5 แนวโน้มการทำตลาดออนไลน์ ที่น่าจับตามองในปี 2016

  • 31
  •  
  •  
  •  
  •  

ThinkstockPhotos-479330288-highlight

เมื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ทุกอย่างย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งในชีวิตประจำวัน และการทำงาน ในแวดวงการตลาดออนไลน์ก็เช่นกัน ที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในบทความนี้จะว่าด้วยเรื่องของเทรนด์การตลาดออนไลน์ พร้อมคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ (2016) ซึ่งเป็น 5 เรื่อง ที่เราเองก็พอจะทราบกันบ้างแล้ว แต่จะโดดเด่น และมีบทบาทขึ้น

1. มีการใช้สมาร์ทโฟน มากกว่าเดสก์ทอป

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน ได้ชื่อว่าเป็นปีของการใช้ “สมาร์ทโฟน” เป็นอวัยวะอีกชิ้นที่สำคัญของร่างกายเลยก็ว่าได้ และในปีนี้ก็คงไม่ต่างกันมากนัก ในปี 2015 คนส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลบน Google โดยใช้สมาร์ทโฟน มากกว่าเดสก์ทอป โดยเฉพาะในสหรัฐฯ นอกจากนี้ Google ยังได้ให้ความสำคัญกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน ด้วยการแสดงเครื่องหมายว่าเว็บนี้รองรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนอีกด้วย

ในขณะที่การใช้สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แบรนด์ก็ต้องแน่ใจว่ากลยุทธ์ที่ใช้จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัลได้

2. โฆษณาออนไลน์

ถ้าคุณใช้โฆษณาบน Social Media เป็นส่วนเสริมในการทำตลาด ปี 2016 นี้ จะเป็นปีที่หลายๆ แบรนด์ทุ่มงบโฆษณาไปกับ Social Media มากขึ้น เพื่อให้ได้แคมเปญที่สมบูรณ์แบบ eMarketer คาดการณ์ว่าเม็ดเงินโฆษณาที่ใช้ไปกับสื่อออนไลน์ทั่วโลก จะมีมูลค่ามากถึง 35,980 ล้านเหรียญสหรัญฯ คิดเป็น 16% ของสัดส่วนการใช้งบโฆษณาทั้งหมด

รวมถึงการแข่งขันในโลกออนไลน์ก็จะดุเดือดขึ้น การใช้ Social Media จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมย ทำตลาดได้แม่นยำมากขึ้น อาทิ เพศ อายุ อาชีพ สถานที่ สิ่งที่สนใจ พฤติกรรม และอีเมล

3. Video Marketing

อย่างที่เรารู้ๆ กันดีว่าในปี 2015 เป็นปีที่คอนเทนต์ประเภท Video ได้รับความนิยมสูง ในปีนี้ก็เช่นกัน วิดีโอ ยังคงตอบโจทย์การทำตลาดอยู่ และจะกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำธุรกิจ แบรนด์สามารถใช้วิดีโอเพื่อการมีส่วนร่วมได้ อาทิ ให้ความรู้ นำเสนอตัวตนของแบรนด์ สาธิตการใช้สินค้า และการแก้ปัญหา และในปี 2016 Google จะเริ่มคิดค่าโฆษณาวิดีโอ ในหน้าผลการค้นหาแล้ว

4. ซื้อโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบรายคน

ในปีก่อนหน้านี้ Google ได้เปิดตัว Customer Match โฆษณารูปแบบใหม่ ที่จะช่วยให้นักการตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบรายคน นอกจากนี้ Facebook และ Twitter ก็สามารถทำได้เช่นกัน นั่นหมายความว่า ตอนนี้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ แล้วทำการส่งข้อความ หรืออีเมลหาพวกเขาได้ตามต้องการ

5. ใช้ผู้ช่วยอัจฉริยะ

หลายๆ คนคงรู้จักกับ Siri, Google Now และ Coortana ผู้ช่วยอัจฉริยะในโลกออนไลน์ ที่มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ทำหน้าที่พูดคุย ตอบคำถาม ตอนนี้ก็กลายมาเป็นเครื่องมือค้นหา หน้าที่ของนักการตลาดคือ ต้องเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาข้อมูลต่างๆ และต้องใช้ SEO เพื่อให้ผู้ช่วยอัจฉริยะเหล่านี้ค้นหาแบรนด์ของคุณได้ง่าย

 

Source


  • 31
  •  
  •  
  •  
  •