หลายๆ คนอาจโตมาพร้อมกับเจ้าหญิงดิสนีย์ แน่นอนว่าตอนเด็กๆ เราคงดูแค่ผ่านตา หรือแค่พอให้มีความสุขชั่วขณะ คราวนี้เรามาดูให้ละเอียดขึ้น รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วเจ้าหญิงดีสนีย์ก็แอบซ่อนบทเรียนดีๆ เกี่ยวกับการทำ PR อยู่ด้วย ซึ่งบทเรียนจากเทพนิยายเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถนำมาใช้ในประชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
และนี่คือ 4 อย่างที่เรารวบรวมจากเจ้าหญิงดิสนีย์ มาดูกันว่าเราจะได้เรียนรู้อะไรกันบ้าง
1. โฉมงาม กับเจ้าชายอสูร
อะไรดี หรืออะไรไม่ดี ในแวปแรกคุณอาจบอกไม่ได้ว่านี่คือสิ่งที่คุณชอบจริงๆ หรือไม่ เหมือนกับผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายทุกคน ที่อาจไม่ได้รู้สึกชอบแบรนด์ของคุณตั้งแต่ครั้งแรก แต่บางครั้งพวกเขาอาจโดนเพื่อนชักจูง หรือหาข้อมูลเพิ่มด้วยตัวเอง ซึ่งอาจทำให้พวกเขาเปลี่ยนความคิดที่มีต่อแบรนด์นั้นๆ ได้
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลา ก็เหมือนกับ Belle เจ้าหญิงดิสนีย์ แห่งเทพนิยายเรื่อง โฉมงานกับเจ้าชายอสูร ที่ในช่วงแรกเธอก็รู้สึกไม่ถูกใจเจ้าชายในคราบอสูรเท่าไรนัก แต่เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกัน เธอก็รู้สึกคุ้นเคย และมองแต่ข้อดีที่เขามี จนเกิดเป็นความรัก
กลับมาที่เรื่องโลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง ในปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ มักจะหาข้อมูลในสิ่งที่พวกเขาอยากรู้ และต้องรู้ให้ได้ เพื่อตัวช่วยในการตัดสินใจว่าสินค้าและบริการของคุณ คุ้มค่าแก่การจับจ่ายหรือไม่ วิธีที่จะทำให้แบรนด์คุณเป็นที่รักของผู้บริโภคคือ คุณต้องทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ หรือมีข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด
2. นางเงือกน้อย กับ การกระทำ เสียงดังกว่าคำพูด
ลองสังเกตุดูว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์มักจะเลือกใช้การสื่อสารที่ดูเรียบง่าย และไม่ยุ่งยากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตหรือเมื่อเกิดปัญหา เช่นเดียวกับเจ้าหญิงเงือกน้อยสาวแสนสวย จาก The Little Mermaid ที่ต้องสูญเสียเสียงไปให้แม่มดปลาหมึก ทำให้เธอต้องใช้ภาษากาย เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ และในตอนจบ แน่นอนว่าเธอสามารถทำให้เจ้าชายจุมพิตเธอได้ และครองรักกันในที่สุด
หากมองในมุมของการประชาสัมพันธ์แล้ว การสื่อสารด้วยกระทำก็อาจเสียงดังกว่าคำพูด แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการคลิกไลก์ในเฟซบุ๊ค ก็อาจมีความหมายมากกว่าการคอมเม้นท์ก็ได้ สิ่งที่คุณพูดหรือกล่าวคำสัญญาออกไปนั้น จะไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ถ้าคุณไม่ลงมือทำ ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักใส่ใจกับการกระทำมากกว่า เพราะเป็นเรื่องที่จับต้องได้จริง การผิดคำสัญญาย่อมไม่ส่งผลดีต่อองค์กรแน่นอน เพราะฉะนั้น ก่อนจะสัญญาอะไรออก ควรพิจารณาให้ดีเสียก่อน
3. สโนว์ไวท์ และลูกค้าทั้งเจ็ด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์มักจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภค หรือกลุ่มเป้าหมายมีความสุข ถ้าคุณคือผู้ประกอบการ หรือนักการตลาด สิ่งที่แรกที่ต้องรู้คือ ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งแน่นอนว่าผู้บริโภคอาจไม่ได้มีกลุ่มเดียว ทุกกลุ่มย่อมมีปัญหา และความต้องการที่แตกต่างกัน
ในกรณีนี้คุณคงต้องแปลงร่างเป็นเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ ที่ต้องพยายามเข้าใจเหล่าบรรดาคนแคระทั้ง 7 ที่มีบุคลิกแตกต่างกัน ลองสังเกตุดูว่าผู้บริโภคแต่ละกลุ่มนั้นมีบุคลิกอย่างไร มีความชอบด้านไหน และคุณจะใช้กลยุทธ์ใดเพื่อให้เข้าถึงพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ต้องไม่ละทิ้งความฝันเหมือนซินเดอเรลล่า
นักประชาสัมพันธ์ต้องไม่ยอมแพ้ต่อความฝัน เหมือนกับที่ซินเดอเรลล่า เธอก็มีความฝันที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น แม้จะมีชีวิตที่วุ่นวายแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็ไม่ปล่อยให้ความฝันหลุดลอยไป เมื่อโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตตัวเอง เธอจึงรีบคว้าไว้ทันที
ในชีวิตจริงก็เช่นกัน ถ้าคุณไม่มีความทะเยอทะยาน คุณก็จะไม่มีความหวัง ความหวังในที่นี้ อาจหมายถึง หวังให้การทำงานประสบความสำเร็จ หรือเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายก็ได้ จะสำเร็จหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่าคุณจะพัฒนาตนเองได้มากน้อยเพียงใด เหมือนคำพูดที่ว่า “ฝันให้ไกล ไปให้ถึง”
แม้ในนิยาย ทุกเรื่องจะมีตอนจบที่มีความสุข แต่บางครั้งสิ่งที่เราคาดหวังอาจไม่ประสบความสำเร็จก็ได้ แต่นี่จะเป็นบทเรียนเพื่อให้คุณได้นำไปปรับใช้ต่อไปในอนาคต
