6 เคล็ดลับ เพิ่มประสิทธิภาพการทำ Direct Marketing

  • 8
  •  
  •  
  •  
  •  

GettyImages_518703367-higlight

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน แนวทางการทำตลาดนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากไม่มีอินเตอร์เน็ต มาสู่ยุคที่ทุกแบรนด์ต้องใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อเจาะตลาด เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เสียไป ก็คาดหวังว่าจะได้ผลกำไรกลับคืนมา

แต่ในการทำตลาดนั้น คุณจะลืมพื้นฐานสำคัญไปไม่ได้ โดยเฉพาะ Direct Marketing ที่ถูกนำมาใช้เพื่อส่งข้อมูลข่าวสารทางการตลาด ประชาสัมพันธ์สินค้า หรือบริการไปยังกลุ่มเป้าหมาย เรียกได้ว่าเป็นการตลาดแบบมุ่งเน้นรายบุคคล ถือเป็นกลยุทธ์ที่ใช้เงินลงทุนน้อย และสามารถควบคุมทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง ปัจจุบัน Direct Marketing ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โทรศัพท์ Direct Mail และแคตตาล็อคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอินเตอร์เน็ต และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอีกด้วย

นี่คือ 6 เคล็ดลับที่จะช่วยพัฒนาการทำ Direct Marketing สำหรับปี 2015

1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย

อันดับแรกคือ คุณต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร เพราะการทำตลาดแบบ Direct Marketing จะเน้นการสื่อสารไปยังแต่ละคน ที่มีความต้องการแตกต่างกัน รวมถึงการสร้างการรับรู้ของผู้บริโภค ถ้าคุณกำหนดเป้าหมายได้ชัดเจน ก็จะช่วยให้การทำงานมีทิศทางมากขึ้น และควบคุมค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

2. สร้างรูปลักษณ์ให้น่าจดจำ

การสร้างรูปลักษณ์ในที่นี้หมายถึง ผลิตภัณฑ์ เว็บไซต์ และทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ เพราะการมีดีไซน์ที่โดดเด่นจะทำให้ผู้บริโภคจดจำ อย่ากลัวที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แต่ถ้าคุณไม่มีทีมงานออกแบบ ก็สามารถใช้บริการผู้เชี่ยวชาญได้ ผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอน

3. ขายผลลัพธ์ มากกว่าสินค้า

เป็นความจริงว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจกับกระบวนการผลิตนัก พวกเขาจะเลือกของที่ตัวเองชอบ และต้องการเท่านั้น อาทิ เอไม่ถนัดเรื่องแฟชั่น แต่ในงานเลี้ยงเธอต้องการดูผอมเพรียว หน้าที่ของคุณคือต้องจัดเสื้อผ้าตามความต้องการของลูกค้า พวกเขาต้องการความสะดวกสบาย ไม่ยึดติดกับกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ตราบใดที่ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ

4. ความรู้สึกมาเป็นอันดับแรก

ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว ที่เราบอกว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เน้นผลลัพธ์มากกว่าตัวสินค้า นั่นก็เพราะคนส่วนใหญ่มักจะใช้สมองซีกขวาในการตัดสินใจ เพราะสมองซีกขวาทำหน้าที่ในเรื่องของการทำความเข้าใจ ความรู้สึกดื่มด่ำต่อศิลปะ เพลง และการใช้จินตนาการในการดำเนินชีวิต แม้สมองซีกซ้ายจะมีหน้าที่ใช้เหตุผลมากกว่า แต่คนส่วนมากก็ยังใช้อารมณ์และความรู้สึกในการตัดสินใจอยู่ดี สำหรับผู้ประกอบการ และนักการตลาด จึงต้องพัฒนาสินค้า และบริการให้ดึงดูดใจ สร้างการมีส่วนร่วมทางอารมณ์ให้ได้ เพื่อนำไปสู่การซื้อสินค้า

5. หลักของการทำ Direct Marketing

คุณต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า มีฐานข้อมูลที่ดี ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน รวมถึงมีข้อเสนอที่ดี อาทิ ผลิตภัณฑ์/บริการ ราคา เงื่อนไขการชำระเงิน การจัดส่ง ส่วนลดพิเศษต่างๆ และระยะเวลา ที่สำคัญคือการเลือกใช้สื่อในแต่ละประเภท ต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมาย การสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและองค์กร รวมถึงต้องมีการประเมินผลอีกด้วย

6. Mobile Marketing

Mobile Marketing ได้ถูกใช้งานทั่วโลก ล่าสุด Google ยังได้เผยว่า ภายในสิ้นปีนี้การค้นหาข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟน จะมีอัตราสูงกว่าการค้นหาผ่านเดสก์ทอป โดยร้อยละ 70 ของการค้นหาผ่านสมาร์ทโฟน จะนำไปสู่การขายภายใน 1 ชั่วโมง แตกต่างการค้นหาผ่านเดสก์ทอป ที่จะปิดการขายภายใน 1 เดือน

และคาดว่าในอนาคต Snapchat จะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการทำ Mobile Marketing อย่างมาก บริษัทใหญ่ๆ อย่าง McDonald’s, GrubHub และ Mountain Dew ก็ได้เริ่มใช้งาน Snapchat ไปบ้างแล้ว เพื่อเปิดตัวสินค้าใหม่ และการเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น

ในยุคที่การแข่งขันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์ต่างๆ ก็พยายามใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์ที่สุด ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนผลักดันให้การตลาดทางตรงมีความสำคัญมากขึ้น ได้แก่ พฤติกรรมผู้บริโภค การจะให้ผู้บริโภคจงรักภักดีต่อแบรนด์ไปตลอดจึงเป็นเรื่องยาก พวกเขาพร้อมจะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่นทันทีเมื่อได้ข้อเสนอที่ดีกว่า ถ้าคุณมีการปรับปรุงการสื่อสารได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยกระตุ้นความสนใจของลูกค้าแต่ละคนได้ดีกว่า

จากที่กล่าวไปทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าการตลาดแบบทางตรง หรือ Direct Marketing เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะถ้ารอให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเองก็คงไม่ได้การ ยุคนี้จึงต้องอาศัยความรวดเร็วและเข้าถึงได้ตรงจุด ถ้ามัวแต่รีรอ ไม่ลงมือทำ ลูกค้าที่แสนมีค่าก็จะตกไปอยู่ในมือคู่แข่งทันที

แหล่งที่มา


  • 8
  •  
  •  
  •  
  •