หลังจากก่อนหน้านี้ “Global Citizen” โครงการระดับโลกที่มุ่งแก้ปัญหาความยากจน โดยมีเป้าหมายขจัดปัญหาความยากจนให้หมดสิ้นไปในปี 2030 เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และความเท่าเทียมในสังคม ได้ร่วมกับ “World Health Organization” (WHO) ทำแคมเปญ “Together At Home” หรือใช้ hashtag #TogetherAtHome โดยมีศิลปินนักร้องจากหลากหลากแนวเพลงมาจัด “Virtual Concert Series” ในบ้านของตัวเอง เช่น John Legend, Chris Martin, Steve Aoki ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีฟีเจอร์ “Live” เช่น Instagram Live, YouTube Live เพื่อทำให้คนทั่วโลกตระหนักถึงสถานการณ์ COVID-19
ล่าสุด “Global Citizen” ได้ต่อยอดแคมเปญ “Together At Home” สู่การจัดรายการพิเศษ “One World: Together At Home” ที่นำเสนอทั้งประสบการณ์จริงของแพทย์ – พยาบาล และครอบครัวทั่วโลกที่ต่อสู้กับไวรัส COVID-19 พร้อมด้วยคอนเสิร์ตการกุศลจากศิลปินดังในรูปแบบ Virtual
นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในระดับโลกของการรวมพลังกัน ทั้งองค์กร – แบรนด์ต่างๆ ชั้นนำของโลก และศิลปิน – บุคคลมีชื่อเสียง มาร่วมกันจัดรายการพิเศษนี้ ออกอากาศทั้งสถานีโทรทัศน์หลายช่อง และ “Live Streaming” ผ่านแพลตฟอร์มใหญ่ โดยมี “Lady Gaga” เป็นแม่งานการจัดงานครั้งนี้
สนับสนุน และส่งกำลังใจ “บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเปิดรายชื่อศิลปิน-คนดัง
“One World: Together At Home” ไม่ใช่รายการระดมทุนทางทีวี ที่เปิดให้คนจากทางบ้านโทรเข้ามา แต่จุดประสงค์หลักเพื่อสร้างพลังสามัคคี และความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนในการควบคุม – ป้องกัน COVID-19 และสร้างความบันเทิงให้กับประชาชน ในยามวิกฤต
รวมทั้งเพื่อสนับสนุน พร้อมทั้งให้กำลังใจ “บุคลากรทางการแพทย์” กลุ่มบุคคลสำคัญที่ทำงานอย่างหนักในสถานการณ์วิกฤตไวรัส “COVID-19”
สำหรับศิลปิน และคนดังระดับโลกเข้าร่วม เช่น Alanis Morissette, Andrea Bocelli, Billie Eilish, Billie Joe Armstrong จากวง Green Day, Burna Boy, Chris Martin, David Beckham, Eddie Vedder, Elton John, FINNEAS, Idris and Sabrina Elba, J Balvin, John Legend, Kacey Musgraves, Keith Urban, Kerry Washington, Lang Lang, Lizzo, Maluma, Paul McCartney, Priyanka Chopra Jonas, Shah Rukh Khan และ Stevie Wonder
ดำเนินรายการโดยพิธีกรชื่อดัง Jimmy Fallon จากรายการ The Tonight Show, Jimmy Kimmel จากรายการ Jimmy Kimmel Live, Stephen Colbert จากรายการ The Late Show with Stephen Colbert
งานจะจัดขึ้นในวันที่ 18 เมษายน 2020 ออกอากาศพร้อมกันทั่วโลก ตั้งแต่เวลา 20.00 น ของสหรัฐฯ (ET) ซึ่งตรงกับประเทศไทยในช่วงเช้าเวลาประมาณ 7.00 น. ของวันที่ 19 เมษายน (เวลาช้ากว่าไทย 11 – 12 ชั่วโมง) ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
-
สถานีโทรทัศน์ใหญ่ระดับโลก เช่น ABC, NBC, ViacomCBS Networks
-
Online Streaming ของแพลตฟอร์มใหญ่ที่มาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Alibaba, Amazon Prime Video, Apple, Facebook, Instagram, LiveXLive, Tencent, Tencent Music Entertainment Group, TIDAL, TuneIn, Twitch, Twitter, Yahoo และ YouTube
“องค์การอนามัยโลกมุ่งเอาชนะไวรัส Corona ที่ปัจจุบันอยู่ในขั้น Pandemic ทั่วโลก ด้วยหลักวิทยาศาสตร์, การสาธารณสุข และให้การสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นด่านหน้าของการต่อสู้กับสถานการณ์ครั้งนี้
ดังนั้นแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนต้องรักษาระยะทางทางกายภาพในระยะเวลาหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันพวกเราสามารถรวมตัวกันในโลกเสมือนจริง (Virtual) ดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรี และเสียงเพลงจากคอนเสิร์ต “One World: Together At Home” เพื่อแสดงพลังความเป็นหนึ่งเดียวในการต่อสู้กับภัยคุกคามในครั้งนี้ร่วมกัน” นายแพทย์ Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าว
ขณะที่ Hugh Evans ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอ “Global Citizen” กล่าวว่า พวกเรานับถือในความหาญกล้าของบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่ทำงานด้านสาธารณสุข ซึ่งเป้าหมายของรายการ “One World: Together At Home” เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมของความสามัคคี และเป็นการสนับสนุนทั่วโลกในการต่อสู้กับ COVID-19 ผ่านดนตรี ความบันเทิงจากศิลปินระดับโลก เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนผู้ที่ทำงานด่านหน้าที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการทำหน้าที่รักษา และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
ทำความรู้จัก “กองทุน COVID-19 Solidarity Response Fund” กับภารกิจเร่งด่วน
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา WHO, United Nation Foundation และ Swiss Philanthropy Foundation ได้ร่วมกันจัดตั้ง “กองทุน COVID-19 Solidarity Response Fund” เพื่อสนับสนุนองค์การอนามัยโลก ที่มีภารกิจหลักเร่งด่วนคือ
-
ติดตาม และทำความเข้าใจการแพร่ระบาดของไวรัส
-
จัดเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์
-
สร้างห้องปฏิบัติการ และเครื่องมือในการวิจัย – ทดลองวัคซีน
-
สร้างความรู้ – ความเข้าใจไวรัส และการป้องกันแก่ประชาชน
-
มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด และการติดเชื้อในประเทศที่ยังไม่มีศักยภาพด้านการสาธารณสุขเพียงพอ
-
เร่งการพัฒนาวัคซีน ทั้งการทดสอบ และการรักษา
ปัจจุบันองค์กรเอกชน และภาคส่วนต่างๆ จากทั่วโลก ต่างช่วยกันระดมทุนเข้า “กองทุน COVID-19 Solidarity Response Fund” เพื่อสนับสนุน WHO อย่างเต็มที่ให้ดำเนินการภารกิจด่วนครั้งนี้ได้สำเร็จ และรายการ One World: Together At Home จะเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนกองทุนฯ ดังกล่าวนี้ โดยเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว กองทุนฯ ได้จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ และชุดตรวจไว้รัส 1.5 ล้านชุดสำหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลก
Source : WHO , Global Citizen , The Verge