ทวิตเตอร์ปล่อยโซลูชั่นเด็ด "Twitter Influencer Sponsorship Model" เพิ่ม ROI ให้แคมเปญการตลาด

การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้นในประเทศไทย และเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้บริโภค อินฟลูเอนเซอร์และแบรนด์เข้ามาพบกัน ร่วมกันจุดประกายบทสนทนาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และหัวข้อใหม่ ๆ ขณะเดียวกันก็เกิดการสร้างชุมชนซึ่งเปี่ยมไปด้วยแพสชั่นของคนที่มีความสนใจคล้าย ๆ กัน Twitter’s influencer sponsorship model จึงพร้อมเข้ามาเป็นตัวช่วยสร้างโอกาสให้แบรนด์เชื่อมต่อและสร้างบทสนทนาผ่านเอ็นเกจเมนต์กับอินฟลูเอนเซอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทุกคนต่างใช้กลยุทธ์อินฟลูเอนเซอร์เพื่อแคมเปญทางการตลาด

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร ความงาม หรือผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม อินฟลูเอนเซอร์คือกลุ่มคนที่อยู่แถวหน้าบน
ทวิตเตอร์ประเทศไทย พวกเขาสามารถกระตุ้นให้เกิดการพูดคุยและช่วยขยายวงสนทนา ไม่แปลกใจว่าทำไมผู้คนจึงมองหาคำแนะนำและเคล็ดลับอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์จากบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ เพราะบนทวิตเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์มีแนวโน้มที่จะให้ความเห็นที่จริงใจอินฟลูเอนเซอร์จึงมีการตอบรับกับแฟนๆ ที่กำลังติดตามพวกเขาอยู่ ทวิตเตอร์พบว่า 49% ของคนบนทวิตเตอร์ทั่วโลกมองหาคำแนะนำจากทวีตของอินฟลูเอนเซอร์ ขณะที่ 39% มองหาทวีตของแบรนด์ ซึ่งจะสูงกว่าการดูโฆษณาทางโทรทัศน์ (36%) และดูโฆษณาทางออนไลน์ (35%)[1]

Twitter’s Influencer Sponsorship Model

ทำการตลาดแบบ Influencer Marketing ให้เข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วย Twitter Influencer Sponsorship Model โซลูชั่นใหม่ของทวิตเตอร์ สามารถใช้บริการได้แล้วในประเทศไทย ด้วยการนำเอาพลังของ micro influencer และ macro influencer มาใช้เพื่อช่วยให้แบรนด์ทำโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ และกระตุ้นให้เกิด ROI ที่คุ้มค่าการลงทุนมากกว่าการทำแคมเปญรูปแบบเดิม

จุดเด่นของโซลูชั่น Twitter Influencer Sponsorship Model มีดังนี้

กระตุ้นให้เกิด ROI ได้เร็วขึ้นสำหรับแบรนด์ – เนื่องจากการลงทุนทั้ง 100% จะนำไปใช้เพื่อการโฆษณาบนทวิตเตอร์ เพื่อโปรโมตคอนเท้นท์ของแคมเปญให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์
ไม่เสียค่าทำคอนเท้นท์ – เพราะค่าใช้จ่ายด้านการผลิตและค่าตัวของอินฟลูเอนเซอร์รวมอยู่ในส่วนนี้แล้ว
ใช้พลังของอินฟลูเอนเซอร์ – สร้างความรู้สึกที่ดีกับแบรนด์ด้วยการเชื่อมโยงกับอินฟลูเอนเซอร์และ
คอนเท้นท์ของพวกเขา

นายคาร์ล เชง หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรด้านคอนเท้นท์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐประชาชนจีน ของทวิตเตอร์ กล่าวว่า“รูปแบบของ Twitter Influencer Sponsorship Model เป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสให้กับหลายๆ แบรนด์ในการใช้ประโยชน์จากพลังของ influencer marketing ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ โซลูชั่นนี้เป็นการนำเอาพลังจากทั้งทวิตเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์มาใช้ร่วมกัน และยังทำให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อแบรนด์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์และ คอนเท้นท์ของพวกเขา ด้วยการใช้เงินลงทุนทั้งหมด 100% ในการซื้อสื่อโฆษณาบนทวิตเตอร์ซึ่งจะทำให้ ROI เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับรูปแบบอื่นๆ และตอบโจทย์กับแบรนด์ทุกขนาดองค์กรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม”

เพิ่ม ROI ให้กับแคมเปญ

ทวิตเตอร์เป็นสถานที่ที่ไม่ว่าแบรนด์ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่เข้ามาพูดคุยและเชื่อมต่อกับกลุ่มผู้บริโภค ด้าน
Twitter Influencer Sponsorship Model จึงได้จับมือกับ GMMTV, Nadao Bangkok, WebTVAsia และค่ายอื่นๆ อีกมากมายในประเทศไทย เพื่อช่วยให้ influencer marketing เข้าใจได้ง่ายขึ้นและเข้าถึงได้มากขึ้นกว่าเดิม ยกตัวอย่างของ วอลล์ ประเทศไทย(@Walls_Thailand) ที่ได้ใช้ประโยชน์จาก Twitter Influencer Sponsorship Model ในการทำงานร่วมกับ ดิว จิรวรรตน์ หรือ Dewjsu (@dew_jsu) ในแคมเปญล่าสุด Happy Friday (#วอลล์แจกไอติมฟรี) ด้วยการที่แบรนด์มีความเชื่อมั่นที่ว่า ความสุขคือเป็นสิ่งที่ทุกคนเลือกได้และต้องการให้แคมเปญสร้างตำแหน่งทางการตลาดให้แบรนด์ในฐานะแบรนด์ที่มอบความสุขกับชุมชน

