ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่กำลังจะมาเยือน…
ลองย้อนมองกลับไปในอดีตเพื่อศึกษาในสิ่งที่ผิดพลาดไป อะไรที่เราไม่ควรทำ อะไรที่ทำแล้วมันไม่ดี สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นบทเรียนที่สอนเราได้ในอนาคตว่า “อย่าได้ทำมันอีกนะ”
เช่นเดียวกับผลงานของเหล่า Marketers ผู้ผิดพลาดเหล่านี้ ได้ทำร้ายแบรนด์โดยไม่รู้ตัว ลองศึกษาดูเถิด เพื่อจะได้ไม่พลาดซ้ำรอย
13.Kurl-On Mattresses
อะไรคือเทคนิคการขายที่นอนที่ดีที่สุด? แต่คงไม่ใช่การวาดภาพ Malala Yousafzai ถูกยิงโดนกลุ่มตาลีบันเป็นแน่ ฟีดแบ็คกกลับน่ะเหรอคงไม่ต้องบรรยายให้มากความ เพราะไม่นานหลังปล่อยออกไป Ogilvy India ต้องออกมาขอโทษสาธารณะเป็นการใหญ่ทีเดียว
12.Subway
นับเป็นการคาดการณ์ที่ผิดพลาดของ Subway ที่ปล่อย spot นี้ออกมา โดยจะสื่อว่า Subway นั้นพร้อมเสมอกับทุก costume ในทุกซีซั่น ซึ่งหลายเสียงมองว่าเป็น spot ที่ค่อนข้างกดขี่ทางเพศมากเกินไป และโดนวิจารณ์จากสื่อเสียยับเยิน ไม่ว่าจะเป็น Time และ Today แรงกดดันดังกล่าวทำให้ Subway ตัดสินใจต้องถอดโฆษณาชิ้นนี้ออกจาก Youtube เลย
11.Life Alert
โฆษณา Life Alert ที่สื่อถึงอุปกรณ์ในการเรียกคนมาช่วยเหลือในยามที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ตัว เป็นโฆษณาที่สุดสะเทือนขวัญและสะเทือนใจสุดๆ โดยเฉพาะเสียงร้องของคุณยายผู้น่าสงสารที่ร้องโหยหวนชวนบีบคั้นหัวใจเอามากๆ ซึ่งผู้ชมไม่แฮปปี้กับ Ad และแน่นอนมันส่งผลถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย
httpv://www.youtube.com/watch?v=bAchFqliGG8
10.EsuranceEsurance
บริษัท EsuranceEsurance ประกันภัยแบบออนไลน์ รีบดึงบิลบอร์ดชิ้นนี้ออกมาอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหตุเกิดเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ทำไมน่ะเหรอ? ถ้าดูแบบเผินๆ ก็จะไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไร แต่ถ้าสังเกตให้ดีกับประโยคที่ว่า “Cover your home in a click”เมื่อพิจารณาแล้ว คำว่า click มันดันสามารถมองแล้วอ่านเป็น dlick ได้ด้วยนะสิ ประโยคดังกล่าวจึงกลายเป็น “Cover your home in a dick.” ถือว่าเป็นความผิดพลาดที่เข็มขัดสั้นไปนิด
9.Anthropologie
เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ฮือฮามากในโลกออนไลน์ของสหรัฐฯ กับการที่คุณแม่ลูกอ่อนถูกเชิญให้เข้าไปยังห้องน้ำ stockroom เพื่อทำการ breastfeeding ลูกน้อยของเธอ โดยคุณแม่ดังกล่าวได้โพสต์ไปยังเฟซบุ๊กของ Anthropologie ร้านเสื้อผ้าสตรีชื่อดัง ว่าเธอนั้นไม่พอใจการกระทำของพนักงานของทางร้านเลย ทั้งๆ ที่สหรัฐฯ มีการรณรงค์อยู่ตลอดเวลาว่าคุณแม่ลูกอ่อนมีสิทธิที่จะให้นมจากอกลูกของเธอได้ในที่สาธารณะ ดังนั้น การกระทำของพนักงานร้าน Anthropologie จึงเหมือนกับการดูถูกเธอ
