คุณกำลังทำร้ายทีมคุณโดยไม่รู้ตัว ด้วย Micro management รึเปล่า

เวลาคุณมอบหมายงานให้ทีมทำ และให้เวลาว่างานนั้นจะเสร็จเมื่อไหร่ คุณจะควบคุมและบริหารจัดการทีมอย่างไรระหว่างปล่อยให้ทีมงานนั้นทำงานและคอยติดตามความคืบหน้าของงานนั้นเป็นระยะ หรือเข้าไปควบคุมการทำงานนั้นทุกจุด โดยให้ทีมงานนั้นรายงานมาทุกวัน และคอยแก้ทุก ๆ จุดรายละเอียดของการทำงานให้ตรงใจ ถ้าคุณเป็นแบบหลังนั้นรู้ไหมว่าคุณกำลังทำร้ายคนทำงานอย่างไม่รู้ตัว

การที่เข้าไปดูการทำงานและติดตามรายละเอียดทุก ๆ จุดตลอดเวลา และไม่ปล่อยให้เกิดการทำงานของคนทำงานซักที ทำให้คนทำงานนั้นอึดอัดใจและรู้สึกว่าถูกจ้างมาทำแผนและรายงานการทำแผนมากกว่าจะได้งานมากกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือการทำให้ทีมงานนั้นเกิดความรู้สึกว่าถูกลดอิสระในการทำงานลง และทำลายความมั่นใจของทีม ทำลายประสิทธิภาพของทีมงาน และทำให้ทีมงานนั้นถึงจุดที่คิดว่าจะลาออกได้เลย รูปแบบการทำงานแบบนี้นั้นเรียกว่า Micro-Management และการรู้ตัวเองก่อนว่าเป็นคนที่ทำงานแบบนี้รึเปล่านั้นจะช่วยให้หยุดความเสียหายต่อการทำงานได้

สัญญาณของ Micro Management คือ

การขอมีส่วนร่วมในทุก ๆ งาน หรือต้องการเห็นงานทุก ๆ การกระทำ
ขอมีส่วนร่วมหรือเอาตัวเองเข้าไปตัดสินใจในโปรเจคของคนอื่น
เริ่มวิจารณ์หรือปรับแก้ในรายละเอียดทุก ๆ จุด แทนที่จะมองภาพรวม นอกจากนี้ยังให้ทีมงานแก้งาน ทั้ง ๆ ที่จะถึงเวลาทำงานแล้ว เมื่อเจอจุดผิดพลาดเล็ก ๆ น้อยที่ไม่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการทำงาน 4. เป็นคนที่ลดทอนกำลังใจทีมงานด้วยการตัดสินใจโดยไม่ได้ปรึกษาทีมงานเลย

การกระทำของ Micro Management จริง ๆ แล้วก็แฝงไปด้วยความหวังดีในการทำงาน เพราะเป็นกังวลว่าทีมงานจะทำงานได้ไม่ดี หรือไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือถ้ามองในทางเลวร้ายก็จะเป็นการมองว่าคนที่เป็น Micro Management นั้นคือคนที่ต้องการจุดยืนว่า ถ้าไม่มีคนแบบตัวเองในโครงการนั้น ทีมงานนั้นจะทำงานไม่ได้หรืองานนั้นจะล้มเหลวได้ จึงทำให้คน ๆ นี้ต้องมีตัวตนในการบริหารจัดการในทุก ๆ จุด การเป็นคนที่บริหารจัดการที่ดีนั้นต้องทำให้ทีมงานรู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ที่ทำงาน และผลักดันทีมนั้นให้ไปถึงความสำเร็จ โดยจะชี้แนวทางหรือช่วยแนะนำในการทำงานเพื่อให้ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ แต่ Micro Management จะกลายเป็นการบริหารจัดการที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่าต้องทำงานตามคำสั่งมากกว่า และรู้สึกไม่ได้มีส่วนร่วมหรือความรับผิดชอบอะไรในการทำงานนี้ ที่ตัวเองไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และทำให้ทีมงานนี้สุดท้ายแล้วจะไม่เกิดการเติบโตในการทำงาน และไม่สามารถมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในการทำงานได้ เพราะต้องรอการตัดสินใจของคนที่ทำ Micro Management ก่อน

