ต่อจากโพสต์ที่แล้วครับ ตอนแรก
3. Conversion rate ตามช่องทาง
ในฐานะมาร์เกตเตอร์แล้วคุณย่อมอยากรู้ว่า activity แบบไหนที่สร้างผลกระทบมากที่สุดให้เกิดแก่แบรนด์ของคุณ การวัด conversion rate ตามช่องทางเผยแพร่เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่ช่วยให้คุณวัดได้ว่าช่องทางไหนเวิร์คสำหรับแคมเปญของคุณทั้งนี้ ในการที่คุณจะทำเช่นนั้นได้คุณต้องมี Google’s campaign tracking tool ที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามข้อมูลของแต่ละ channel ได้อย่างละเอียด ลองศึกษาวิธีการใช้เครื่องมือตัวนี้ได้ ที่นี้ เครื่องมือนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในช่วงแรกที่คุณเริ่มทำการตลาดดิจิตอลและไม่แน่ใจว่าแฟลตฟอร์มไหนเหมาะกับแบรนด์ของคุณ
4. Cost per acquisition
ไม่ว่าคุณจะใช้โมเดลการตลาดแบบไหน การมองหา Cost per acquisition หรือ CPA ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ CPA คือค่าที่จะบ่งบอกคุณว่าต้องลงทุนเท่าไหร่เพื่อให้เกิดกิจกรรมหรือการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดที่ตรงตามวัตถุประสงค์ทางการตลาดของคุณ บางครั้งมันก็อาจจะเหมือนกับ cost per conversion ก็ได้แต่บางครั้งมันก็เป็นเป้าหมายที่อาจไม่ก่อให้เกิดกำไรโดยตรง
การคำนวณความคุ้มค่าของการลงทุน เพียงแค่คุณคำนวณออกมาว่าลูกค้าหนึ่งคนสร้างรายได้ให้คุณได้เท่าไหร่ ในทางกลับกันคุณต้องจ่ายเงินไปเท่าไหร่ในการเรียกลูกค้าเข้ามาหาแบรนด์ให้ได้หนึ่งคน เมื่อนำมาเทียบกันคุณก็จะรู้ได้เลยว่าการลงทุนของคุณคุ้มค่าหรือไม่?
5.return on investment
เมื่อคิดถึงค่า CPA แล้วก็ต้องมาต่อกันที่ Return On Investment (ROI) ซึ่งอธิบายง่ายๆ คือ ROI เป็นค่าที่จะบอกคุณว่าคุณจ่ายเงินไปเท่าไหร่เพื่อให้ได้ลูกค้ามา เทียบกับคุณสามารถทำเงินจากลูกค้าคนนั้นได้เท่าไหร่? ออกมาเป็นสูตร
ROI = Net Revenue/Cost หรือ ROI = รายได้สุทธิทั้งหมด / ต้นทุน
ผลลัพธ์ของ ROI ออกมาเป็นเปอร์เซนต์ แน่นอนว่าเปอร์เซนต์ยิ่งสูงยิ่งดีแต่ก็ต้องพิจารณาตัวเลขอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น cost per sale และ conversions ทั้งหมด
ค่าทั้งหมดที่เรายกมานั้นอาจยังไม่ครอบคลุมการวิเคราะห์เชิงลึกด้านอื่นๆ อย่างเช่น ด้านประชากรศาสตร์ หรือช่วงเวลาโพสต์ ลักษณะนิสัยของผู้บริโภค ค่าเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าแคมเปญของคุณประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนแต่ไม่สามารถบอกจุดอ่อนของแคมเปญของคุณได้ เรายังคงแนะนำว่าการหาทางแก้ไขแคมเปญที่ไม่เวิร์คของคุณต้องเกิดจากการช่างสังเกต อดทนและทดลองการตลาดบนโซเชียลมีเดียด้วยตนเองทีละเล็กทีละน้อย บันทึกและจดเป็นสถิติของตัวเองแล้วคุณจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ยืนยันครับว่าค่าสถิติไหนก็คำนวณแทนคุณไม่ได้