ใครๆ ก็บอกว่าเทคโนโลยีมันไม่เหมาะกับคนมีอายุเท่าไหร่หรอก ทั้งซับซ้อนและยังมีภาษาที่ยากแก่การเข้าใจมากกมาย แต่หากคุณอยู่ในตำแหน่งบริหารขององค์กร เชื่อไหมว่าการมองภาพกว้างในวงการเทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงทุกลมหายใจต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญ
ต่อไปนี้เป็นทิปส์เล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คน “ผู้มีประสบการณ์” อย่างคุณสามารถหาที่ทางให้กับตัวเองในบริษัทเทคโนโลยี ในวันที่ความสดใสและสร้างสรรค์เริ่มจางหายออกไป เหลือแต่ความเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถจัดการปัญหาทุกอย่างได้อย่างมีสติ
1.อย่ากลัวที่จะว่องไวไม่ว่าจจะอายุเท่าไหร่
ควรสร้างวัฒนธรรมองค์กรในการเปิดใจกว้างรับความล้มเหลวเพื่อเปิดรับความสำเร็จในอนาคต เราไม่คิดมากเกินไปเมื่อทำอะไร (ก็บริษัทเทคโนโลยีต้องการความรวดเร็ว) และเผชิญกับความผิดพลาดแต่จากนั้นเราจะพบข้อผิดพลาดที่จะกลายเป็นจุดเด่นของสินค้าในอนาคต ชาวมิลเลนเนียลอาจเป็นหัวข้อที่ทุกคนสนใจตอนนี้แต่อันที่จริง Gen Z ต่างหากที่น่าสนใจว่าปรับตัวกันยังไงให้อยู่ในโลกยุคเทคโนโลยี
อย่าลืมว่าพฤติกรรมลูกค้าของบริษัทเทคโนโลยีอาจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ความต้องการของพวกเขาไม่เคยเปลี่ยน ดังนั้นหากคุณจับเทรนด์ของสิ่งนี้ได้ ไม่ว่าจะวัยไหนยุคไหนคุณก็รุ่งได้ตลอดนั้นแหละ
2.หาเด็กรุ่นใหม่มีพรสวรรค์มาไว้ข้างกาย
ลงทุนจ้างและฝึกฝนพวกเขาแล้วคุณจะพัฒนาตัวเองมากขึ้น และนอกจากจะหาวัยสดใสมาทำงานแล้ว การศึกษาว่าพวกเขามีนิสัยแบบไหนและจ้างคนที่มีนิสัยหลากหลายมาร่วมงานก็สำคัญไม่แพ้กัน ความแตกต่างจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและทำให้เกิดคอนเทนต์ที่น่าตื่นเต้น
การเปลี่ยนแปลงจากวัยรุ่นไปสู่ผู้ใหญ่นั้นทำให้เราสามารถมองภาพกว้างโดยไม่ละเลยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญออกไปได้ เราสามารถเขียนรายงานการประชุม ตรวจเช็คว่าใครเป็นผู้มีอิทธิพลต่อลูกค้าของเราอย่างแท้จริง นอกจากนั้น ใครจะปฏิเสธได้ว่าความสร้างสรรค์ไม่ได้เกิดขึ้นได้จากข้อมูล
3.หาแรงบันดาลใจนอกอาณาเขตของคุณ
บางครั้งการอยู่แต่ในบริษัทหรือรั้งตำแหน่งเดิมตลอดก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อและไม่ทำให้คุณพัฒนาตัวเอง การออกไปทานอาหารเที่ยงนอกบริษัทหรือลองไปเป็นที่ปรึกษาให้องค์กรไม่แสวงหากำไรก็อาจช่วยให้คุณเปิดมุมมองใหม่และได้รับแรงบันดาลใจที่คาดไม่ถึงก็ได้
เหนือสิ่งอื่นใด ปลาที่ว่ายน้ำเป็นปลาที่คู่ควรกับบริษัทเทคโนโลยี ไม่ว่าคุณจะรุ่นไหนวัยไหน คุณก็ยังต้องว่ายทวนกระแสน้ำทำงานหนักในทุกวันอยู่ดี