เรียนรู้จากตัวจริง ว่า Airbnb เปลี่ยนบริษัทตัวเองให้กลายเป็น Data-Driven Company ได้อย่างไร

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ในตอนนี้นั้นทุก ๆ บริษัทที่มีทรัพยากร ต่างต้องมุ่งไปยังการทำ Data และบริษัทใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ ต่างก็เข้าไปอยู่ใน Data Business แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Spotify, Airbnb, หรือ Google เองก็ทำ Data ที่จะสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าตัวเอง หรือกับธุรกิจตัวเองขึ้นมา ด้วยมูลค่าของ Data ที่ทำ ทำให้เกิดผลที่เป็นมูลค่ามหาศาลตามมา

การที่จะเริ่มกลายเป็นบริษัทที่เข้าไปอยู่ใน data business ได้นั้น มีหลากหลายเส้นทางได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสินค้าและบริการที่มีการเก็บ Data และใช้ Data ขึ้นมา แต่หลาย ๆ บริษัทนั้นเริ่มจากการที่ data นั้นเข้าไปอยู่ใน Top Management และให้อยู่ในกระบวนการทำ decision-making ให้ decision-making นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นมา

ในหนังสือ Blitzscaling Reid Hoffman ที่เป็น Co-founder ของ LinkedIn ได้พูดถึง Mark Pincus ที่เป็น Co-founder ของ Zynga บริษัทเกมบนมือถือ นั้นมีทีม Business Intelligence ใหญ่เป็น 5 เท่าของบริษัทโดยทั่วไปว่า Zynga must be dump.” หรือ Zynga นั้นต้องโง่มาก อย่างไรก็ตามการเก็บ Data ต่าง ๆ ของ Zynga นั้นทำให้สามารถทดสอบไอเดียต่าง ๆ และพัฒนาเกมต่าง ๆ ให้ได้ในความรวดเร็วอย่างมาก ทั้งหมดนี้คือการโฟกัสการใช้ Data ไปในการทำ decision-making  ซึ่ง Airbnb นั้นก็เริ่มต้นแบบเดียวกับ Zynga คือการใช้ Data เพื่อทำ decision-making เช่นกัน

เมื่อตอนที่ Airbnb เริ่มทำ Data ครั้งแรกได้จ้าง Riley Newman มาเป็น lead ของแผนก data science  สิ่งที่ Riley Newman คือทำให้แน่ใจว่า ผู้บริหารนั้นเข้าใจการทำ Data และ data นี้จะมาช่วยในการตัดสินใจได้อย่างไร โดย Riley Newman เริ่มกระบวนการสร้างให้ Airbnb เป็นบริษัท Data โดย

1. ให้มี data scientist ในทุก ๆ ทีมบริหาร ซึ่งแตกต่างจากที่อื่นที่ ทีม data science จะเป็นแผนกและรวมศูนย์กลางแต่นี้คือการเอาทีมเข้าไป cross-function ตั้งแต่แรก เพื่อให้ผู้บริหารเห็นความสำคัญของ Data ขึ้นมา

2.เลือกเป้าหมายและ Matrics ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำอะไร และทำการศึกษา Tactics ที่เป็นไปได้แล้วเลือก Option ที่ดีที่สุดขึ้นมาจาก matrics ที่เลือกไปตอนแรก

3. เริ่มทำการทดลองกลุ่มควบคุม ว่า Data ที่ทำออกมาได้ผลเป็นอย่างไร

4. ถ้าผลออกมาแล้วดี ให้ลองทำกับแผนกอื่น ๆ ถ้าไม่ดีให้กลับไปเริ่มต้นใหม่

ด้วยการที่ Riley Newman ทำการ cross-function แต่แรกทำให้สามารถประสานความต้องการทางเรื่อง Business กับ Data เข้าด้วยกันเป็นอย่างดี ซึ่งต่างในปัจจุบันที่ทีม Data กับทีม Business ต่างคนต่างอยู่และสื่อสารไม่รู้เรื่องจนกลายเป็นช่องว่างขึ้นมา ด้วยการทำของ Riley Newman ทำให้ทั้งหมดกลายเป็นทีมเดียวกันที่มีเป้าหมายร่วมกัน มองเห็นข้อจำกัดของกันและกัน นอกจากนี้ยังทำให้การเล่า Data นั้นดีขึ้น สร้าง insight ที่ดีขึ้นมา ทำให้การตัดสินใจทางธุรกิจนั้นถูกต้องอย่างมาก

จากการที่เริ่มทำ Data ของ Airbnb ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพื่อทำ decision-making เพียงอย่างเดียว แต่เพื่อเตรียมพร้อมในการขยายบริษัท Brian Chesky ได้เคยเล่าไว้ว่า Model การบริหาร Airbnb ไว้ว่า ให้ทำด้วยมือตราบเท่าที่จะทำได้ แล้วหลังจากนั้นให้ใช้เครื่องมือ automate เข้ามาช่วยทีละนิด ซึ่ง Riley ก็ทำเช่นกันเมื่อทีม Data ไม่สามารถจัดการข้อมูลด้วยมือได้แล้ง ก็ขยายโดยการใข้เครื่องมือ โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มคน ทำให้การตัดสินใจนั้นดีขึ้น เร็วขึ้น มากอีกด้วย

Airbnb นั้นทำให้เห็นตัวอย่างที่ดีในการเอา Data มาใช้งานและเปลี่ยนจากบริษัทที่ไม่ได้สนใจ Data แต่แรกมาเป็นบริษัทdata business ได้เต็มตัวโดย สนใจการทำ การตัดสินใจก่อน แล้วค่อยทำ Data ตามมา หลาย ๆ ครั้งบริษัทล้มเหลวในการทำdata เพราะแผนก data เป็นแค่กลุ่มคนที่ไม่ได้อำนาจ เข้าไม่ถึงการตัดสินใจใด ๆ เลย ทำให้ล้มเหลวไปได้ นอกจากนี้ Airbnb ยังทำให้เห็นว่าจะสามารถทำบริษัท data business ให้ยั่งยืนได้อย่างไรด้วยการ

1. cross-function ทีมเพื่ออุดรูรั่วความไม่เข้าใจกันระหว่างทีม และทำให้การทำงานรวดเร็วมากขึ้น

2. ใช้ Data ไม่เพียงเพื่อทำการ decision-making แต่ใช้เพื่อทำให้ decision-making นั้นเร็วและทันต่อการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นนั้นเอง


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