เคยไหมเวลาที่สัมภาษณ์งานแล้วต้องเจอกับคำถามแปลกๆ อย่างเช่น “ถ้าคุณเป็นลูกกวาด คุณจะเป็นรสชาติไหน?” อย่างนี้เป็นต้น
อย่าแปลกใจ และอย่าตื่นตระหนกเมื่อเจอกับคำถามประเภทนี้ ตั้งสติและเรียนรู้จากบทความนี้เพื่อนำไปใช้ในการตอบการสัมภาษณ์ที่ดีที่สุดของคุณ
ในการสัมภาษณ์งานอาจจะไม่พบเจอคำถามแปลกๆ ประเภทนี้เสียเท่าไหร่ ซึ่งบางครั้งคุณอาจจะงงและสงสัยว่าถามทำไม? ถามแล้วจะได้อะไร? แต่จริงๆ แล้วคำถามประเภทนี้มีจุดประสงค์ที่แอบแฝงอยู่ด้วย ดังเช่นตัวอย่างด้านล่างนี้
“ถ้าคุณคือผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่บนเกาะทะเลทรายร้อนระอุ ใครกันคือคนที่คุณอยากให้มาอยู่ด้วย?”
คำถามนี้มาจากหนังสือที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นการถามเพื่อให้รู้ถึงกิจกรรมที่คุณสนใจ และทดสอบการสร้างความไว้วางใจของคุณ แต่โดยทั่วไปก็คือการถามความสามารถในการแก้ปัญหาของคุณด้วย
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณบอกว่าคุณอยากให้ “จัสติน บีเบอร์” มาอยู่ด้วย นั่นอาจจะแปลว่าคุณเป็นนักเอ็นเตอร์เทน แต่หากว่าคุณตอบว่า “Benjamin Franklin” ก็จะส่งสัญญาณอีกแบบหนึ่งในนายจ้างรับทราบ นั่นอาจจะแปลว่าคุณต้องการถูกจดจำในฐานะนักคิดที่เสรี ผู้ซึ่งไม่กลัวการทำงานสร้างสรรค์ต่างๆ และไม่หวั่นหากจะถูกเยาะเย้ยถากถาง คำแนะนำคือหาคุณเจอกับถามลักษณะนี้ คิดถึงปัญหาและการแก้ปัญหาที่แท้จริง พร้อมกับให้เหตุผลประกอบลงไปด้วย
“ซุปเปอร์ฮีโร่คนไหน ที่คุณคิดว่าสามารถเอาชนะซุปเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ ได้?”
คุณค่าของคำถามนี้คือต้องการประเมินถึงบุคลิกภาพของคุณ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงาน อย่างไรก็ตาม คำตอบนี้อาจจะค่อนข้างกว้างทีเดียวเพราะมันขึ้นอยู่กับว่าคุณทำงานที่ไหน
ถ้าคุณกำลังมองหาสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างผ่อนคลาย รีแล็กซ์ หรือมีชีวิตชีวา มันก็โอเค. ถ้าจะตอบว่า “แบทแมน เพราะว่าเขามีของเล่นเจ๋งๆ ทำให้เขาเอาชนะได้ทุกๆ ครั้ง”
แต่ถ้าสถานที่ทำงานเป็นแนวค่อนข้างซีเรียส ตึงเครียดเล็กน้อย ก็อาจจะนำเสนออะไรที่สนุกๆ แปลกๆ ได้บ้าง แต่อย่าลืมแก่นแท้ที่สำคัญของคำตอบด้วยล่ะ เช่นอาจจะตอบว่า “ถ้าตามหลักวิทยาศาสตร์ ผมเลือกฮัลค์ เพราะฮัลค์เอาชนะทุกอย่างได้แท้จริง และไม่มีอะไรจะมาทำลายได้”
หรือถ้าคุณไม่แน่ใจในสภาพแวดล้อมการทำงาน ก็อาจจะตอบแบบเลี่ยงๆ แต่ให้ดูมีชั้นเชิงหน่อย เช่นบอกว่า “ซุปเปอร์ฮีโร่ที่แท้จริง จะไม่สู้กันเองหรอก เพราะว่าซุปเปอร์ฮีโร่ที่แท้จริงจะสู้ด้วยกันเพื่อเหตุผลเดียวคือปกป้องโลก(คนดี) นั่นเอง”
หรือคุณอาจจะถามรายละเอียดของคำถามเพิ่มลงไปด้วยก็ได้ เช่น
– ไปสู้กันที่ไหน?
