[how to] 6 วิธีพัฒนาศักยภาพตนเองแบบต้นทุนต่ำ

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

selfdevelopment

ยามเมื่อก้าวเท้าเข้าไปทำงาน หากคุณเจอบอสที่สนับสนุนให้คุณพัฒนาตัวเอง ผลักดันให้ไปฟังสัมมนาหรือเทรนนิ่งพิเศษเป็นประจำก็ถือเป็นเรื่องโชคดีไป แต่หากเกิดในทางกลับกันสิ่งที่คุณทำได้คือการพยายามพัฒนาตัวเองในทุกวิถีทาง

เพราะความสามารถคือทรัพย์สินส่วนตัวของคุณไม่ใช่ของบริษัท ดังนั้นแม้ว่าบริษัทจะไม่จ่ายเงินให้คุณไปฝึกฝนตัวเองแต่ก็มีบางอย่างที่คุณสามารถทำได้โดยไม่ต้องเสียสตางค์มากมาย ลองดูกันครับ

1.อ่าน (หรือฟัง) หนังสือ บทความ สัมมนา

ลองหาหนังสือ บล็อก หรือคลิปเสียงสัมมนาต่างๆ ที่เพิ่มความสามารถเฉพาะด้านให้กับคุณ ดังนั้นแทนที่จะอัพเดทข้อมูลประจำวันอย่างเดียว ลองจัดตารางวันล่ะ 30 นาทีเพื่อเรียนรู้เครื่องมือ ทักษะ และผู้คนที่อยู่ร่วมในธุรกิจประเภทเดียวกับคุณ

2.ร่วมองค์กรวิชาชีพ

องค์กรวิชาชีพเหล่านี้มักถูกมองข้าม แต่จริงๆ แล้วมันเป็นสถานที่ชั้นเยี่ยมสำหรับการพัฒนาตนเอง การจัดสัมมนา และเชื่อมต่อคนในแวดวงเดียวกันเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการต่างๆ จะสามารถให้คำแนะนำกับคุณได้ว่าจะแก้ปัญหาที่คุณกำลังเจออยู่ได้อย่างไร อย่าลืมขอแอดเคาท์โซเชียลมีเดียของพวกเขาไว้ด้วยนะ

3.เข้าร่วมคลาส

ปัจจุบันมีคอร์สออนไลน์จากมหาวิทยาลัยทั่วโลก เช่น มหาวิทยาลัย Northwestern พาเหรดมาให้คุณเลือกมากมาย เมื่อคุณจะเข้าร่วมคลาสก็เพียงแค่จัดตารางการเรียนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ นอกจากนี้ยังมีองค์กรทางเทคโนโลยีมากมายที่มีคอร์สลักษณะนี้เช่น Google หรือ Apple

4.ร่วมอีเวนท์ต่างๆ

แม้องค์กรของคุณจะไม่ได้จัดงานเสริมความรู้แต่องค์กรอื่นอาจจะจัดก็ได้ ดังนั้นให้พยายามใช้เครือข่ายของคุณเพื่อหาว่ามีอบรมลักษณะดังกล่าวอยู่ที่ไหนบ้างแล้วตามไปอบรมเพื่อเพิ่มทักษะและคอนเนคชั่น

5.มองไปรอบๆ ออฟฟิศ

มองไปรอบๆ ตัวคุณว่าเพื่อนร่วมงานกำลังทำอะไรอยู่และเป็นอะไรที่คุณสนใจหรือเปล่า หากใช่แล้วล่ะก็มีทางที่เราจะไปตีสนิทและเรียนรู้ทักษะเหล่านั้นได้หรือไม่

6.อาสาตัวเอง

แน่นอนว่าองค์กรไม่อยากให้คุณทำงานที่คุณมีประสบการณ์น้อยหรอก พวกเขากลัวความผิดพลาด แต่หากคุณอาสาตัวเองเพื่อทำงานเพิ่มนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การทำงานโดยไม่หวังผลตอบแทนบางครั้งก็ทำให้คุณได้โอกาสที่ดีในการพัฒนาตัวเอง

Source


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง