4 เหตุผลว่าทำไมการพีอาร์ยังจำเป็นสำหรับองค์กรคุณ

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

 

Newspaper machines on NY street

ระยะหลังบริษัททั้งไทยและเทศไปให้ความสำคัญกับนักข่าวแบรนด์ คอนเทนต์มาร์เกตติ้ง และการตลาดบนโซเชียลมีเดียจนหลงลืมแผนการประชาสัมพันธ์องค์กรแบบดั้งเดิมเสียมากแต่คุณรู้หรือไม่ว่าการทำอย่างนั้นเป็นเรื่องที่ผิดเอามากๆ

แม้จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามากมายแต่สาระสำคัญของการประชาสัมพันธ์นั้นยังไม่เปลี่ยนแปลง ต่อไปนี้เป็นเหตุผล 5 ข้อว่าทำไมคุณจึงยังควรนำเอากลยุทธ์ทางการพีอาร์มาใช้ในการประชาสัมพันธ์องค์กรต่อไป

1.Earned media is still king

การพยายามประชาสัมพันธ์ผ่านโปรโมชั่นโดยไม่ใช้โฆษณานั้นยังเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลอยู่ การสำรวจจาก Ogilvy PR ระบุว่าการประชาสัมพันธ์แบบนี้นอกจากจะฟรีแล้วยังจูงใจผู้บริโภคได้มากกว่าเพราะพวกเขารู้สึกว่าไม่ใช่แบรนด์มาพูดเองแต่เป็น influencer คนอื่นมาพูด

2.ข่าวประชาสัมพันธ์ช่วยให้นักข่าวแบรนด์ทำงานง่ายขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ของแบรนด์ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าที่มีความจงรักภักดีกับแบรนด์ของคุณอยากรู้ และเมื่อโซเชียลมีเดียมีผู้ติดตามมากนั้นหมายความว่าข่าวประชาสัมพันธ์ของคุณก็มีคนเห็นมากตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมรีไรท์หรือเปลี่ยนรูปแบบเนื้อหาให้เหมาะสมกับช่องทางออนไลน์ด้วย ถึงข่าวดีแค่ไหนแต่ไม่มีคนอ่านก็จบเห่นะจ๊ะ

3.มันคุ้มราคา

แม้เราจะบอกว่า Earned media นั้นฟรีแต่แท้จริงแล้วมันยังมีค่าไอเดีย ค่าเสียเวลา และบางครั้งก็ต้องเสียเงินหาคอนเทนต์มาด้วย อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ที่ได้จาก Earned media นี้คุ้มราคา นอกจากนั้น นักประชาสัมพันธ์ชั้นเซียนยังรู้เทคนิคว่าจะส่งคอนเทนต์ขายของอย่างไรให้แนบเนียนไปกับคอนเทนต์ปกติ

4.การมีผู้ติดตามมากๆ ทำให้คุณกลายเป็น influencer ได้อย่างรวดเร็ว

Earned media คุณภาพสูงจะทำให้ระดับความน่าเชื่อถือของแบรนด์พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ลองหาว่าแบรนด์ของคุณมีความถนัดด้านไหนและหาว่าข่าวแบบไหนที่มีแง่มุมอันช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ตรงนี้ของคุณได้ เมื่อนักข่าวต้องการหาผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้พวกเขาก็จะคิดถึงคุณเป็นคนแรก

ทุกวันนี้จำนวนคอนเทนต์ที่แบรนด์และสำนักข่าวสร้างสรรค์มีจำนวนเยอะมากขึ้นตามลำดับ แบรนด์ที่ถูกผลักดันด้วยคอนเทนต์จะมีอนาคตที่สดใสเพราะมีผู้รู้จักแบรนด์นั้นมากขึ้นๆ ทุกวัน

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง