การทำ Content Marketing กำลังเป็นที่นิยมในยุคนี้อย่างมาก ทำให้หลาย ๆ แบรนด์นั้นลงมือทำ Content ออกมามายมายเพื่อทำการสื่อสารกับผู้บริโภค บาง Content ก็สามารถทำการสร้างปฏิสัมพันธ์ได้อย่างดี แต่บาง Content ก็ไม่ถึงฝั่งฝัน ในยุคนี้เองกระบวนการสร้าง Content นั้นไม่ได้เป็นแค่เพียงการสื่อสารอีกต่อไป แต่ยังสามารถสร้างแบรนด์และส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ได้อีกด้วย
httpv://www.youtube.com/watch?v=VK1_vTdUoeY
จากที่เคยมาเล่าเรื่องการทำ Content ประเภทวิดีโอที่ต้องกลายเป็น Digital Film Craft เอง และการที่ Cannes Lions ปี 2016 ก็เพิ่มสาขาในเรื่อง Digital Craft ทำให้เห็นว่ากระบวนการ Crafting นั้นมีผลต่อการทำการสื่อสารทางการตลาดอย่างมาก ในปี 2016 นี้ก็ตามกระบวนการสร้าง Content นั้นก้าวไปอีกขั้นที่ส่งผลต่อการทำภาพลักษณ์และการสร้างแบรนด์อย่างมาก และหลาย ๆ แบรนด์ใหญ่ก็เริ่มทำ Content ในรูปแบบกันในต่างประเทศ นั้นคือการที่ทำ Content ประเภทที่เป็น Craft หรือ Artisan ขึ้นเพื่อมาให้ผู้บริโภคได้สัมผัสความเอาใจใส่และความจริงใจของแบรนด์ขึ้นมา
ผู้บริโภคที่ชอบความ Crafting กับ Artisan นั้นเพิ่มอย่างมากขึ้นในช่วงเวลานี้และต้องการการแสดงถึงความเอาใจใส่ที่เกิดขึ้นมาจากแบรนด์ต่อผู้บริโภค หรือความจริงใจของแบรนด์ในการเล่าตัวตนตัวเองและสิ่งที่จะเป็น ซึ่งจะส่งผลถึงเรื่อง Emotional ของผู้บริโภคและกลายเป็น Emotional Value ที่สร้างความสัมพันธ์ของผู้บริโภคกับแบรนด์ขึ้นมา นอกจากการสร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคนั้นต้องการแบรนด์ที่มีเรื่องราวเฉพาะที่แสดงถึงความใส่ใจ การสร้างสรรค์ของแบรนด์ ด้วยการที่ผู้บริโภคแบบนี้มีมากขึ้น ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ในต่างประเทศนั้นพยายามจะสร้าง Content ที่มีความเป็นงานศิลป์และดูเป็นงานที่เป็นงานฝีมือขึ้นมา ไม่เฉพาะแค่ Content ที่จะทำออกมา แต่ยังเป็นตั้งแต่ Story ของแบรนด์กันมาเลยทีเดียว
จากงาน Research ของ Advertising Agency ประเทศอังกฤษ ได้พบว่าผู้บริโภคนั้นกำลังเกิดพฤติกรรมที่น่าสนใจอย่างหนึ่งนั้นคือบทบาทของ Semiotics หรือความเข้าใจในการสื่อสารนั้นของผู้บริโภค ซึ่งเป็นวิธีการที่ผู้บริโภคนั้นรับรู้และแปลความเข้าใจของสิ่งที่ได้เห็น ฟัง อ่าน หรือสัมผัสต่าง ๆ จากแบรนด์ที่ตัวเองได้เข้าไปปฏิสัมพันธ์ ซึ่งยิ่งแบรนด์นั้นมีการตอบสนองความต้องการใน personalised ของผู้บริโภคมากแค่ไหน ก็ยิ่งเข้าไปในจิตใจและPassion ของผู้บริโภคได้ก็กลายเป็นภาพลักษณ์ที่ผู้บริโภคนั้นจะจำมากแค่นั้น จากรายงานนี้เองก็ยังได้เล่าถึงการสร้างแบรนด์ในยุคนี้ด้วยการทำ Content ที่เป็นประเภท Craft และ Artisan ขึ้นมาออกมาได้ 3 กลุ่ม นั้นคือ