เมื่อเปรียบเทียบทวีตจากแบรนด์และทวีตของอินฟลูเอนเซอร์ในช่วงที่ทำแคมเปญ พบว่าทวีตของอินฟลูเอนเซอร์มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมเกินทุกเกณฑ์มาตรฐานของกลุ่มสินค้าพร้อมอุปโภคบริโภค (CPG) ในหมวดอาหารในประเทศไทย โดยพบว่า

ทวีตของอินฟลูเอนเซอร์มียอดเอ็นเกจเมนต์ที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 46%
ทวีตของอินฟลูเอนเซอร์มียอดเอ็นเกจสูงกว่าทวีตของแบรนด์ 59%
Cost per engagement ถูกลงถึง 22%
พบว่าผู้บริโภคมีความรู้สึกต่อแบรนด์ในเชิงบวกเพิ่มขึ้น 33%ในช่วงที่ออกแคมเปญ

เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/dew_jsu/status/1512329791822737412

ทั้งนี้วอลล์ ประเทศไทย) ยังได้ใช้ Twitter Influencer Sponsorship Model ทำงานร่วมกับ นนน กรภัทร์ หรือ TRIPLE.N (@mynameisnanon) และ กัน อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์ (@AtthaphanP) ในการเรียกยอดเอ็นเกจแคมเปญไอศกรีมช็อกโกแลต Top Ten (#TopTenช็อกเข้มๆถั่วเต็มคำ)

พบว่าทวีตของอินฟลูเอนเซอร์มียอดเอ็นเกจที่สูงกว่าทวีตของแบรนด์ 128% และได้ผลกว่าแบรนด์ทวีตเฉลี่ย 45%
พบว่าผู้บริโภคมีความรู้สึกต่อแบรนด์ในเชิงบวกเพิ่มขึ้น 57% ในช่วงที่ออกแคมเปญ

เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/mynameisnanon/status/1529076426145955840

นางสาวณิชาพัชร วลัยพัชรา Ice Cream Thailand Lead of Wall’s Thailand เปิดเผยว่า “เราได้ทำงานร่วมกับ
ทวิตเตอร์โดยใช้ Twitter Influencer Sponsorship Model กับ 2 แคมเปญล่าสุด ซึ่งผลลัพธ์ออกมายอดเยี่ยม เหนือกว่าเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด เราเห็นถึงยอดเอ็นเกจเม้นท์ที่เพิ่มขึ้น บทสนทนาเกี่ยวกับแบรนด์เพิ่มขึ้น และบรรลุเป้าหมายในทุกขั้นตอนการตลาด ทวิตเตอร์เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มของการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ที่ดีที่สุด เนื่องจากอินฟลูเอนเซอร์มีความเป็นตัวเองได้มากกว่า นอกจากนี้ อินฟลูเอนเซอร์ยังเชื่อมต่อกับคนที่ติดตามพวกเขาในระดับที่ลงลึกได้มากกว่าที่อื่น ทำให้เราประสบความสำเร็จในการส่งต่อแมสเซจของแบรนด์ออกไปในวงกว้าง เพิ่มบทสนทนาของแบรนด์ได้มากขึ้น และสร้างความรู้สึกเชิงบวกที่มีต่อแบรนด์ได้มากขึ้นด้วย”

ทั้ง 2 แคมเปญของวอลล์ประเทศไทยได้ใช้โซลูชั่น Twitter Influencer Sponsorship Model จึงทำให้ได้ ROI
ที่สูงกว่าการทำแคมเปญรูปแบบเดิม และเมื่อวิเคราะห์บทสนทนาก็พบว่าทั้ง 2 แคมเปญเกิดบทสนทนาบนทวิตเตอร์มากกว่า 11,000 ทวีต และถึงแม้ว่าแคมเปญจะจบลงไปแล้ว แต่ระยะเวลาของการขยายผล ROI ยังคงมีต่อเนื่องออกไปอีก เนื่องจากผู้บริโภคยังคงใช้อีโมจิของแบรนด์ในบทสนทนาของพวกเขาอยู่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งให้กับแมสเซจของแบรนด์

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก #WhatsHappening และใช้ประโยชน์จากพลังของ
อินฟลูเอนเซอร์บนทวิตเตอร์ด้วย Twitter Influencer Sponsorship Model กัน

[1] ที่มา: OMG + Twitter Influencer Attitudes, Perceptions + Format Research 2016, % of Respondents Who Rely on Ad Formats for Recommendations.