9 คำถามที่ควรถามตัวเอง ก่อนจะทำ Survey

เครื่องมือหนึ่งที่สำคัญในการทำธุรกิจและการสื่อสารทางการตลาดอย่างมากตัวหนึ่งคือ การทำ Survey  ด้วยการทำ Survey นี้สามารถทำให้ผู้ทำนั้นได้รับคำตอบที่ต้องการมากมาย และทำให้เห็นถึง insight หลาย ๆ อย่างจากผู้ตอบ Survey เหล่านี้ขึ้นมา เพื่อนำมาปรับปรุงกระบวนการทำงานตั้งแต่การสร้างสินค้าและบริการ จนถึงการทำการตลาดได้เลยทีเดียว

ในอดีตนั้นกระบวนการทำ Survey นั้นต้องจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการทำแบบสำรวจและวิจัยต่าง ๆ ถ้าอย่างบริษัทใหญ่ ๆ ก็เป็นบริษัทจำพวก McKinsey, Gartner, และ Forrester แต่ในยุคนี้กลับมีเครื่องมือมากมายที่ให้คนทั่วไปหรือนักการตลาดเองเข้าไปใช้งานเพื่อสร้างแบบสำรวจตั้งแต่แบบสำรวจที่ไปสอบถามตามบ้านหรือตามถนน จนถึงใช้เครื่องมือออนไลน์ง่าย ๆ อย่าง Google Form ในการทำแบบสำรวจที่สุดท้ายต้องมาวิเคราะห์ผลแบบสอบถามเอง จนถึงแบบซับซ้อนอย่าง Survey Monkey ที่จะมีผลวิเคราะห์เบื้องต้นมาด้วย แต่ก่อนที่จะไปทำแบบสำรวจเหล่านี้ได้ สิ่งหนึ่งที่ควรทำก่อนคือการตั้งคำถามต่อการทำแบบสำรวจเหล่านี้ เพื่อไม่ให้ทำงานไปผิดทาง หรือเสียเวลาในการทำงานไป ทั้งนี้นี่คือ 9 คำถามที่ควรถามก่อนจะทำ Survey

1. ทำไมต้องทำ Survey นี้ : หลาย ๆ คนนั้นทำ Survey โดยไม่ได้รู้ว่าจะหาอะไรจาก Survey ที่ทำ หรือไม่รู้ว่าทำไปทำไมเลยด้วยซ้ำ นั้นทำให้ Survey ที่ออกมานั้นไม่มีทิศทางและไม่มีคำถามที่ดีที่จะได้คำตอบที่ต้องการด้วย เพราะฉะนั้นก่อนทำ Survey ควรต้องเป้าหมายก่อนว่าอยากได้อะไรจาก Survey นี้

2. จะทำ Survey นี้กับใคร  : หลาย ๆ คำถามที่ถามไปใน Survey ล้วนให้คำตอบที่ดีอย่างมาก แต่มันจะไร้ประโยชน์มากถ้าไปถามผิดคน เพราะไม่ได้ไปเจอลูกค้าจริง ๆ หรือกลุ่มเป้าหมายที่จะใช้สินค้าและบริการนั้นจริง ๆ ซึ่งทำให้คุณจะได้คำตอบที่ผิดทางอย่างมาก เหมือนถามเรื่องนมแม่กับคนไม่มีลูก หรือถามเรื่องสัตว์เลี้ยงกับคนไม่ชอบสัตว์ เพราะฉะนั้นวางแผนก่อนว่าจะถามใคร เพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้อง

3. จะใช้วิธีการใด : การเลือกวิธีการนั้นสำคัญอย่างมาก เพราะวิะีการแต่ละอันก็มีข้อดี ข้อเสีย เช่นการทำแบบสอบถามออนไลน์ อาจจะสะดวก แต่ไม่ได้ให้อารมณ์ ไม่สามารถถามต่อได้ทันที การถามแบบตัวต่อตัวสามารถถามได้เยอะ แต่ก็อาจจะตอบไม่ตรงตามความเป็นจริง หรือการสอบถามผ่านโทรศัพท์ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูง เพราะฉะนั้นการใช้วิธีการแต่ละแบบนั้นต้องเลือกให้ดีว่าวิธีการไหนที่เหมาะกับการทำ Survey ของคุณ

