[how to] 4 วิธีที่เทคโนโลยีช่วยลดรายจ่ายให้แก่บริษัทของคุณได้

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

piggy-bank-money-saving-savings-save-money

ไม่ว่าบริษัทของคุณจะร่ำรวยแค่ไหนแต่เชื่อเถอะว่ายังมีรายจ่ายมากมายที่ไม่จำเป็นที่สามารถกำจัดออกไปได้ การตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นสำหรับธุรกิจไม่เพียงช่วยให้กำไรเพิ่มขึ้นแต่ยังช่วยกำจัดความเทอะทะและโอกาสในการเกิดคอร์รัปชั่นภายในองค์กรได้อีกด้วย

เทคโนโลยีเป็นตัวเลือกที่ดีมากในการขจัดรายจ่ายไม่จำเป็น ลงทุนครั้งเดียวใช้กันได้ยาวๆ ไม่อู้ ไม่ประท้วง และไม่กินข้าว ลองมาดูเหตุผล 4 ข้อที่คุณควรจะใช้เทคโนโลยีในบริษัทกันดีกว่า

1.ทำให้ทุกอย่างอัตโนมัติทุกที่เท่าที่เป็นไปได้

เราเห็นตัวอย่างจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมแล้วว่ามันช่วยให้ต้นทุนต่อหน่วยของรถยนต์และความสามารถในการผลิตเพิ่มขึ้นได้แค่ไหนเทคโนโลยีในปัจจุบันก็ยังทำให้ระบบการผลิตกลายเป็นอัตโนมัติมากขึ้นเช่นเดิม แต่พิเศษที่ปัจจุบันมันอาจทำให้ระบบเหล่านั้นทำงานได้ 24/7

2.ย้ายข้อมูลขึ้นไปยังระบบ cloud

ด้วยเทคโนโลยีของระบบ cloud ทำให้ปัจจุบันคุณสามารถสร้างเว็บไซต์หรือเก็บข้อมูลโดยอาศัยบริษัทบุคคลที่สามที่เช่าพื้นที่บน cloud มาให้คุณใช้ได้ หากเมื่อไหร่ที่บริษัทของคุณเริ่มเติบโตก็เพียงแค่ซื้อแพคเกจที่ราคาแพงขึ้น หากคุณอยากเก็บข้อมูลอย่างเดียวก็สามารถใช้บริการ DropBox หรือ Google Drive ได้

3.มองหาแอพฯ และเครื่องมือออนไลน์

แอพฯ และเครื่องมือออนไลน์ปัจจุบันมีทั้งแบบราคาถูกและฟรีมากมาย ขณะที่ความสามารถของมันก็ยังทัดเทียมกับโปรแกรมเสียเงินแพงๆ อีก ลองเสิร์จในอินเตอร์เน็ตให้ถี่ถ้วนก่อนจะจ้างโปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมให้คุณดีกว่าครับ

4.ลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียว

เทคโนโลยีสีเขียวไม่เพียงต่อดีต่อชีวิตแต่ประเด็นคือมันช่วยประหยัดพลังงานและอายุใช้งานยาวนานซึ่งดีต่อธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน อย่างหลอดไฟ LED lights นั้นใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดปกติกว่า 75% แม้ราคาต่อหน่วยของหลอดไฟจะแพงแต่หากคิดว่าเป็นการลงทุนระยะยาวก็น่าสนใจไม่น้อยนะครับ

Source http://www.entrepreneur.com/article/247577

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง