ไม่มีแบรนด์ไหนที่จะทำการสร้างนวัตกรรมที่สั่นสะเทือนวงการได้เท่ากับบริษัท Tesla ในตอนนี้ โดย Tesla นั้นได้ผ่านร้อน ผ่านหนาว จากทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งกว่าจะทำให้รับความนิยมในทุกวันนี้ได้ เทสล่าต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ภาพลักษณ์ของการใช้รถไฟฟ้านั้นไม่ได้กลายเป็นเพื่อกระแสหลักของการใช้ยานพานะ แต่กลายเป็นว่าใครที่มีเทสล่านั้น คือคนที่สุดยอดในตัวเองอีกด้วย มี Social Status แบบนึงขึ้นมาเลยทีเดียว
ด้วยการสร้างบริษัทเทสล่าขึ้นมานี้ ทำให้ปัจจุบันเทสล่านั้นกลายเป็นบริษัทที่ยักษ์ใหญ่บริษัทนึงในโลกและผู้ก่อตั้งอย่าง CEO Elon Musk นั้นกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกขึ้นมาได้ อะไรคือความสำเร็จที่เทสล่าสามารถได้ แต่คนอื่นนั้นล้มเหลวแถมยังใช้การตลาดที่เรียกได้ว่า งบการตลาดนั้นเป็น $0 เลยทีเดียว มองดูเหมือนจะเป็นไปได้ แต่จริง ๆ แล้ว เทสล่ามีอาวุธลับที่ช่วยทำให้การสร้างแบรนด์ของตัวเองนั้นสำเร็จขึ้นมาได้โดยการกลยุทธ์ทางจิตวิทยาต่าง ๆ ในการสร้างกระแส สร้างแบรนด์จนทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างทุกวันนี้คือ
1. ศาสนาเทสล่า มีเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้นที่สามารถสร้างสาวกของแบรนด์ สาวกของผู้ก่อตั้งขึ้นมาได้ ในอดีตนั้นเรามีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดอย่าง Steve Jobs และ Apple แต่ในปัจจุบันนี้คือ Elon Musk และ Tesla ขึ้นมา โดยเทสล่านั้นมีเหล่าแฟนสาวกที่พร้อมทำทุกอย่างกับแบรนด์ที่เรียกว่า Muskateers มาตั้งแต่ก่อตั้ง Tesla และทำให้ Tesla กลายเป็นจุดสนใจในทุกวันนี้ด้วยการเอาเรื่องราวชีวิตของ Elon musk และวิศัยทัศน์ของ Tesla มาเผยแพร่ออกมา นอกจากนี้ Tesla ก็ยังใช้การเกาะกระแสความโด่งดังของ Elon Musk ในการนำเสนอรถ Tesla อีกด้วย แล้วนำเสนอเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ความอัจฉริยะของรถ การออกแบบเหมือนยานอวกาศแบบอนาคต ทำให้กลุ่มสาวกนั้นยิ่งชื่นชอบและเผยแพร่แบรนด์ได้ง่ายมากขึ้นไปอีก การที่ทำเช่นนี้เป็นการใช้หลักการทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Unity ซึ่งเป็นหลักการที่ว่าคนเราจะถูกโน้มน้าวได้ง่ายโดยคนที่มีความเชื่อหรือความศรัทธานในเรื่องเดียวกันขึ้นมา
2. charisma สิ่งหนึ่งที่ Elon Musk มีออกมาคือ charisma ของผู้นำองค์กร ผู้นำวิศัยทัศน์การเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้ Elon Musk นั้นมีคนติดตามมากกว่า 59 ล้านคนใน Twitter และทุกคนต่างอยากจะฟัง Elon Musk ว่าจะมีวิศัยทัศน์ในเรื่องต่าง ๆ อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการไปดาวอังคาร การเดินทาง การพัฒนาของมนุษย์ แน่นอนด้วยการมีคนติดตาม 59 ล้านคนนั้น การโฆษณาด้วยตัวเองแล้วคน 59 ล้านคนฟังแล้วเอาไปบอกต่อ ย่อมเป็นการตลาดที่ทรงพลังมากกว่าการเอาไปลงกับการโฆษณาแน่นอน
สิ่งหนึ่งที่ Elon Musk เป็นคือการที่เป็นคนที่สามารถให้คำตอบได้ทันที โดยคาแรกเตอร์ที่เรียกว่า quick thinker และด้วยจิตวิทยาของมนุษย์ที่โหยหาคำตอบในอนาคตที่ไม่มั่นใจว่าจะเป็นอย่างไร และ Elon Musk ให้คำตอบได้ทันที ก็ทำให้สามารถจับจิตวิทยาคนได้ทันที และภาพลักษณ์ของ Elon Musk = Tesla ก็ทำให้คนจดจำ Tesla นั้นไม่ยาก
3. Status Symbol ของการใช้รถ ด้วยการที่ Tesla นั้นทำสินค้าโดยโฟกัสในการสร้างแบรนด์ที่ตอบโจทย์อนาคตของโลก ของสิ่งแวดล้อม และสร้างรถที่ดีขึ้นมา ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการทำการตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ ในการสร้างสินค้าที่ดีที่สุดออกมาคือแผนการตลาดที่ดีที่สุดเช่นกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่ Tesla ทำต่างออกไปคือ ไม่ใช่แค่การทำสินค้าให้ดีที่สุด แต่เป็นการทำสินค้าให้มีความน่าดึงดูดและน่าหลงใหลขึ้นมา ในการสร้างรถ Tesla ขั้นแรกมานำเสนอ ในรุ่น Roadster Tesla ไม่ได้นำเสนอแค่รถไฟฟ้า แต่เป็นการนำเสนอนวัตกรรมที่มีการออกแบบที่สวยงาม มีสไตล์ขึ้นมา เหมือนกับการนำเสนอ iPhone เครื่องแรกของโลกที่ Steve Jobs นำเสนอออกมาจนทำให้ทุกคนอยากได้ขึ้นมาได้ ด้วยการนำเสนอเช่นนี้ทำให้เกิดความน่าสนใจที่ฉีกออกไปจากตลาดทันที
การที่ Tesla สามารถนำเสนอนวัตกรรมและความสวยงามของแฟชั่นการออกแบบได้ ทำให้รถของ Tesla นั้นกลายเป็นสถานะทางสังคมแบบหนึ่ง และนี้มีผลมาถึงจิตวิทยาของคน ที่ทุก ๆ คนอยากได้รับการยอมรับ และอยากมี Social Status เช่นกันการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla นั้นกลายเป็นการบ่งบอก Social Status ของตัวเองขึ้นมาหรือเลื่อนระดับ Social Status ของตัวเอง ทำให้ทุก ๆ คนอยากจะได้ Tesla เพื่อบ่งบอกถึงทัศนคติ ความสำเร็จและเป็นจุดบ่งชี้ Social Status ของตัวเองกับคนอื่นขึ้นมาเช่นกัน
การสร้างการตลาดด้วยงบประมาณ 0 บาทของ Tesla นั้นจะเห็นได้ว่ามีจิตวิทยาที่น่าสนใจอยู่เบื้องหลังมากมาย และการขายรถด้วยการใช้ประสบการณ์ทางอารมณ์นั้นก็เป็นส่วนหน่งในจิตวิทยาที่ทำให้บริษัท Tesla กลายเป็นรถยนต์ในฝันที่ทุกคนอยากได้ในตอนนี้