจดจำแบรนด์ 3. การได้รับข้อมูลหรือการได้เรียนรู้ผู้บริโภค ด้วยการใช้เครื่องมือ Social Listening, Search และ Online Helpdesk ต่าง ๆ ทำให้ Barclays นั้นมีข้อมูลมากมาย ซึ่งทีมจะนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ว่า ข้อมูลใดที่สามารถนำมาสร้างเป็น Video Content เพื่อสร้างแบรนด์ต่อไปได้ และนำเข้าที่ประชุมในทุก ๆ วันอังคาร ซึ่งหากในที่ประชุมตกลงว่าเรื่องใดที่ Barclays ควรจะเข้าไปเกี่ยวข้อง เรื่องราววิดีโอเหล่านั้นจะถูกเริ่มดำเนินงานทันทีหลังจากภายในที่ประชุม 48 ชั่วโมง ซึ่งวิธีการของ Barclays นั้นคือการสร้าง Content ต่าง ๆ ให้ทันต่อกระแสการพูดของผู้บริโภคหรือการที่ผู้บริโภคกำลังมีความต้องการอยู่ ด้วยความต้องการของ Barclays นั้นทำให้ต้องมี in House video production เพื่อตอบสนองความต้องการที่รวดเร็วเหล่านี้ แต่นอกจาก in house ของตัวเองแล้ว Barclays ยังใช้ partner ต่าง ๆ และ agency ในการสร้างสรรค์วิดีโอเพิ่มเติมด้วย ด้วยการที่เชื่อว่าการผสมผสานเนื้อหาวิดีโอที่สร้างมาจากที่ต่าง ๆ นั้นจะกลายเป็นเรื่องสำคัญในอนาคต

httpv://www.youtube.com/watch?v=cutQmqSlIzE&list=PL0HlIjXDx5ylYwqQ9kX6Pncv4_cy6Opg3

การใช้กลยุทธ์การเล่าเรื่องผ่าน influencer ผ่าน Video นั้นเป็นอีกกลยุทธ์การทำวิดีโอที่น่าสนใจอีกอัน ซึ่งทางสายการบินตุรกีนั้นใช้ Influencer ต่าง ๆ โดยการเชิญ Influencer ทางด้าน creative ต่าง ๆ มาเล่าเรื่องในสไตล์ของตัวเอง และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ผ่านการเล่าเรื่องของคนอื่น ๆ ซึ่งสามารถสร้าง Word Of Mouth กลับมาได้อีกด้วย ทางสายการบินตุรกีนั้นให้โจทย์กับ Influencer ในการสร้างวิดีโอสารคดี 3 เรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์การบินกับสายการบินตุรกี ผ่าน Concept การเดินทาง ‘Fortune Traveller’ ที่จะเดินทางไป 10 ที่หมายทั่วโลก ซึ่งวิดีโอ Campaign นี้มีคนชมกว่า 10 ล้านคน มีการแชร์มากกว่า 27,000 แชร์และ Comment  กว่า 33,000 Comment แถมทำให้ยอดขายตั๋วเพิ่มขึ้นกว่า 14% ในช่วงทำแคมเปญนี้ด้วย

httpv://www.youtube.com/watch?v=ajSSJpZOFM0

การเติบโตของวิดีโอนั้นเป็นสื่อในการสื่อสารนั้นมีการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทาง Cisco นั้นคาดการณ์ต่อไปอีกว่าภายในปี 2019 นั้นวิดีโอจะครอง Traffic ของ mobile internet กว่า 80% ซึ่งนักการตลาดนั้นใช้วิดีโอเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงผู้คนต่าง ๆ ในการสื่อสารในการว่าสินค้าหรือแบรนด์นั้นจะเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันผู้บริโภคได้อย่างไร หรือแก้ปัญหาผู้บริโภคได้อย่างไร ซึ่งจากทาง Google เองก็ได้นั้นเสนอเรื่อง Moment ที่ผู้บริโภคนั้นเข้ามาหาข้อมูลต่าง ๆ ในพวก How To ต่าง ๆ ผ่าน youtube หรือวิดีโอ content ต่าง ๆ

อย่างไรก็ตามโอกาสในเรื่องนี้มาพร้อมความท้าทาย เพราะเมื่อนักการตลาดในองค์กรทุกคนทำ Video ขึ้นมามากมาย นักการตลาดนั้นต้องเริ่มคิดว่าจะจัดการวิดีโอที่เกิดขึ้นมาจากที่ต่าง ๆ ได้อย่างไร และวิดีโอที่สร้างขึ้นจากภายในองค์กรและแผนกต่าง ๆ เองจะไปอยู่ที่ไหน หรือจะสื่อสารไม่ใช้ซ้ำกันได้อย่างไรดี นั้นทำให้กลยุทธ์การวางเนื้อหาวิดีโอนั้นมีความสำคัญตามลำดับขึ้นมาว่า จะเก็บและดูแลเนื้อหาเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์เพื่อการค้นหาของผู้บริโภคต่อไปได้อย่างไร


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