การศึกษาจาก Searchmetrics ระบุว่า Google อัพเดทความเปลี่ยนแปลงใหม่สำหรับระบบ algorithm ในการให้คะแนนคอนเทนต์ต่างๆ บนโลกไซเบอร์
การเปลี่ยนแปลงนี้คือการที่ Google ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ทั้งทางด้านคุณภาพและผลตอบรับจากผู้บริโภคเท่าๆ กัน ทั้งนี้ การตอบรับจากผู้บริโภคก็ไม่ใช่เพียงการอ่านหรือชมคอนเทนต์เท่านั้น เช่น ตัวเลขการรับชม จำนวนครั้งที่คลิกเข้าชมลิงค์ หรือจำนวนการแชร์คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย Google ยังนับภาพรวมว่ามีผู้กดเข้าชมคอนเทนต์แล้วคลิก แชร์ ไลค์ และอื่นๆ รวมกันมากแค่ไหน และเรื่องนี้มีผลการค้นหาใกล้เคียงมากแค่ไหน โดยแบรนด์เชื่อว่าคอนเทนต์ที่ไม่ดีจะไม่มีใครอยากอ่าน
เพื่อเพิ่มโอกาสให้ข้อความและสารของแคมเปญถูกส่งออกไปให้ได้มากที่สุด มีปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้ที่ PR หรือ Marketer มืออาชีพอย่างคุณต้องพิจารณา
1.ใช้คำ call to action ที่ชัดเจนและไม่ต้องตีความ
แม้จะเป็นกลยุทธ์เก่าๆ แต่ call-to-action ยังเป็นคำที่ได้ผลเสมอ ที่มันยังได้ผลเพราะคำที่คุณใช้นี้จะไปปรากฏยังเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และสื่อช่องทางอื่นๆ ในคำเดียวกัน ทำให้อิทธิพลของคำๆ นี้ยิ่งมากขึ้น หากอยากให้ได้ผลมากขึ้น ลองทำคำ call-to-action เป็นลิงค์ที่สามารถเชื่อมต่อผู้ใช้กลับมายังเว็บไซต์ได้อีกด้วย
2. เพิ่มภาพ
ภาพจับความสนใจได้มากกว่าข้อความและยังเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้จะแชร์ภาพผ่านโซเชียลมีเดีย
3.เขียนคำทั่วๆ ไปและไม่ต้องใช้คำเข้าใจยาก
อยากใช้คำซ้ำหรือประโยคที่ฟังกันบ่อยจนเอียน พยายามเขียนให้มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ สินค้าและบริการของคุณมากๆ เพื่อทำให้ Google ค้นหาคุณได้ง่ายขึ้น เน้น keywords ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณให้ชัดเจน
4.เขียนยาวๆ
Google ชอบคอนเทนต์ที่มีความยาวเพื่อให้แบรนด์และผู้ใช้เข้ามาใช้เวลาอ่านคอนเทนต์นานๆ อย่างไรก็ตาม คอนเทนต์ยาวๆ อาจไม่ได้รับความสนใจหากคอนเทนต์เหล่านั้นไร้สาระ ไม่น่าอ่านเอาซะเลย
สรุปคือ คุณภาพยังคงเป็นสาระสำคัญของเว็บไซต์ที่จะช่วยให้ผลการค้นหาไต่อันดับและสร้าง earned media ดีๆ ให้กับแบรนด์ ดังนั้น การลงทุนในการสร้างคอนเทนต์ดีๆ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่าการเสียเงินซื้อโฆษณาเสียอีก