การทำ Video นั้นเรียกได้ว่ากลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำ Content Marketing ในยุคนี้อย่างมาก มีกูรูหลาย ๆ คนบอกว่าในปี 2018 นั้นจะกลายเป็นปีของการทำ Video ทำให้แน่นอนว่าเราจะเห็นวิดีโอขึ้นมามายในหน้า Feed ต่าง ๆ ที่ผ่านตาเราไป และหลาย ๆ คนก็บอกว่าคนจะบริโภคเนื้อหา Video ต่าง ๆ นั้นมากขึ้นไปอีก ทั้งนี้ด้วยอนาคตที่จะมาถึงแบบนี้นักการตลาดที่ทำวิดีโอนั้นจะทำอย่างไรให้วิดีโอตัวเองนั้นเหนือกว่าคนอื่นขึ้นได้ไปอีกนั้นคือโจทย์สำคัญที่ต้องหาทางแก้
แต่ความโชคดีนั้นคือทั้ง Facebook และ 3rd Party Tools ต่าง ๆ นั้นได้ทำการวิจัยและใบ้ทางออกตรงนี้ให้นักการตลาดแล้ว โดยเฉพาะอย่าง Buzzsumo นั้นได้ทำการวิเคราะห์ Facebook Video กว่า 100 ล้านชิ้นในปีที่แล้ว และทำการสร้าง insight ที่น่าสนใจออกมาในการทำ Video ในปี 2018 นี้ ซึ่งจะช่วยทำให้นักการตลาดนั้นสามารถสร้าง Video ที่จะแชร์มาขึ้นและดึงดูดให้เกิดปฏิสัมพันธ์ขึ้นตามมาอีกได้อย่างมากมายใน Facebook และนี้คือ 5 ข้อที่น่าสนใจที่จะช่วยทำให้วิดีโอคุณดีขึ้นในปี 2018
1. ทำวิดีโอให้ถูกพฤติกรรม : หลาย ๆ ครั้งนักการตลาดหรือเอเจนซี่มักจะทำวิดีโอออกมา โดยไม่ได้สนใจว่าคนนั้นจะดูวิดีโอตอนไหนหรืออย่างไร ทำให้การทำวิดีโอนั้นมีความยาว หรือเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในการดูเนื้อหานั้นซึ่งทำให้วิดีโอที่มีเนื้อหาที่ดีไม่ถูกดูมากขึ้นไปอีก ทั้งนี้ Facebook ได้นำเสนอพฤติกรรม 3 แบบในการดูเนื้อหาใน Facebook ขึ้นมา นั้นคือ 1. On the go คือวิดีโอที่ผู้บริโภคดูในระหว่างเดินทางหรือเดินดูวิดีโอ ซึ่งวิดีโอประเภทนี้จะไม่เล่นเสียง และมีความยาวสั้นมาก ดูแล้วจบในตัวไม่ดึงความสนใจของคนที่ดูจนมากเกินไป 2. Lean Forward คือวิดีโอที่มี Engagement ในทางบวกหรือมีความสนใจแบบความเพลินเพลิน ซึ่งวิดีโอพวกนี้จะดูในระหว่างพักผ่อนหรือยามมีเวลาว่างซึ่งจะใช้เวลาขึ้นมา 3. Lean Back คือรูปแบบวิดีโอที่ต้องใช้พลังในการดู และใช้เวลาทำความเข้าใจกับเนื้อหานั้น ๆ ซึ่งจะเป็นวิดีโอที่ต้องใช้การเรียนรู้ ความตั้งใจฟังอย่างมากออกมา ทั้งนี้นักการตลาดควรรู้ว่าวิดีโอที่ตัวเองกำลังจะทำจะไปตอบสนองการบริโภคสื่อในแบบไหน ช่วงเวลาใดออกมา
2. เลือกหัวข้อให้ถูก : Buzzsumo ได้ทำการดูว่าหัวข้อหรือวิดีโอรูปแบบไหนที่จะทำให้คนมีปฏิสัมพันธ์สูงสุดขึ้นมา และพบว่าใน 5 สุดยอดหัวข้อใน Facebook นั้นวิดีโอที่ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ดีที่สุดนั้นคือ วิดีโออาหารและได้ปฏิสัมพันธ์เป็น 2 เท่าจากเนื้อหาด้านแฟชั่นและความสวยงามที่เป็นที่ 2 ขึ้นมา อันดับ 3 คือเป็นสัตว์เลี้ยง อันดับ 4 คือ DIY และสุดท้ายคือวิดีโอสนุกสนาน ทั้งนี้นักการตลาดลองดูว่า Elements ไหนในหัวข้อวิดีโอเหล่านี้ที่ทำให้เกิดความน่าสนใจ หรือดึงดูดให้คนมาดูวิดีโอเหล่านี้ได้ ลองเลือกอันที่เข้ากับแบรนด์หรือองค์กรตัวเองมาที่สุดแล้วจึงทำออกมา