- ทำงานร่วมกับศิลปินหรือช่าง Artisan ทั้งดีไซน์เนอร์และ Supplier เพื่อสร้างแบรนด์ในภาพลักษณ์ที่มีความ Craft ตั้งแต่การออกแบบเนื้อหา จนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์และตัวตนของแบรนด์ในการสื่อสารต่าง ๆ ออกมา
- การที่ใช้สินค้าใด สินค้าหนึ่งหรือแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งของตัวเอง ทำงานร่วมกับ Supplier ที่มีความ Crafting ต่าง ๆ ขึ้นมา ซึ่งการที่ต้องทำแบบนี้เพราะองค์กรตัวเองมีขนาดใหญ่ หรือมีหลายแบรนด์ย่อยภายใน ทำให้การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรมาเป็นเรื่อง Crafting เลยนั้นเป็นการยาก เช่นแบรนด์อย่าง Google หรือ Coca Cola ก็เริ่มแสดงให้เห็นในการ Crafting การสื่อสารทางการตลาดออกมาในหลาย ๆ ชิ้นงาน เพื่อให้เห็นความตั้งใจของแบรนด์
- การที่แบรนด์นั้นแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของช่างฝีมือหรืองานศิลป์ของแบรนด์ตัวเองว่าเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ในการสร้างสรรค์ออกมา เช่น Starbucks หรือ Dean and Deluca ที่ทุกคนเห็นแบรนด์นี้มีความเป็นช่างฝีมือผ่านบาริสต้า หรือร้านอาหารที่เป็น Fine Dining ต่าง ๆ ที่ให้ความรู้สึกของ Crafting ของอาหารและ Artisan ของจานอาหารนั้น ๆ
การสร้าง Crafting ของ Content เป็นการสร้างแบรนด์นั้นให้มีความรู้สึกว่ามีความน่าเชื่อถือ และมีความรู้สึกในการเข้าถึงในตัวตนของแบรนด์ที่สื่อออกมานั้นผ่านเนื้อหา Content ที่บรรจงสรรค์สร้างขึ้นมา เพื่อให้ผู้บริโภคนั้นได้ประทับใจในสิ่งที่เห็น สิ่งที่อ่าน ในหลาย ๆ แบรนด์ที่ทำนั้นคือการเอาประสบการณ์ของแบรนด์มาบอกเล่าในสิ่งที่ผ่านมา การบอกในสิ่งที่จะเป็นในอนาคต พร้อมทั้งการนำความคิดเห็นใหม่ ๆ หรือการให้ความรู้ใหม่ ๆ จากแบรนด์เพื่อให้ผู้บริโภคได้รู้สึกว่าได้เรียนรู้มากขึ้น
ทำไม Craft หรือ Artisan ถึงมีความสำคัญในยุคนี้ได้เพราะผู้บริโภคในยุคนี้มีพฤติกรรมที่อยากจะมีตัวตนของตัวเองมากขึ้น ไม่อยากมีอะไรที่เหมือนกัน ต้องการความใส่ใจและความสนใจจากแบรนด์ กระบวนการ Crafting และ Artisan นั้นเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในตลาดที่ niche มาก คนที่สนใจเรื่องนี้จะใส่ใจในแบรนด์ที่ให้ความสำคัญของตัวเองอย่างมาก และต้องการความใส่ใจในทุกขั้นตอนของการผลิตและการสื่อสาร เมื่ออินเทอร์เนตมาถึง ทำให้แบรนด์ Craft และ Artisan ต่าง ๆ มีโอกาสให้โลกรู้จักมากขึ้น และกลายเป็นแบรนด์ที่มี Emotional Value เพิ่มขึ้นมาทันที ทำให้หลาย ๆ แบรนด์นั้นต้องการที่จะไปถึงจุดนั้นในตอนนี้
httpv://www.youtube.com/watch?v=xESciie1Egg
ยุคนี้แบรนด์ต้องแสดงตัวตนของแบรนด์ออกมาให้เด่นชัด ผ่านการสร้าง Content ว่าตัวเองมีตัวตนอย่างไร การสร้าง Content ที่ตามกระแสหรือไม่ใส่ใจใน Content นั้น ๆ ทำให้การเสพ Content จะเป็นแบบครั้งเดียวจบ และไม่มีใครจดจำได้
Copyright © MarketingOops.com