3 เทคนิคช่วยการทำพรีเซนเตชั่นให้เลิศที่สุด

  • 5
  •  
  •  
  •  
  •  

Presentation_Slides_Tips

ทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งของมาร์เกตเตอร์คือการพรีเซนต์งานให้จับใจทั้งเจ้านายและลูกค้า แต่คุณจะทำเช่นนั้นไม่ได้เลยหากพรีเซนเตชั่นและเอกสารที่นำมาไม่ได้น่าสนใจโดดเด่น

การทำพรีเซนเตชั่นเป็นกลยุทธ์ในการสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าอย่างหนึ่ง พรีเซนเตชั่นที่ดีไม่ได้มีตัวหนังสือเยอะ หรืออัดแน่นด้วยข้อมูลเข้าใจยากแต่เป็นข้อมูลที่ย่อยมาแล้วและง่ายต่อการทำความเข้าใจ นอกจากนี้ยังต้องมีพลังในการโน้มน้าวใจอย่างแรงกล้าด้วย

ต่อไปนี้เป็น 3 เทคนิคในการทำพรีเซนเตชั่นให้บาดตาจับใจลูกค้าทุกคนครับ

1.อย่าให้แต่ล่ะสไลด์รกรุงรัง

คำแนะนำที่ดีคือให้มีไอเดียหลักหนึ่งไอเดียต่อสไลด์ หมายความว่าในหนึ่งสไลด์มีหัวข้อหลักที่ชัดเจนหนึ่งหัวข้อแต่ที่เหลือคุณสามารถพูดขยายความมันออกไปได้ ให้คิดถึงชั่วโมงเรียนภาษาไทยสมัยก่อน คุณจะพบว่าแต่ล่ะย่อหน้ามีไอเดียหลักของตัวเองใช่ไหม การทำสไลด์ก็เช่นกัน แต่ล่ะหน้าก็มีใจความหลักเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

2.อย่าเล่าเรื่องตามภาพที่เห็นบนสไลด์

นอกจากนั้นก็อย่าพยายามใช้คำซ้ำกับบนสไลด์เพราะมันทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือน “นายมาอ่านสไลด์ให้ฉันฟังทำไม” อย่าลืมว่าระหว่างที่คุณอธิบาย ผู้ฟังก็จะอ่านข้อความบนสไลด์ไปเรียบร้อยแล้วจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องอ่านทวนอีก สิ่งที่คุณควรทำคือใช้ข้อความและรูปภาพในสไลด์เพื่อเตือนความจำคุณว่าคุณควรพูดเรื่องอะไร

3.สลับสไลด์เป็นสไลด์ว่างเมื่อพูดถึงหัวข้อทั้งหมดครบแล้ว

มาร์เกตเตอร์หลายคนค้างสไลด์เดิมไว้นานมากแม้จะพูดถึงหัวข้อทั้งหมดครบถ้วนแล้ว นั้นไม่ใช่ไอเดียที่ดีเพราะจะทำให้ผู้ฟังเกิดความสับสนว่าสิ่งที่คุณพูดเกี่ยวข้องกับบนสไลด์ตรงไหน ทางแก้ที่ดีคือหากคุณวางแผนจะอธิบายเพิ่มให้ใส่แผ่น “ว่าง” ที่จะเปิดโอกาสให้คุณอธิบายขยายความได้อย่างอิสระ

หากคุณทำสไลด์เป็นสีขาวดำแล้ว ลองใช้ภาพแพทเทิลอย่างข้างล่างนี้เป็นภาพคั่นจังหวะสิ มันช่วยพักสายตาและทำให้ผู้อ่านรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะเลยนะ

Source


  • 5
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง