แผนฉุกเฉินทางธุรกิจเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการไม่ค่อยคิดถึงจนถึงเวลาที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ฉุกเฉินจริงๆ
แต่อันที่จริงแล้วคุณควรมีแผนสำรองไม่ว่าจะเป็นแผนเกี่ยวกับภัยพิบัติ หากผู้นำหรือซีอีโอบริษัทเสียชีวิต หากคุณสูญเสียรายได้กระทันหัน หากไม่มีแผนสำรองเหล่านี้แล้วคุณอาจพบว่าชีวิตของคุณและพนักงานแขวนอยู่บนความหวาดวิตกอยู่ตลอดเวลา
จากการรายงานของ Small Business Association ธุรกิจกว่า 25% ไม่สามารถเปิดได้หลังเกิดภัยพิบัติใหญ่และอาจสูญเสียข้อมูล ความปลอดภัย และเสียผู้บริโภคเพราะความไม่พร้อมต่างๆ เช่น ไฟดับ น้ำไม่ไหล เอาเข้าจริงแล้วแม้แต่เหตุขัดข้องที่เกิดได้ทุกวัน ธุรกิจส่วนใหญ่ก็ไม่มีแผนสำรองไว้รับมือเท่าไหร่นัก
ดังนั้นวันนี้เรามาหาทางและแผนการณ์เพื่อรับมือช่วงเวลาวิกฤตกันดีกว่า
1.หาให้ได้ว่าภัยพิบัติที่มีสิทธิ์เกิดขึ้นคืออะไรและจะแก้ไขได้อย่างไร
ดูว่าเหตุการณ์อะไรอาจเกิดขึ้นและเตรียมทางรับมือไว้ก่อน หากไฟดับทำอย่างไร หากลูกจ้างลาออกทำอย่างไร การมีแผนสำรองเตรียมไว้จะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถดำเนินต่อไปได้แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นอกจากนั้น ควรก็อปปี้แผนนี้ให้คนอื่นที่เกี่ยวข้องรับรู้ไว้สัก 2-3 คนเผื่อเวลาฉุกเฉินนั้นคุณไม่ได้ทำงานอยู่
2.หากลยุทธ์ฟื้นฟู
เมื่อวิกฤติผ่านไป ควรรู้ว่าการดำเนินธุรกิจต่อไปไม่เพียงพอแต่คุณต้องหาทางเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นพร้อมๆ ไปกับการดำเนินงานต่อไป เริ่มแรกให้กำจัดข่าวลือทิ้งไปด้วยการแถลงข่าว จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้จากการสำรองมาเปิดดูเพื่อหาว่ามีอะไรเสียหายบ้างแล้วจึงฟื้นฟูให้เหมือนเดิม
3.หาทีมในช่วงเวลาฉุกเฉิน
นอกจากมีแผนแล้วคุณต้องมีคนรับผิดชอบในการปฏิบัติแผนของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากบริษัทของคุณมีพนักงานไม่กี่คน พนักงานคนไหนที่เหมาะสมจะปฏิบัติแผนนี้ และในกรณีที่คุณไม่อยู่คุณจะมอบหมายให้ใครขึ้นบัญชาการแทน
4.หาและฝึกแผนการ
สร้างแบบแผนและขั้นตอนปฏิบัติขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่พอคุณควรมีการฝึกซ้อมจริงๆ เมื่อเกิดเหตุวิกฤตขึ้นด้วย ลองแบ่งทีมออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายโจมตีและอีกฝ่ายเป็นฝ่ายคุ้มครองบริษัทของคุณจากนั้นลองสลับบทบาทเพื่อให้พนักงานเข้าใจว่าบริษัทจะถูกโจมตีได้ด้วยช่องทางไหน