ปัจจุบัน โซเชียลเนคเวิร์กกลายเป็นช่องทางหลักในการสร้าง community และ brand awareness ให้แก่ลูกค้าในสังคมยุคดิจิตอล ผู้บริหารยังสามารถใช้โซเชียลเนคเวิร์กเป็นช่องทางหนึ่งในการพัฒนาธุรกิจ บริการลูกค้า ทำมาร์เกตติ้ง การประชาสัมพันธ์ เปลี่ยนรูปแบบการบริหารและเพิ่มภาวะความเป็นผู้นำ อย่างไรก็ตาม โซเชียลเนคเวิร์กเป็นดาบสองคมที่คุณต้องรู้จักมันให้ดีก่อนใช้งาน มิเช่นนั้นผลดีอาจกลายเป็นผลร้ายได้อย่างคาดไม่ถึง
- เมื่อคุณเริ่มใช้โซเชียลมีเดีย จะไม่มีใครเชื่อถือคุณแม้แต่ตัวคุณเอง
- หากจะใช้ภาษาที่เข้าใจยาก ต้องแปลภาษาเหล่านั้นให้เข้าใจง่าย (แม้แต่เด็กมัธยมก็เข้าใจที่คุณเขียนได้)
- หาวิธีการวัดความสำเร็จและอธิบายว่าวิธีการดังกล่าวมันสมเหตุสมผลอย่างไร คุณต้องมีเป้าหมาย มีวิธีที่จะไปถึงเป้าหมาย และมีข้อยกเว้นที่เป็นเหตุเป็นผล แต่ด้วยความไม่มีประสบการณ์ของคุณมันจะเป็นเรื่องยากมากในตอนแรกๆ
- บางคนเชื่อว่าการสร้างความประทับใจ ภาพ และเสียง ช่วยให้คน engage คุณได้ดีที่สุด
- แม้คุณจะเป็นกองหน้าที่จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่บริษัท แต่สุดท้ายแล้วผู้คนที่คาดหวังให้คุณนำความเปลี่ยนแปลงมาให้ก็อาจจะไม่แฮปปี้กับมัน
- บางคนไม่เห็นความสำคัญของการสร้างคอนเนคชั่นและทำให้ลูกค้ามีความสุข แม้ว่าความสัมพันธ์จะเป็นสิ่งที่ส่งเสริมธุรกิจได้ดีที่สุด
- เมื่อคุณประสบความสำเร็จ ก็ไม่มีใครสนใจเรื่องราวของความสำเร็จของคุณเท่าไหร่นักเพราะพวกเขาคิดว่าเขาก็สามารถเป็นอย่างคุณได้อย่างง่ายดาย (ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วไม่ง่ายเลย)
- บางคนตอบสนองต่อสิ่งที่ฉุกเฉินอย่างเฉยเมย และตอบโต้กับสิ่งไร้สาระอย่างกระชับกระเฉง การเข้าใจวัฒนธรรมของผู้เสพโซเชียลมีเดียถือเป็นเรื่องสำคัญที่ใช้ในการแยกแยะว่าสิ่งไหนจำเป็นสิ่งไหนไม่จำเป็น
- โซเชียลเนคเวิร์กทำให้ความเข้าใจเรื่อง “ความเร่งด่วน” ของผู้คนเสียไป ยิ่งเมื่อเห็นความเร็วของอินเตอร์เนตพวกเขายิ่งไม่รู้จักการรอมากขึ้น
- งานบนโซเชียลมีเดียไม่ได้น่ารื่นรมย์หรอกนะ
- หากคิดเป็นรายได้ต่อชั่วโมงทำงานยิ่งไม่น่ารื่นรมย์เข้าไปใหญ่
- หากคุณสร้างตัวเองให้โด่งดังมากเท่าไหร่ ความผิดพลาดของคุณก็จะโด่งดังไปมากเท่านั้น
- หากคุณสร้างตัวเองให้โด่งดังมากเท่าไหร่ คนก็จะยิ่งครหาว่าคุณนะ “อยากดัง” – ซึ่งบางครั้งก็จริง
- ผู้อ่านบางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมคุณถึงไปเอาคอนเทนต์ชาวบ้านมาลงล่ะ ก็แก้ตัวไปว่าเราพยายาม “เข้าถึงคนท้องถิ่น” ให้มากขึ้น
- คุณต้องลงทุนความเป็นส่วนตัวและติดหนึบกับมันมากมาย
- คุณจะโดนวิจารณ์โดยคนที่ไม่รู้จักว่าการพูดดีๆ เป็นอย่างไร
- คุณจะโดนวิจารณ์โดยคนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรอยู่
- คุณไม่มีทางทำให้สิ่งที่คุณเขียนไปเป็นจริงได้หรอก ก็คุณไม่มีทรัพยากรพอ
- ไอเดียบางอย่างตกยุคไปแล้วก่อนที่คุณจะได้มันมาซะอีก
- มีเพียงผู้อุทิศตัวให้กับโซเชียลมีเดียเท่านั้นที่จะดังได้ คุณจินตนาการไม่ออกหรอกว่ามันน่าตื่นเต้นแค่ไหนเมื่อมีคนที่คุณเคารพแชร์บางอย่างมาให้คุณ
- คนรอบข้างอาจคิดว่าคุณแคร์เพื่อนบนออนไลน์มากกว่าออฟไลน์ – ซึ่งบางครั้งพวกเขาก็พูดถูก
- มีสังคมบนโลกออนไลน์หมายความว่าคุณต้องมีสังคมในโลกออฟไลน์เช่นกันนะ
- ไม่มีใครเก่งรอบด้านบนโลกโซเชียลเนคเวิร์กหรอก
- ไม่ว่าคุณจะนั่ง นอน ยืน ฟัง หรือพูด คุณควรเปลี่ยนทัศนวิสัยและตอบโต้กับสิ่งต่างๆ ในภาพรวมเท่านั้น
- วินาทีที่คุณลืมไปว่าโซเชียลเนคเวิร์กคือคนหลังคีย์บอร์ด พวกเขาจะหาทางเตือนคุณ-บางทีก็เตือนทั้งๆ ที่คุณยังจำได้อยู่นั้นแหละ
- ทุกวันเป็นวันที่เหนื่อยยาก คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเองแล้วคนอื่นจะเชื่อมั่นคุณ ด้วยเหตุนี้คุณจะเรียนรู้ได้ไวและไปได้ฉิ่ว
- หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังจะทำการตลาดบนโซเชียลเนคเวิร์ก จงรู้ไว้ว่าคุณกำลังทำให้คนอีกไม่รู้กี่ล้านคนรู้ถึงความเป็นไปได้ของการตลาดดิจิตอลอันรุ่งเรือง นี้ทำให้ทั้ง 26 ข้อที่ผ่านมามีความหมาย
ภายใต้ความไม่แน่นอนของโลกโซเชียลเนคเวิร์ก โอกาสในการเป็นผู้นำของคุณจึงสามารถส่องประกายได้โดยไม่ต้องถูกขัดแข้งขัดขาจากผู้ใหญ่บนโลกออฟไลน์ ด้วยพลังแห่งความจริงใจและความรับผิดชอบต่อสังคมจะทำให้คุณกลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลบนโลกโซเชียลเนคเวิร์กได้ในอนาคต