4. คำถามแบบไหนที่เราอยากได้ตอบ : ปัญหาคือเราอยากทำ Survey แต่หลาย ๆ ครั้งเราไม่ได้คิดถึงเลยว่าทำไปแล้วเราอยากจะได้อะไรจากคำถามที่เราถามไป เพราะฉะนั้นก่อนที่จะทำคำถามทุกอันควรมีวัตภุประสงค์ในการตั้งคำถามว่า คำถามนี้ต้องการคำตอบแบบไหน ไปเพื่ออะไรด้วย

5. ทำไมคนต้องมาตอบแบบสอบถามเรา : อันนี้ปัญหาคลาสสิค ว่าทำไมคนต้องมาเสียเวลาตอบคภามเรา ตอบไปแล้วเค้าได้ส่วรได้ ส่วนเสียอะไร สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือการทำแบบสอบถามนี้ให้มันสนุกเพื่อที่จะทำให้คนตอบอยากตอบมีส่วนร่วม หรือถ้าไม่งั้นก็ลองใช้รางวัลในการทำแบบสอบถามเป็นการจูงใจออกมา

6. คำถามชัดเจนและเคลียร์รึเปล่า : หลาย ๆ ครั้งทำ survey มาไม่ได้อะไร เพราะปรากฏว่าทำคำถามที่ออกไปไม่ชัดเจน ทำให้คนตอบนั้นไม่เข้าใจคำถามหรือไม่รู้จะตอบอะไร ทั้งนี้ระวังการตั้งคำถามที่ระบุเจาะจงลงไปทำให้ผู้ตอบที่ไม่ได้อยู่ในตัวเลือกที่ระบุตอบไม่ได้ หรือกว้างไปจนไม่รู้จะตอบอะไร

7. เราจะรายผลการทำแบบไหน : ผลที่ได้จากแบบสอบถาม ก็ต้องคิดว่าจะเอาไปรายงานผลแบบไหน จะออกเป็นแถลงข่าว หรือออกเป็นรายงานออกมา การสร้างการรายงานผลที่เหมาะกับผลสำรวจนั้นสร้างมูลค่าการทำได้มากมายและก่อให้เกิดผลมากมายต่อสังคมมากขึ้นด้วย รวมทั้งวิะีการนำเสนอต่าง ๆ ที่สวยงามและน่าดึงดูดทำให้การอ่านผลการสำรวจนั้นน่าทำขึ้นเยอะ

8. จะใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบไหน : หลาย ๆ ครั้งทำการสำรวจออกมา แต่กลับใช้สถิติอย่างง่ายในการทำการวิเคราะห์ผลเช่นการหาค่าเฉลี่ยออกมา แต่จริง ๆ แล้วการหาค่าทางหลักสถิตินั้นมีมากมาย หรือการหาความสัมพันธ์ต่าง ๆ ค่าการเบียงเบนหรืออื่น ๆ อีกมากมาย การใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกต้องนั้น ย่อมทำให้ได้ผลการทำวิจัยต่าง ๆ ที่ถูกต้องด้วย

9. เราซื่อสัตย์กับผลนั้นจริง ๆ ไหม : สุดท้ายแล้วผลที่ออกมาบางครั้งอาจจะไม่ถูกใจผู้ทำ แต่การไม่ยอมรับผล หรือแก้ไขผลนั้นเพื่อให้ได้ผลที่ถูกใจ จะทำให้ผลที่ได้และผลที่ตามมานั้นเลวร้ายกว่าเดิม เพราะขั้นแย่คือคุณจะเสียชีเสียงจากการทำวิจัยที่ผลไม่เป็นจริง แต่ขั้นเลวร้ายกว่าคือการทำให้การตลาดนั้นเดินไปผิดทาง ซึ่งเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เสียทั้งโอกาส จนถึงขั้นบริษัทล้มเหลวได้ (ในอดีตก็มีตัวอย่างให้เยอะแล้ว) เพราะฉะนั้นจงยอมรับในผลที่เกิดขึ้น ถ้าผลไม่ดีก็ทำให้เรารู้ความจริงเพื่อการรับมือต่อไป แต่ถ้าผลดีก็ทำให้เรารู้ว่าจะต้องต่อยอดอะไรต่อไปได้

Related posts:

3 เหตุผลที่คุณไม่เจอลูกค้าในฝันของคุณ เมื่อ Marketing Automation ทำร้ายประสบการณ์ผู้บริโภค มารู้จัก 6 รูปแบบของหลักจิตวิทยา social proof และการใช้งานให้เจ๋ง 4 เรื่องทางจิตวิทยาที่ทำให้การตลาดคุณไปไกล Consistency อีกหนึ่งหลักการสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ อยากเป็นผู้นำทางการตลาดต้องกล้าเสี่ยงและออกนอกกรอบ