– เล่นกันแฟร์ๆ แบบไม่มีคริปโตไนท์ใช่ไหม?
– ใช้อาวุธพิเศษได้รึเปล่า?
สิ่งเหล่านี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจพิจารณาคำถามอย่างดีและการทำงานก็เช่นกัน นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นนักแก้ปัญหาและมีทัศนคติที่ดีด้วย
“คุณคิดอย่างไรกับเป็ดยาง?”
คุณอาจจะไม่เชื่อว่ามีคำถามประเภทนี้จริงๆ แต่เบื้องหลังของคำถามนี้ก็คือการทดสอบอารมณ์ขันของคุณ แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ซีเรียสก็ตาม บริษัททุกบริษัทต้องการพนักงานที่สามารถติดต่อประสานงานกับลูกค้าได้ดี ดังนั้นการเก็บความรู้สึกหรืออารมณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งคุณอาจจะตอบให้ขำกลิ้งไปเลยก็ได้ เช่นบอกว่า “ผมไม่เคยสนใจสักกะก๊าบ..ก๊าบ..เลยล่ะครับ” คำตอบที่ไร้สาระแต่ได้ผลทีเดียว
“ถ้าคุณเป็นสัตว์ได้ คุณจะเป็นตัวอะไร?”
คำถามนี้มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ “สัตว์” ที่คุณเลือก คุณสามารถเลือกสัตว์ตัวไหนก็ได้ แต่ควรจะต้องมีเหตุผลที่ดีสอดรับกับตัวงานที่คุณจะทำด้วย
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสมัครในตำแหน่งกราฟฟิกดีไซน์ คุณอาจจะต้องแสดงความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการทำงานเดดไลน์ได้ เช่น “ผีเสื้อ” เพราผีเสื้อมีเอกลักษณ์ที่สวยงาม แต่ก็รู้ตัวด้วยตัวเองที่จะอพยพย้ายถิ่นทุกๆ ฤดูหนาว เหมือนกับมีนาฬิกาปลุกโดยอัตโนมัติ
“คุณจะตั้งชื่อหนังสืออัตชีวประวัติของคุณเองว่าอะไร?”
คำตอบจากคำถามนี้จะทำให้นายจ้างรู้ถึง 2 อย่างในตัวคุณ นั่นก็คือ 1.คุณเป็นคนมีเสน่ห์ น่าทึ่ง หรือ 2. คุณเป็นพวกหยิ่ง ยโส โอหังกันแน่
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณตั้งชื่อว่า “How I Made My Millions” มันจะทำให้คุณดูเป็นคนหยิ่ง ทะนงตน และไร้เอกลักษณ์ แต่ถ้าคุณเลือกอะไรที่ติดดินและสร้างสรรค์อย่าง “Are We There Yet?” ซึ่งจะแสดงถึงอารมณ์ขันและความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้ดีกว่า และสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์อีกด้วย
บทส่งท้าย
การตอบคำถามแปลกๆ เหล่านี้ คีย์สำคัญของมันก็คือการจับแก่นแท้หรือหัวใจของแต่ละคำถามนั้นให้ได้ เมื่อคุณเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ามันคืออะไร คำตอบก็จะแสดงตัวตนของคุณออกมาให้ผู้สัมภาษณ์ได้สัมผัสเอง แม้ว่ามันจะน่าขำมากก็ตามที.
