นักการตลาดหลาย ๆ ท่านนั้นคงตกอกตกใจกับการประกาศของ Mark Zuckerberg เรื่อง Organic Reach และ Newsfeed ใน Facebook แล้ว ซึ่งทำให้หลาย ๆ โดยเฉพาะนักการตลาดที่พึ่ง Facebook เป็นหลักที่ไม่ได้เตรียมตัวนั้นตื่นตระหนกเลยทีเดียว แล้วเริ่มมองหาเครื่องมืออื่น ๆ ที่ที่จะสามารถมาทดแทน Facebook หรือช่วยเสริมสิ่งที่ Facebook จะขาดหายไปนั้นคือเว็บไซต์นั้นเอง
การทำเว็บไซต์เป็นเครื่องมือที่นักการตลาดบางท่านนั้นละเลยมานาน หรือไม่ได้สนใจที่จะทำเว็บไซต์ของตัวเองนั้นให้ดี ซึ่งจากประสบการณ์ที่เคยเจอมา เว็บไซต์ของหลาย ๆ องค์กรไม่เคยได้สนใจมานานเป็นสิบปี และมีสภาพเป็นเว็บไซต์แบบ 1.0 อยู่เลย ซึ่งในยุคนี้การกลับมามีเว็บไซต์กลับมาเป้นเครื่องมือที่น่าสนใจอีกครั้ง นอกจากการทำเว็บไซต์ให้รองรับมือถือได้ และการทำให้เว็บไซต์เร็วเพื่อให้ติดอันดับการค้นหา หรือทำให้ Facebook เรียกมาแสดงผล นั้นก็คือการทำ SEO นั้นเอง แต่หลาย ๆ ครั้งนักการตลาดที่เข้าใจเรื่อง SEO หรือคนทำ SEO ก็ต้องมาปวดหัวกับความเชื่อของผู้บริหารบางคนหรือนักการตลาดที่ไม่มีความเข้าใจเรื่อง SEO ซึ่งในวันนี้ผมจะมาแชร์ 5 ที่ใครที่ไม่เข้าใจเรื่อง SEO ควรเลือกเชื่อเสียที
1. ความเชื่อสุดฮิต ทำ SEO ครั้งเดียวพอ
สิ่งที่นักการตลาดที่ทำ SEO มักเจอประจำนั้นคือการที่ผู้บริหารที่ไม่เข้าใจเรื่อง SEO นั้นคือการทำ SEO นั้นเป็นการลงแรงและลงเงินเพียงครั้งเดียว และเมื่อทำจนติดอันดับ Google หรือ Search Engine ใด ๆ แล้ว ก็จะติดอันดับไปตลอดการโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นเอง และเมื่อทำจนติดแล้วก็เลิกทำหรือเลิกจ้างคนทำ SEO ไป ซึ่งนี้เป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก เพราะกระบวนการทำ SEO นั้นเป็นกระบวนการทำงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา เหมือนการวิ่งแข่งอยู่เสมอ ซึ่งเมื่อคุณเลิกทำเมื่อไหร่ หรือไม่ทำอะไรไปช่วงหนึ่ง ก็มีโอกาสอย่างมาก ที่คู่แข่งนั้นสามารถเข้ามาที่แทนที่คุณ หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคำที่คุณต้องการนั้นสามารถทำให้แบรนด์คุณหายไปจากหน้าค้นหาได้เลยทีเดียว
2. Keyword Search เป็นเรื่องเสียเวลา
