นักการตลาดในยุคนี้มักจะทำ Digital Marketing ด้วยการใช้ Facebook เป็นหลัก แต่มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการทำ Website ซึ่ง Website นี้มีความสำคัญอย่างมากในการทำ Digital Marketing เพราะถือเป็น asset และเป็นบ้านของแบรนด์ที่เปิดให้ทุกคนมาเยี่ยมได้ แต่หลาย ๆ ครั้งเครื่องมือกลับได้รับการมองข้ามไปและไม่ได้ใส่ใจเข้าที่ควร จนทำให้สูญเสียลูกค้าออกไปอย่างมาก
Website เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ถูกลืมในหลาย ๆ คน เพราะคิดว่า กลุ่มเป้าหมายนั้นอยู่ใน Facebook หรือ Social Media Platform ต่าง ๆ นั้นทำให้ต้องเข้าไปอยู่ใน Social Media Platform เหล่านั้นและเน้นการทำงานในนั้นขึ้นมา แต่ในความจริงแล้ว กลุ่มเป้าหมายหลาย ๆ คนจะทำการตัดสินใจอะไรบางอย่างจะเริ่มจากมีปัญหาหรือความต้องการในใจที่ต้องไปค้นหาผ่านเครืองมือการค้นหา และจะเข้าไปยังผลการค้นหาต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ ซึ่งนี้เอง Website มีส่วนสำคัญอย่างมากในการที่จะได้ลูกค้าจริง ๆ ขึ้นมา สร้างรายได้ ที่มากกว่าการมีกระแสขึ้นมาได้ แต่เมื่อหลาย ๆ คนไม่ได้สนใจทำให้ Website นั้นทำงานไม่ได้ผลจนเสียลูกค้าไป และนี้คือ 4 เหตุผลที่ทำ Website นั้นไม่มีคนเข้าไปดู
1. ไม่ทำรองรับการเข้าผ่านเครื่องมือที่ผู้บริโภคนิยมใช้
ทุก ๆ ครั้งที่ผมเข้าไปให้คำปรึกษาธุรกิจ สิ่งที่เจอหลาย ๆ ครั้งคือการที่ทำเว็บไซต์สวยมาก แต่เว็บไซต์นั้นมีแต่ความสวย แต่ใช้งานยากและให้ประสบการณ์ที่ไม่ดี เลวร้ายกว่านั้นคือเว็บไซต์นั้นไม่ได้คิดถึงการออกแบบบนอุปกรณ์อื่น ๆ มาเลย ทำให้แสดงผลได้ดีผ่านบนคอมพิวเตอร์เท่านั้น ซึ่งนี้เป็นเหตุผลที่กลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคที่เข้ามาแล้วออกไป เพราะการใช้งานผ่านบนอุปกรณ์อื่น ๆ นั้นยากมาก โดยเฉพาะมือถือที่หน้าจอมีจำกัดในการแสดงผล และการเคลื่อนที่ navigation ต่าง ๆ แตกต่างจากคอมพิวเตอร์ ทำให้เว็บไซต์ที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องตรงนี้จะสูญเสียลูกค้าออกไปมาก
นอกจากนี้ในหลาย ๆ ครั้งในการออกแบบ ไม่ได้คิดถึงกระบวนการโหลดของเว็บไซต์ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมา ทำให้เวลาที่เว็บไซต์เหล่านี้จะแสดงผลนั้นใช้เวลานานมากในการแสดงผล จนกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามานั้นรอไม่ได้จนต้องหนีออกจากเว็บไซต์นั้นไป ซึ่งวิธีคิดที่ดีควรจะต้องเริ่มคิดว่า เว็บไซต์นี้คนส่วนใหญ่จะเข้ามาผ่านอุปกรณ์อะไร คนต้องเห็นอะไรก่อน เวลาเท่าไหร่ที่คนจะรับได้ และเว็บไซต์จะแสดงผลให้คนอยู่ต่อไปได้อย่างไร
2. ไม่มีเนื้อหา