เหตุการณ์ดังกล่าวกลายมาเป็นฝันร้ายของ PR เลยทีเดียว ทางแบรนด์ต้องออกโรงมาขอโทษพร้อมกับสัญญาว่าจะเทรนด์และอบรมพนักงานทุกคนใหม่เพื่อการบริการที่ดีกว่านี้ (อ่านรายละเอียดเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติมที่นี่)
8.Bud Light
Bud Light ไปได้สวยทีเดียวกับแคมเปญ “Up for Whatever” แต่ก็ไม่ได้ทุกที่ในสหรัฐฯ หรอกนะ เพราะว่าบางแห่งก็อาจจะไม่ต้อนรับก็ได้
เมื่อบรรดาชาวเมือง Crested Butte ต่างออกมาประท้วงไม่พอใจ Bud Light ที่จะไปจัดงานเฉลิมฉลองที่นั่น เพราะมันจะทำให้ชุมชนรอบๆ ภูเขาอันเงียบสงบของเขาเต็มไปด้วยพวกขี้เมาและเสียงเอะอะโวยวาย ซึ่งในที่สุดแรงต้านก็สำเร็จการจัดงานก็ต้องล่มไป
7.Victoria’s Secret
คงจำแคมเปญที่ถูกต่อต้านอย่างหนักของ Victoria’s Secret ที่ชื่อว่า “The Perfect Body” กันได้สินะ ซึ่งหลังจากถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด ทางแบรนด์ก็ได้เปลี่ยนธีมเป็น “A Body for Every Body”
6.McDonald’s
เป็นปีที่น่าผิดหวังของมาสคอตตัวใหม่ของแม็คโดนัลด์ ทั้งๆ ที่แบรนด์นี้มีทีมงานมาร์เก็ตติ้งที่เข้มแข็งที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เพราะเมื่อมันถูกเปิดตัวออกมากับคำพูดที่ว่า “Say hello to our friend, Happy!” กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กๆ เมื่อเห็นฟันอันใหญ่โตของมาสคอตตัวนี้ แทนที่จะยิ้มร่าเริงรับกลับวิ่งหนีด้วยความตกใจกลัวซะงั้น
5.DiGiorno
เป็นเรื่องดีที่คุณจะจับกระแสในออนไลน์ได้ไวว่าตอนนี้เขาทำอะไร พูดถึงอะไรกันอยู่ แต่จงระวังให้ดีถ้าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนหรืออ่อนไหวต่อความรู้สึก ขอให้ใช้อย่างระแวดระวังที่สุด
อย่างเช่นที่ DiGiornoร้านพิซซ่าของสหรัฐฯ ประสบปัญหามาแล้ว หลังกระโจนลงไปเล่นกับแฮชแท็กที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนั้น แฮชแท็กดังกล่าวได้แก่ “#WhyIStayed” โดยเป็นการร่วมกันต่อต้านความรุนแรงที่กระทำต่อเพศหญิง หลังจากที่นักกีฬาดาวดัง NFL “Ray Rice” ทำร้ายคู่หมั้นของตัวเอง (อ่านข่าวเพิ่ม)
ด้วยความหัวไวแต่ขาดความเฉลียวของ DiGiorno ทำให้ขึ้นแฮชแท็กว่า “#WhyIStayed You had pizza” เท่านั้นแหละ สังคมสหรัฐฯ ก็รุมประณามการฉวยโอกาสของ DiGiorno ถึงความเหมาะสมในเกมการตลาดครั้งนี้
4.Urban Outfitters
Urban Outfitters ได้ตัดสินใจนำชุดในอดีตของมหาวิทยาลัย Kent State ออกมาจำหน่าย แต่แทนที่จะได้รับความนิยมกลับโดนตำหนิยับ เพราะดันออกแบบให้เสื้อ sweatshirt มีลักษณะเหมือนกับมีคราบเลือดกระจายอยู่ ซึ่งเสื้อดังกล่าวนี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เมื่อปี 1970 ที่นักเรียน 4 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์การประท้วงต่อต้านสงคราม
