การตลาดออนไลน์ในปัจจุบันเข้ามามีอิทธิพลกับแบรนด์สินค้าหรือธุรกิจทั่วทุกมุมโลก ทำให้หลายแบรนด์ได้มีการปรับกระบวนการวิเคราะห์ตลาด รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่ต้องเปลี่ยนไปตามประเภทช่องทางการขาย ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคนิยมออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ต้องหากลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่น่าสนใจมาดึงดูด ดังนั้นวันนี้จึงมาบอกเล่า กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ที่อาจจะสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจว่ามีอะไรกันบ้าง
1.กลยุทธ์การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing)
เชื่อหรือไม่ว่าคนไทยเข้าถึงโซเชียลมีเดียมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ และใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียมากถึงวันละเกือบ 3 ชั่วโมง ดังนั้น Social Media Marketing จึงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ไม่ควรมองข้าม
กลยุทธ์การตลาดผ่านโซเชียลมีเดียคือ การทำการตลาดบนช่องทางโซเชียลมีเดีย อาทิ Facebook, Twitter, LINE, TikTok, Instagram เป็นต้น โดยผ่านการสร้างคอนเทนต์ การพูดคุยปฏิสัมพันธ์ เพื่อการเพิ่มยอดขาย หรือสร้างการรับรู้ที่สำคัญต้องเลือกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เหมาะสม ตัวอย่าง
- Facebook, Instagram และ Twitter : เหมาะกับการเพิ่มยอดขายเพราะมีผู้ใช้งานจำนวนมากในแพลตฟอร์ม
- Instagram และ Pinterest : เหมาะกับสร้างการรับรู้ เพราะสองแพลตฟอร์มนี้เน้นไปที่การโพสต์ภาพและวิดีโอเป็นส่วนใหญ่
- Facebook Messenger และ Twitter DM : เหมาะกับการมีส่วนร่วมกับลูกค้า เพราะทั้ง 2 มีฟีเจอร์การแชตที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้งาน
2.กลยุทธ์การตลาดผ่านบทความ (Blogging)
ทุกวันนี้ผู้บริโภคส่วนต่างใหญ่ความสำคัญกับข้อมูลเพิ่มมากขึ้น พูดง่าย ๆ ก็คือหาข้อมูลก่อนจะซื้อหรือทำอะไรสักอย่าง เพราะสมัยนี้ใครก็สามารถเข้าไปอ่านบทความได้ทั้งนั้น และที่สำคัญเนื้อหาในบทความก็มีการใช้อินโฟกราฟิกเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่ายขึ้นไปอีก ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำได้ง่ายมีข่าวหรือกระแสต่าง ๆ ก็สามารถพิมพ์แล้วโพสต์ขึ้นได้เลย โดยจุดเด่นของกลยุทธ์การตลาดผ่านบทความ ได้แก่
- ใช้งบประมาณน้อย ไม่ยุ่งยาก
- บทความสามารถใช้งานได้เรื่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องทำใหม่
- เหมาะกับธุรกิจ B2B และ Niche Marketing อย่างยิ่ง
- เข้าถึงผู้บริโภคได้รวดเร็วก่อนใคร
- เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำ SEO และ Digital Marketing
3.กลยุทธ์การตลาดผ่านวิดีโอ (Video Marketing)
การตลาดผ่านวิดีโอเป็นรูปแบบหนึ่งของการตลาดดิจิทัลที่ใช้วิดีโอเพื่อโปรโมทแบรนด์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ได้ซึ่งในปัจจุบันวิดีโอได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิดีโอสั้นที่ ทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเจ้าต่าง ๆ อยากผลักดันตั้งแต่ TikTok, Reels ของ IG และ Facebook, Shorts จาก YouTube เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานและผู้ชม
โดยจุดเด่นของวิดีโอคือการเข้าถึงที่ง่าย เป็นวิดีโอที่ให้ความบันเทิง ให้ความรู้ ตอบโจทย์ความต้องการและ Pain Point ของกลุ่มเป้าหมาย โดยที่คุณภาพของวิดีโออาจจะไม่ต้องดีเหมือนกับโฆษณาบนโทรทัศน์ดังนั้นกลยุทธ์การตลาดผ่านวิดีโอ ไม่ใช่แค่การทำโฆษณาโปรโมตแบรนด์หรือสินค้าอีกต่อไป แต่สามารถสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ได้จริง
4.กลยุทธ์การตลาดผ่านผู้มีอิทธิพลบนสื่อ (Influencer Marketing)
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า Influencer marketing หรือการทำการตลาดผ่านนักรีวิวมาบ้างแล้ว หรือเคยเห็นแคมเปญการตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ เข้ามาโปรโมทสินค้ามาไม่น้อย แต่รู้ไหมว่าจริง ๆ Influencer marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่ใช้ “ผู้ทรงอิทธิพล” หรือมีชื่อเสียงให้ ‘ช่วยบอกต่อ’ แบรนด์หรือสินค้าให้คนที่ติดตามเขาได้รู้จัก
กลยุทธ์นี้ ใช้หลักจิตวิทยาที่ว่า “คนจะเชื่อคนที่เขาเชื่อถือ” ทำให้ผู้ที่เชื่อในตัว Influencer มีแนวโน้มที่จะเชื่อสิ่งที่เขาบอกหรือใช้สิ่งของตาม ในปัจจุบันการทำ Influencer marketing มักใช้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เพื่อช่วยในการทำการตลาด และสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ ซึ่งกลยุทธ์นี้ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็สามารถนำไปใช้ได้
5.กลยุทธ์การยิงแอด (Facebook Ads)
การยิงแอดคือการซื้อโฆษณาเพื่อยิงไปยังกลุ่มเป้าหมายที่อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ อย่าง Google, Facebook, Instagram, TikTok, Twitter เป็นต้น จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบเจาะจง ซึ่งในแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีวิธีการยิงแอด ที่แตกต่างกันออกไป โดยจุดเด่นของ Facebook Ads ได้แก่
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วและกว้าง
- สามารถกำหนด Target Audience ได้แบบเจาะจง ทั้งตามข้อมูลพฤติกรรม ความสนใจ
- สามารถทำโฆษณาได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Single Image, Photo,Post, Video เป็นต้น
การทำการตลาดบนโลกออนไลน์ที่ปราศจากการวางกลยุทธ์เปรียบเสมือนการเดินทางที่ไม่มีจุดหมาย เพราะการไม่วางแผนกลยุทธ์คือเราไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน และไม่สามารถกำหนดทิศทางในอนาคตได้ ดังนั้นการที่เรามีกลยุทธ์และเข้าใจการตลาดออนไลน์จะทำให้เราเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ไม่ยาก
