การเริ่มต้นธุรกิจกับเพื่อนๆ เป็นอะไรที่ค่อนข้างเสี่ยงและท้าทายอยู่มากทีเดียว ซึ่งก็มีหลายรายตามข่าวอย่างที่เราทราบกันดีอยู่ ที่เพื่อนลงทุนร่วมกับเพื่อนแต่สุดท้ายนอกจากธุรกิจจะไม่ประสบความสำเร็จแล้ว มิตรภาพก็พังพินาศไปด้วย
ในทางหนึ่งคุณต้องการผู้ร่วมก่อตั้งที่สามารถผลักดันคุณไปได้ คนประเภทที่รอบรู้และเติมเต็มในสิ่งที่คุณไม่รู้ได้ ผู้ร่วมก่อตั้งที่ ‘ใช่’ จะต้องมีทักษะ มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะต้องทำให้ลูกทีมเชื่อและยำเกรงเขาได้ และถ้าคุณมีเพื่อนที่มีลักษณะแบบนี้ถือว่าคุณโชคดีมากเลย แต่อย่าคิดว่าทุกๆ อย่างกำลังจะไปได้สวย อันที่จริงมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก ดังนั้น ต่อนี้คือสิ่งที่คุณควรจะทราบหรือเรียนรู้ก่อนที่จะร่วมธุรกิจกับเพื่อน เพื่อช่วยให้คุณกระจ่างชัดในหลายๆ ประเด็นให้มากขึ้น
อยู่ในเลนส์ของตัวเอง
อย่างแรกคุณต้องกำหนดบทบาทของคุณให้ได้ก่อน จากนั้นเมื่อคุณดีลกับเพื่อนก็ประสานความร่วมมือทำทุกอย่างร่วมกันให้เป็นธรรมชาติ โดยที่แต่ละคนนั้นมีบทบาทความรับผิดชอบแบ่งแยกกันออกไป จากนั้นทำความเข้าใจร่วมกันถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของทีม และใช้ความรู้ของแต่ละคนที่มีรับผิดชอบตามความถนัดเพื่ออุดช่องโหว่ นอกจากนี้ ควรที่จะเคร่งครัดไปตามหน้าที่ของแต่ละคน ไม่ควรก้าวก่ายซึ่งกันและกัน และโฟกัสในแต่ละส่วนที่รับผิดชอบกันไป
พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่แรกเริ่ม
หนึ่งซีอีโอ หนึ่งหัวหน้าฝ่ายสินค้า หนึ่งหัวหน้าฝ่ายขาย และอื่นๆ อีก เป็นอีกครั้งที่คุณควรจะรู้จักจุดอ่อนจุดแข็งของทีมซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ มากกไปกว่านั้น คุณควรที่จะไม่เกรงกลัวที่จะพูดอะไรเปิดเผย หรือวิจารณ์อะไรตรงๆ ในเรื่องงาน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาศักยภาพ กรรมสิทธิ์หุ้น เงินเดือน ลักษณะงาน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ควรจะเริ่มพูดตรงๆ ตั้งแต่แรกไปเลย เพราะถ้าซุกเอาไว้นานๆ เข้าก็จะเป็นผลเสียต่อไปในภายหน้าได้
ธุรกิจไม่ใช่ประชาธิปไตย
สมัยเด็กๆ เราอาจจะคิดว่าการแบ่งปันและการประนีประนอมเป็นเรื่องดีที่ควรทำกับเพื่อน และยังคิดอีกว่าประชาธิปไตยคือรูปแบบการปกครองที่แฟร์ที่สุด
แต่ตรงจุดนี้อยากจะให้ลองพิจารณาใหม่ให้ถี่ถ้วน ธุรกิจไม่ใช่สนามเด็กเล่น และก็ไม่ใช่ประเทศด้วย ดังนั้น คำที่เหมาะสมกับประเด็นนี้ที่สุดน่าจะเป็นลักษณะของการเป็น “เผด็จการผู้ทรงคุณ” (Benevolent dictator อย่างเช่นอดีตประธานสิงคโปร์ ลี กวนยู)
ทั้งนี้ ในบางครั้งการดำเนินธุรกิจก็จะต้องเด็ดขาดและเผด็จการบ้าง แต่เป็นการใช้อำนาจอย่างถูกต้องและระมัดระวังที่สุด กับบางเรื่องนั้นหากจะใช้การโหวต หรือต้องผ่านกรรมการ หรือต้องนำมาถกเถียงอภิปรายกันก่อนนั้น ดูจะเป็นเรื่องที่เสียเวลาและไม่ได้ประโยชน์อะไรกับภาพรวมของบริษัท บางครั้งเผด็การกับบางเรื่องบ้างนอกจากจะเป็นการประหยัดแล้วยังง่ายต่อการตัดสินใจด้วย
ปรับทัศนคติเข้าหากัน พร้อมเปิดรับไอเดียใหม่
แม้ว่าคุณกับเพื่อนอาจจะซี้แน่นปึ้กกันมาก คุณอาจจะผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะหรือมีนิสัยหลายอย่างคล้ายกัน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจทำให้เกิดรากฐานสำคัญของความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน แต่นั่นมันคือมิตรภาพความเป็นเพื่อน ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาต่อทัศนคติทางด้านธุรกิจได้ และจะกลายเป็นจุดบอดที่สำคัญ
ดังนั้นถ้ามีโอกาสลองเปิดใจคุยกับเพื่อนของคุณดูในเรื่องนี้ เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน พร้อมกับจ้างบุคคลที่สามารถให้ไอเดียอะไรใหม่ๆ กับพวกคุณด้วย เพราะประสบการณ์ที่เหมือนๆ กันของเพื่อนและของคุณ อาจจะทำให้ธุรกิจไม่มีความแปลกใหม่
ออกไปหาไอเดียร่วมกันบ้าง
การเริ่มต้นธุรกิจกับเพื่อนอาจะหมายถึงสังคมที่มีความคล้ายคลึงกัน ไอเดียใหม่ๆ ที่ควรจะมีอาจจะดรอปลงไป ดังนั้น การออกไปเพื่อพบเจอสิ่งใหม่ๆ ข้างนอกร่วมกันบ้างอาจจะเป็นทางออกที่ดี เช่น การไปดินเนอร์ร่วมกัน การไปแฮงก์เอาท์ร่วมกันบ้าง ก็น่าจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมของคุณได้ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังการเพิ่มคนใหม่เข้ามาในวงจรความสัมพันธ์นี้ ซึ่งในทางหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องดีของการเพิ่มไอเดียใหม่ๆ แต่ในทางหนึ่งอาจจะเป็นคนทำให้พังก็ได้
การเริ่มต้นธุรกิจกับเพื่อนนับว่าเป็นเรื่องดีและมีค่ามาก การสร้างบางสิ่งจากที่ไม่มีอะไรเลยจนมาเป็นสิ่งที่น่าทึ่งได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ และจะยิ่งดีไปกว่านั้นอีกถ้าสิ่งที่คุณสร้างทำร่วมกับคนที่คุณคุ้นเคยและชอบพอกัน แต่หนทางทั้งหมดนั้นอยู่บนความเสี่ยงและอาจจะกลายเป็นจุดบอดที่สำคัญของธุรกิจได้ แต่ถ้าคุณทำด้วยความรอบคอบและหลักแหลม คุณก็จะประสบความสำเร็จได้ในที่สุด