นักการตลาดที่ทำ SEO มักจะเจอคนที่ชอบบอกว่า ไม่ต้องทำการค้นหาหรอกว่า Keyword ที่จะใช้หรือมีการบอกมาเลยจะใช้ Keyword อะไรในการทำ SEO ซึ่งนี้เป็นความเชื่อที่ผิดอย่างมากเช่นกันว่า การทำ Keyword Search ไม่จำเป็น Brian Dean เคยกล่าวไว้ว่า Keyword นั้นเปลี่ยนเสมือนเป็นเข็มทิศสำหรับการทำ SEO เพราะการทำ Keyword นั้นจะเป็นตัวบอกว่าคุณกำลังไปทางไหน มีความคืบหน้าไปทางไหน หรือไม่คืบหน้าไปไหนเลย Keyword ratio นั้นไม่สำคัญเท่ากกับการที่คุณรู้ว่า เบื้องหลังแต่ละ Keyword นั้นมีความตั้งใจอะไรที่เกิดขึ้นมา ที่จะทำให้กระบวนการทำ SEO ของคุณนั้นเจ๋งมากขึ้น การทำ Keyword ว่าจะใช้คำไหนนั้นจึงมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด จึงเป็นเหตุผลให้ Youtube Facebook หรือ Twitter ก็ยังทำ Kewyord อยู่
3. ทำให้คนมาถึงหน้าเว็บไซต์ก็พอ
ความเชื่อบางคนที่ไม่ได้เข้าใจ SEO คือการเข้าใจว่าคนกดเข้ามาที่เว็บไซต์นั้นก็ส่งผลทำให้เว็บไซต์ติดอับดับใน Google Search ได้แล้วโดยที่ไม่ต้องทำอะไร จึงทำให้บางคนทำ SEO ที่เรียกคนมาที่เว็บไซต์นั้น พอมาถึงเว็บไซต์กลับไม่มี Content ที่เป็นประโยชน์หรือ Content ที่มีแต่ Keyword ที่ทำให้อ่านไม่รู้เรื่องนั้นเอง ในเรื่องนี้ Rand Fishkin จาก Moz นั้นได้ลองทำการทดลองดู โดยการให้คนใน Twitter นั้นกดเข้าไปใน Google ใน Keyword ที่สนใจ แล้วลองกดผลการค้นหาตัวเลือกแรกเข้าไปแล้วออกทันที จากนั้นลองกดผลการค้นหาที่สองขึ้นมา แล้วอยู่ในเว็บไซต์ของผลการค้นหาอยู่สักพักหนึ่ง ผลที่ได้นั้นพบว่า ตัวเลือกที่สอง ขึ้นมาแทนตัวเลือกที่หนึ่งอย่างทันที
4. จ่ายตั้งเพื่อให้ติดอันดับ แสดงว่า Organic ดี
หลาย ๆ ครั้งการทำ SEO นั้นคือกระบวนการที่สร้างแบรนด์ที่ทำให้แบรนด์นั้นมีคุณค่าขึ้นมา โดยการมีเนื้อหาคุณประโยชน์หรือเนื้อหาตรงกับปัญหาความต้องการของผู้บริโภคทันที หลาย ๆ เทคนิคที่เป็นเทคนิคทางการตลาดที่ใช้เงิในการสร้าง Content ที่มี SEO เข้าไป ไม่สามารถทำให้คุณติดอันดับได้นาน ถ้าแบรนด์คุณไม่ได้ทำให้ผู้บริโภคพอใจ การจ่ายเงินเพื่อซื้อ Traffic หรือความนิยมไม่สามารถทำให้คุณอยู่อันดับได้นานหรือมี Organic Traffic ได้นานแน่นอน
5. สร้างเว็บไซต์จาดโดเมนหมดอายุนั้นไม่เป็นไร
หลาย ๆ ครั้งนักการตลดาคิดว่าการทำเว็บไซต์จากโดเมนหมดอายุทั้งหลาย หรือทำ SEO ผ่านโดเมนหมดอายุทั้งหลายเหล่านี้ไม่เป้นไร แต่หารู้ไหมว่าบางทีโดเทนเหล่านี้ถูกแบนจาก Google ไป ผู้ขายโดเมนพยายามขายโดเมนเหล่านี้โดยที่เราไม่รู้ หรือรู้แล้วไม่คิดว่าเป็นอะไร ซึ่งผลที่เกิดขึ้นนั้นจะทำให้คุณสูญเสียเงินอย่างมากมายในการทำ SEO ขึ้นมา