ทราบหรือไม่ว่ากว่า 67% ของนักช็อปบนสมาร์ทโฟนจะหนีหายไปหาเว็บคู่แข่งทันทีหากขั้นตอนการ checkout สินค้าออกมีความล้าช้า นี่เป็นเพียงหนึ่งในสถิติที่ทาง Google เปิดเผยมาเมื่อเร็วๆ นี้และยังระบุว่านี้เป็นกลยุทธ์ที่แบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Walmart และ Red Roof Inn ทราบกันดี
ต่อไปนี้เป็น case studies ของ 4 แบรนด์ที่สามารถใช้กลยุทธ์โมบายมาร์เกตติ้งได้น่าสนใจ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมการทุ่มงบโฆษณาให้แก่โมบายมาร์เกตติ้งถึงมีแต่เพิ่มขึ้น ตัวอย่างข้างล่างจะทำให้เห็นว่าไอเดียเหล่านี้ทำงานอย่างไร
1.Red Roof Inn
Hotel chain เกี่ยวกับบริการโรงแรมและที่พักที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 9 หมื่นคนต่อวันที่ต้องยกเลิกการเดินทางเพราะเที่ยวบินถูกยกเลิก พวกเขาร่วมมือกับเอเจนซี 360i เพื่อสร้างแคมเปญบนโมบายชื่อ Stranded at the airport? หรือติดอยู่ที่สนามบินเหรอเพื่อเข้าถึงคนพลาดเที่ยวบินได้อย่างตรงจุด
ผลลัพธ์: ยอด last-minute booking เพิ่มขึ้นกว่า 60%
2.Home Depot
httpv://youtu.be/d3nXHuH1sic
เมื่อลูกค้าต้องการปูพื้นห้องน้ำหรือสร้างลานบ้านใหม่ พวกเขานิยมหาวิธีทำผ่านทางวีดีโอบนสมาร์ทโฟนมากกว่าบนคอมพิวเตอร์ (ก็มันพกไปดูด้วยได้นี่หว่า) ด้วยความคิดอันนี้ Home Depot จึงส่ง channel ที่แสดงวิธีการซ่อม ประกอบ สร้าง งานช่างภาพในบ้านกว่า 100 รายการให้ผู้ใช้หาความรู้ได้ใน YouTube
ผลลัพธ์: มีผู้ชมมากกว่า 43 ล้านคน และวีดีโอฮิต 10 วีดีโอแรกมียอดผู้ชมมากกว่าล้านวิว
3.Walmart
ความเร็วเป็นของปีศาจ…เอ๊ย เป็นของอีคอมเมิร์ซ เมื่อปีที่แล้วเว็บไซต์ของ Walmart ต้องใช้เวลากว่า 7.2 วินาทีกว่าจะโหลดได้ เวลานี้อาจไม่นานแต่ก็มีนักช็อปหลายคนที่ปิดหน้าต่างและหายตัวไปช็อปที่อื่น ดังนั้นเพื่อทำให้โหลดเร็วขึ้น Walmart ขึงเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร ขนาดภาพ และโค้ด
ผลลัพธ์: รีเทลเลอร์รายนี้สามารถลดเวลาโหลดจาก 7.2 เป็น 2.9 วินาทีและนั้นทำให้ยอด conversion เพิ่มขึ้น 2 % ในแต่ล่ะวินาที (หมายความว่ายอดเพิ่มขึ้นกว่า 8%)
4.Realtor.com
httpv://youtu.be/8TQC987BSiU?list=PLmlKLrMX62MbHwY35gvScz65zWmn-d_0D
เว็บอสังหาริมทรัพย์อาจดูเหมือนไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับนักแสดง Elizabeth Banks เท่าไหร่นัก แต่แบรนด์พบวิธีที่สร้างสรรค์ในการนำเธอมาเกี่ยวข้องด้วยผ่านทางวีดีโอออนไลน์ โดย Banks ถ่ายวีดีโอซีรี่ย์บน YouTube กว่า 5 ตอนเพื่อชวนลูกค้าดูห้องและสภาพบ้านเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ
ผลลัพธ์: ยอดผู้ชมกว่า 4 แสนวิวในสามสัปดาห์ Skippable video ads ช่วยให้เกิดยอดวิวกว่า 30% ซึ่งหมายถึงว่ากว่า 70% เข้ามาชมวีดีโอตามกระแสสังคมออนไลน์