httpv://www.youtube.com/watch?v=wOlaqTFcKns

แล้วทำอย่างไรละที่จะเลิกเป็น Micro Management ที่ทำลายขวัญกำลังใจของทีมงานในการทำงานลง จากการศึกษาของ Harvard Business Review นั้นได้ให้กลยุทธ์ในการหยุดที่จะเป็น Micro Management ได้ 4 กลยุทธ์ด้วยกัน

พยายามก้าวข้ามความเป็นตัวเองนี้ไป : คนเป็น Micro Management มักมีข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อเข้าไปควบคุมการทำงาน หรือเข้าไปจัดการในรายละเอียดต่าง ๆ ข้ออ้างเหล่านี้ทำงายการทำงานของทีมอย่างมาก การที่คุณจะก้าวข้ามตัวเองได้นั้น ก็ต้องเลิกมีข้ออ้างเหล่านี้ หรือแทนที่จะหาเหตุผลว่าต้องเข้าไปจัดการ ลองหาทางคิดว่าทำไมคุณไม่ควรเข้าไปยุ่งในการทำงานของทีมดีกว่า
ปล่อยวางซะ : ความแตกต่างระหว่างผู้บริหารที่ดี กับผู้บริหารที่เป็น Micro Management นั้นนั้นคือคำว่า Micro การที่จะเป็นผู้บริหารที่ดีคือการต้องเลิกเป็นคนที่สนใจในรายละเอียดจุดเล็ก ๆ ที่เกินไป และปล่อยวางในการทำงานของทีมบ้าง การปล่อยวางนั้นยากแต่สามารถทำได้ด้วยการค่อย ๆ เริ่มทำในการปล่อยงานบางอย่างให้ทีมทำงานได้
บอกทีมให้ทำงานว่าต้องการจะได้อะไรออกมา มากกว่าที่จะบอกว่าทำอย่างไร ไม่ผิดอะไรที่ผู้บริหารหรือคนที่เป็นหัวหน้านั้นมีความคาดหวังในการทำงานของทีมว่าจะได้ผลอะไรออกมา แต่มันมีความแตกต่างระหว่างการบอกว่าอยากได้อะไร กับเข้าไปชี้นิ้วบอกให้ทำตามอย่างมาก การที่เป็นผู้บริหารนั้นหน้าที่คือมอบหมายให้ทีมทำงานให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้และไกด์ทีมเมื่อทีมมีปัญหา มากกว่าเข้าไปชี้นิ้วสั่งทุกอย่าง และวิธีแก้ปัญหาแทนที่จะบอกเลยว่าต้องแก้อย่างไร ลองถามความคิดเห็นทีมว่าจะแก้อย่างไรเพื่อให้ทีมได้มีส่วนร่วมออกมา
คาดหวังความสำเร็จจากทีม การที่คุณเป็นคน Micro Management นั้นเป็นเพราะคุณกลัวความล้มเหลวของทีมงานที่ไม่มีคุณคอยช่วยในการทำงาน แต่ถ้าคุณสามารถเชื่อใจว่าทีมงานว่าจะทำงานสำเร็จได้ ให้กำลังใจและชี้แนะแนวทางนั้น ทีมงานคุณจะเติบโตอย่างมาก

การเป็น Micro Management นอกจากจะทำร้ายทีมงานของตัวเอง ยังทำให้คุณเสียเวลาในการทำงานที่จะเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นไป เพราะต้องเอาเวลามาใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้มากมาย ใครที่เป็นอยู่ก็ลองเอา 4 กลยุทธ์นี้ไปใช้ เพื่อปรับปรุงตัวเองให้ทำงานกับทีม และให้ทีมทำงานได้ดีขึ้น