ปัญหาต่อมาที่คนไม่เข้ามาเว็บไซต์คุณ คือการที่เว็บไซต์คุณนั้นไม่ได้มีเนื้อหาที่เพียงพอต่อผู้บริโภค หรือไม่ได้มีเนื้อหาที่น่าสนใจ แม้ว่าจะมีรูปหรืออะไรที่สวยงาม เทคนิคเว็บเพรียวพราวแค่ไหน แต่การไม่มีอะไรให้อ่านหรือติดตามก็ทำให้หมดความสนใจได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายเข้ามาอีกครั้ง ก็เจออะไรเหมือนเดิม ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาติดตามเนื้อหาอีกต่อไปแล้ว เพราะจำได้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นบนเว็บ
ดังนั้นสิ่งที่นักการตลาดควรทำคือต้องคิดเหมือนเวลาคนเข้ามาร้านค้า ที่เข้ามาดูสินค้าร้านคุณ สิ่งที่คุณควรทำคือการมีเรื่องราวของสินค้าและบริการที่จะทำให้คนที่เข้ามาในร้านประทับใจ และรู้สึกว่าสินค้าและบริการนั้นจะช่วยชีวิตเค้าได้อย่างไร พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือกับคนที่มาร้านได้ยามที่เค้าต้องการ ซึ่ง Website ก็ควรทำหน้าที่แบบนี้ได้ในการให้ข้อมูลที่ผู้บริโภคต้องการได้ตลอดเวลา และมีอะไรใหม่ ๆ ให้เสมอ
3. ลิงก์พัง
หลาย ๆ ครั้งนักการตลาดท Website มักจะมีการแทรกลิงก์ต่าง ๆ มากมาย หรือเอาลิงก์ของ Website ไปฝากไว้ตามที่ต่าง ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เช่นการอัพเดทระบบ การที่เอาสินต้า ถอดเข้า ถอดออก ทำให้ลิงก์ต่าง ๆ ที่เว็บไซต์เคยทำไว้นั้นอาจจะใช้งานไม่ได้ หรือไม่มีการแสดงผลอีกต่อไป ทำให้คนที่เข้าที่เว็บไซต์นั้นรู้สึกไม่มีอะไร หรือรู้สึกเสียเวลาแล้วจะคิดว่า Website นี้ไม่ได้มีความใส่ใจในการดูแลเนื้อหาอีกด้วย
นักการตลาดควรจะตรวจดูว่าลิงก์ต่าง ๆ นั้นเชื่อมโยงไปสู่ที่ไหน ถ้าลิงก์ไหนใช้การไม่ได้ หรือไม่มีสินค้า แล้วทำการแก้ไขลิงก์เหล่านั้นโดยการนำมาสู่หน้าสินค้าใกล้เคียงกันหรือเนื้อหาใกล้เคียงกันที่จะช่วยกลุ่มเป้าหมายได้ขึ้นมา แทนที่จะปล่อยให้เข้าไม่ได้ตามเดิมแล้วเสียลูกค้าไป
4. ใช้คำแย่
Keyword นั้นเรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์นั้นเจอหรือไม่เจอบนหน้า Google Search เลย หรือทำให้เกิดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายขึ้นมาได้ ถ้า Keyword เหล่านั้นตรงใจกับคนที่กำลังค้นหาหรือกำลังต้องการคำตอบอะไรบางอย่างขึ้นมา นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเรื่อง SEO ของเว็บไซต์ด้วยให้เข้าไปติดอันดับบน Google Search ขึ้นมาได้
นักการตลาดควรจะทำการบ้านเรื่อง Keyword ใน Google Adwords ว่าคนกำลังสนใจอะไร และอยากได้อะไรบน Google แล้วเอา Keyword เหล่านั้นมาปั้นบทความหรือเนื้อหาบนเว็บไซต์ต่อมา เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งเรื่อง SEO และเรื่องความต้องการของผู้บริโภคอีกด้วย