เมื่อสังคมเปลี่ยน การมาร์เกตติ้งของคุณก็ต้องปรับตัวตามไปด้วย แน่นอนว่าคอนเซปต์ที่ดีที่สุดในการมาร์เกตติ้งยังคงเหมือนเดิมคือการเล็งเป้าให้ “ถูกกลุ่มผู้รับสาร ถูกช่องทาง และด้วยสารที่ถูกต้อง” แต่เทรนด์ของผู้บริโภคบนโลกดิจิตอลที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวินาทีทำให้คุณต้องวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติมเช่น เทคโนโลยี การเปลี่ยนผ่านทางวัฒนธรรม ล่าสุด เว็บไซค์ iMediaConnect เสนอแนะ 5 เทรนด์มาร์เกตติ้งที่พยากรณ์ว่าจะมาแรงในปี 2014
คอนเทนต์ คอนเทนต์ และคอนเทนต์
แม้คอนเซปต์ของคอนเทนต์มาร์เกตติ้งไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเรา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นเทคนิคที่ช่วยดึงดูดผู้บริโภคเข้าหาแบรนด์อย่างได้ผล ปัจจุบัน แทบทุกบริษัทใช้กลยุทธ์นี้ซึ่งนำมาสู่ความท้าทายว่าเราจะทำคอนเทนต์มาร์เกตติ้งในปี 2014 ให้โดดเด่นและแตกต่างเหนือคนอื่นอย่างไร วิธีง่ายๆ สำหรับผู้เริ่มต้นคือการโพสต์สิ่งที่มีความหมายเชิงลึก และแน่ใจว่าผู้บริโภคจะชอบและรู้สึกสนุกสนานไปกับมัน เช่น หากกลุ่มผู้บริโภคเป็นเด็ก ลองโพสต์ภาพการ์ตูนหรือเกมที่มีสีสันสดใส
นอกจากนี้ แบรนด์ยังต้องพูดในสิ่งที่แตกต่างและไม่ค่อยมีใครพูดถึง สิ่งที่คอนเทนต์ของคุณต้องทำมีอยู่สองภารกิจคือ หนึ่ง สร้างอารมณ์ร่วมกับผลิตภัณฑ์ของคุณ สอง ผลักดันให้ผู้บริโภคลงมือทำอะไรสักอย่าง เข้าใจแรงจูงใจและใช้เทคนิคการเล่าเรื่องที่ถูกจังหวะจะช่วยให้คุณสร้างอารมณ์ร่วมให้แก่ผลิตภัณฑ์ของคุณได้
โมบายก่อน
ต่อให้ไม่มีผลวิจัยมากมายมาสนับสนุนเราก็รู้ว่าเทรนด์ของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกำลังมาแรง ปัจจุบัน กว่าครึ่งของกิจกรรมบนโซเชียลเนคเวิร์กเช่น การเช็คอีเมล์ ดูยูทูป เกิดขึ้นบนโมบาย
อย่างไรก็ตาม เว็บไซค์ก็ยังเป็นสื่อที่สำคัญในการเป็นช่องทางวางขายสินค้าผ่าน e-commerce แต่ในกรณีของโปรโมชั่น มือถือจะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากและเร็วกกว่า ดังนั้น ต้องแน่ใจว่าคุณแยกคอนเทนต์ที่จะขึ้นบนโมบายออกจากคอนเทนต์บนคอมพิวเตอร์หรือยัง นอกจากนี้บนโมบายยังมีเครื่องมือใหม่ๆ ให้คุณเข้าถึงผู้บริโภคเช่น หนังสือพิมพ์ e-magazine หรือโปรแกรมถ่ายรูป ลองใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการหลอมรวมโปรแกรมมาร์เกตติ้งกับโปรแกรมพวกนี้ดูสิ แล้วคุณอาจพบว่ามันทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่ง
โลกแห่งการเชื่อมโยงไร้สายและเรียลไทม์มาร์เกตติ้ง
หากคุณยังไม่เชื่อคำพูดนี้เท่าไหร่นัก ให้นึกถึงการล่มสลายของแผ่นซีดีและกล้องฟิล์มสิ แล้วคุณจะทราบว่าทุกอย่างไม่จีรัง เทคโนโลยีปัจจุบันไม่เพียงเอื้อให้มาร์เกตเตอร์เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น แต่มันยังสร้างอำนาจต่อรองให้แก่ผู้บริโภคในการหันหลังหรือตามอ่านข้อมูลของแบรนด์ๆ หนึ่งได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ดังนั้น เทรนด์มาร์เกตเตอร์ที่มาแรงคือการ customize ผลิตภัณฑ์ตามใจผู้บริโภคและ deliver ทุกอย่างอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีที่เราเห็นคือ WiFi และ 3G อินเตอร์เนต
ในส่วนของมาร์เกตเตอร์ คุณสามารถทำการตลาดเรียลไทม์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเปลี่ยนให้เวบไซค์ของคุณกลายเป็นแหล่งรวมผู้บริโภคและเวทีแสดงความเห็น ก่อนจะสอดแทรกโฆษณาอย่างเนียนๆ เป็นผู้สนับสนุนเวบไซค์ อีกโซเชียลมีเดียหนึ่งที่น่าใช้เป็นช่องทางคือ Twitter ซึ่งทำให้คุณสามารถตอบโต้ผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์เช่นกัน
ข้อมูลคือทุกอย่าง
เมื่อโลกแห่งมาร์เกตติ้งและสื่อสารมวลชนเริ่มเข้าสู่ดิจิตอลกันเสียหมด ทีมของคุณจะต้องเริ่มเก็บข้อมูลและวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านโซเชียลเนคเวิร์กให้มากขึ้น และต้องแน่ใจว่าข้อมูลเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของคุณจริงๆ สิ่งที่คุณต้องทำให้ยุคนี้ไม่ใช่การนำข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ แต่ต้องวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อมองให้เห็นกระแสและเทรนด์ในอนาคต แล้วจึงวางแผนเพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคในอนาคต
ยุคแห่งผู้บริหารมาร์เกตติ้งดิจิตอล
ในโครงสร้างองค์กรปกติ เรามักเห็น CEO หรือตำแหน่งผู้บริหารเป็นหัวเรือใหญ่ของบริษัท แต่ในยุคที่บริษัทไม่สามารถมองแต่การแข่งขันออฟไลน์ได้อีก คุณจำเป็นต้องพิจารณาให้ดีว่าควรจะมี CMO หรือ Chief Marketing Officer อย่างเป็นจริงเป็นจังหรือไม่ ส่วนคนที่จะมาเป็น CMO นั้นควรดึงตัวมากจากผู้เชี่ยวชาญในโลกของแบรนด์ มาร์เกตติ้ง และครีเอทีฟ ขณะเดียวกันต้องรู้จักการทำงานของช่องทางทางดิจิตอล การบริการผู้บริโภค และเครื่องมือในการทำมาร์เกตติ้ง ศิลปะการเล่าเรื่องแบรนด์ของคุณ และต้องใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นให้หลากหลาย