ทางแบรนด์ต้องออกมาขอโทษกับคำตำหนิดังกล่าว แต่ก็ยังอ้างว่าเสื้อ sweatshirt ที่ออกแบบมานี้ไม่ได้มีความตั้งใจให้เหมือนกับคราบเลือดแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่ลายของผ้าเท่านั้น
3.Cadillac
ว่ากันว่าเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ถูกเกลียดมากที่สุดแห่งปี โดย spot ดังกล่าว ปล่อยออกมาในช่วงโอลิมปิกเกมส์ แสดงโดย “Neal McDonough” ที่ออกมาสาธยายถึงความดีงามจากการทำงานหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งชีวิตที่แสนสบาย แต่กลับประโยคที่ว่า “Other countries, they work. They stroll home. They stop by the cafe. They take August off. Off. Why aren’t you like that? Why aren’t we like that? Because we’re crazy-driven, hard-working believers, that’s why.” ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการเหยียดเผ่าพันธุ์และแบ่งแยกกันเกินไป มิหนำซ้ำเนื้อหาที่ชายคนนี้นำเสนอก็ดูน่ารังเกียจอีกด้วย
และผลจากโฆษณาชิ้นนี้ทำให้ Cadillac ตัดสินใจถอนสัญญาที่ทำกับเอเจนซี่ Rogue ทันที เพราะหลังปล่อย spot ออกไปทำให้ยอดขายพังพินาศเลย
httpv://www.youtube.com/watch?v=qGJSI48gkFc
2.US Airways
การขาดความยั้งคิดทำให้เกิดความผิดได้ง่ายเหลือเกินในการทำการตลาดแบบดิจิตล เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดกับ US Airways
จากการที่มีภาพอนาจารของสาวใจกล้านางหนึ่งเล่นพิเรนทร์เอาเครื่องบินมาเป็น sex toy ทว่าทีมงานของ US Airways อาจจะเห็นเป็นเรื่อตลกที่จะหยิบภาพดังกล่าวนี้มาเล่นในทวิตเตอร์ โดยหวังสร้างกระแสให้กับสายการบิน ซึ่งอันที่จริงก็สำเร็จนะ แต่ในแง่ของการเป็นข่าวอื้อฉาว ทางแบรนด์ถูกตำหนิมหาศาลจนต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้สตาฟคนดังกล่าวไม่ได้ถูกไล่ออก โดยสายการบินอ้างว่า “เป็นความผิดพลาดโดยสุจริต”
1.U2
U2 วงร็อคในตำนานก็พลาดเอาได้ง่ายๆ แม้จะมองถึงความเป็นแบรนด์ของวง U2 ว่าเป็นแบบ worldwide ก็จริงอยู่ แต่การบังคับใส่อัลบั้มใหม่ “Songs of Innocence” ของU2 ลงไปใน desktops และลงบน iPhones โดยไม่ได้คำนึงว่าผู้ใช้จะต้องการหรือไม่เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ ทำให้ผู้ใช้หลายคนไม่พอใจเรื่องนี้อย่างมาก งานนี้มีแต่เสียจริงๆ
อย่างไรก็ตาม มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าชื่ออัลบั้มใหม่ตัวย่อได้แก่ S.O.I. เมื่ออ่านกลับหลังจะได้ว่า iOS และถ้าเป็น U2 S.O.I. ก็จะอ่านกลับได้ว่า iOS2U.
ความผิดพลาดนั้นแน่นอนว่าไม่มีใครต้องการให้มันเกิด แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะจดจำไว้เป็นบทเรียนสำคัญและเดินหน้าก้าวต่อไปอย่าให้ซ้ำรอยเดิม.