3. ใช้เครื่องมือวิดีโอใหม่ ๆ Facebook : สิ่งหนึ่งที่ Facebook ชอบทำคือการเปิดเครื่องมือใหม่ ๆ ออกมาให้ผู้บริโภคได้ใข้งาน สิ่งที่เกิดขึ้นกับวิดีโอเหล่านี้คือ Facebook จะให้ค่า Organinc Reach กับค่า Engagement ต่าง ๆ ได้ง่ายกว่ากับเครื่องมือใหม่ ๆ เหล่านี้อย่างทันที แถมจะดันให้คนเห็นเพิ่มขึ้นด้วยได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมืออย่าง Facebook Live หรือ Facebook Video Stories ทั้งนี้นักการตลาดลอง
ดูว่าจะใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างไรในการทำวิดีโอของตัวเองขึ้นมา เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ หรือทำให้ Video Marketing ของตัวเองนั้นได้ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
4. ใช้ภาษาเดียวกับกลุ่มเป้าหมาย : สิ่งสำคัญในยุคนี้คือการสื่อสารที่ถูกต้อง และสื่อสารในรูปแบบที่กลุ่มเป้าหมายนั้นอยากฟัง แต่แค่นั้นยังไม่พอ นักการตลาดต้องเรียนรู้ที่จะสื่อสารในรูปแบบเดียวกับกลุ่มเป้าหมาย หรือใช้ภาษาเดียวกับกลุ่มเป้าหมายนั้นเองใน Platform นั้น ๆ เช่นการใช้ Font, Sticker, Emoji หรืออื่น ๆ ซึ่งด้วยเครื่องมือเหล่านี้ทำให้การสื่อสารนั้นสามารถเชื่อมต่อกับความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากขึ้น และทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าแบรนด์เข้าถึงง่ายขึ้นและเป็นพวกเดียวกับตัวเองขึ้นมานั้นเอง
5. ทำให้เหมาะกับมือถือ : หลาย ๆ ครั้งการทำวิดีโอเหล่านี้ถูกทำโดย Advertising Agency ที่ไม่ได้คิดถึง Context การใข้งานขึ้นมาว่าวิดีโอนั้นจะถูกดูที่เครื่องมือไหน ทำให้สุดท้ายแล้วถูกออกแบบมาให้ดูผ่าน Computer แต่จากตัวเลขของ Facebook นั้นจะพบว่าคนใช้ Facebook ส่วนใหญ่จะอยู่ที่มือถือกว่า 96% ขึ้นไปเลยทีเดียว ทั้งนี้นักการตลาดต้องเริ่มคิดถึงการสร้างวิดีโอที่เหมาะกับการดูบนมือถือ รวมทั้งการสร้างเนื้อหาที่เกริ่นนำในโพสให้เหมาะสมกับการอ่านบนวิดีโอ เพื่อดึงความสนใจเพิ่มเติมมาได้ด้วย
5 ข้อนี้เป็น 5 ข้อที่จะกลายเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่จะทำให้วิดีโอของคุณนั้นแสดงประสิทธิภาพเหนือคนอื่นขึ้นมาได้ ทั้งนี้ถ้าใครคิดจะลองทำวิดีโอในปี 2018 ลองดูปัจจัย 5 ข้อนี้แล้วเริ่มวางแผนว่า วิดีโอของตัวเองใน Facebook นั้นจะเหนือกว่าคนอื่นได้อย่างไร
