โลกเสมือนจริง (Virtual World) อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะในโลกของเกมมิ่ง แต่หลังจาก “Mark Zuckerberg” รีแบรนด์องค์กรจาก Facebook เป็น “Meta” พร้อมทรานส์ฟอร์มไปสู่การเป็น “Metaverse Company” เพื่อปลุกปั้นโลก Metaverse และเปิดตัว “Horizon Worlds”
นับแต่นั้นมา “Metaverse” (เมตาเวิร์ส) กลายเป็น Buzzword แห่งยุคสมัย และภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่ระดับประเทศ ระดับเมือง ไปจนถึงภาคธุรกิจ รีบกระโดดเข้ามาลคว้าโอกาสในโลกใบใหม่นี้ หนึ่งในนั้นคือ “กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร” ปรากฏถึงการทดลองผลักดันแบรนด์เข้าสู่ Metaverse
กรณีศึกษาเชน QSR ใหญ่ของโลก “Wendy’s – McDonald’s – Chipotle” ใช้ Metaverse เครื่องมือการตลาดและการขาย
เวลานี้หลายกลุ่มธุรกิจเร่ิมนำแบรนด์ของตนเองไปทดลองในโลกเสมือนจริง ดังตัวอย่าง 3 เชนธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนรายใหญ่ของโลก (Quick Service Restaurant : QSR) คือ
“Wendy’s” (เวนดี้ส์)
“Wendy’s” (เวนดี้ส์) 1 ใน 3 เชน QSR “เบอร์เกอร์” รายใหญ่ของโลก (อีก 2 เชนคือ Burger King และ McDonald’s) ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 5 ทศวรรษ ได้ปรับตัวเข้าสู่ยุค Metaverse ด้วยการเปิดตัว “Wendyverse” เป็นร้านอาหารเสมือนจริง (Virtual Restaurant) บนแพลตฟอร์ม “Horizon Worlds” เมื่อเดือนเมษายน 2022 ที่ผ่านมา
สำหรับใครที่มีอุปกรณ์ Meta Quest 2 สามารถสร้างร่างอวตาร และเข้าเยี่ยมชม – ร่วมสนุกกับร้าน Wendy’s โดยร้านเสมือนจริงมีดีไซน์ทั้งภายนอก–ภายในเหมือนกับร้านจริง เพื่อให้ผู้บริโภคยังคงรู้สึกคุ้นเคย พร้อมด้วยของตกแต่ง เช่น รูปปั้น Wendy’s ขนาดใหญ่ และยังมีเกมให้เล่น
เมื่อร่างอวตารลูกค้าเข้าไปในร้านก็จะเจอเคาน์เตอร์ให้บริการ โต๊ะ–เก้าอี้นั่งที่ให้ลูกค้าสามารถรับอาหารเสมือนจริง และเดินไปที่โต๊ะ
ขณะเดียวกันผู้เล่น Wendyverse ยังสามารถเล่นเกม Buck Biscuitdome ใน Partnership Plaza ที่นี่จะแข่งขันในสนามบาสเก็ตบอล โดยใช้ Baconator หนึ่งในเมนูเบอร์เกอร์ยอดนิยมของ Wendy’s แทนลูกบาสเก็ตบอล ซึ่งผู้ชนะเกมการแข่งขัน จะได้คูปองมูลค่า 1 ดอลลาร์ สำหรับนำไปใช้ที่ร้าน Wendy’s จริง
“McDonald’s” (แมคโดนัลด์)
“McDonald’s” (แมคโดนัลด์) อีกหนึ่งเชน QSR ใหญ่ของโลก ได้เข้าสู่โลก Metaverse ด้วยเช่นกัน ทดลองนำร่องในช่วงตรุษจีน เพื่อเฉลิมฉลองปีเสือ และเทศกาลตรุษจีน ให้ผู้ใช้เข้าแพลตฟอร์ม Virtual Reality “AltspaceVR” และ “Spatial” เพื่อดูดวงชะตาตามราศี และเพื่อให้ลูกค้าผ่อนคลาย ได้ออกแบบเลาจน์เสมือนจริง มีโคมไฟประดับ ซึ่งลูกค้าสามารถจุดโคมของตัวเองปล่อยขึ้นบนฟ้า
ทว่านั่นเป็นเพียงโปรเจคทดลอง แต่ “McDonald’s” มองถึงโอกาสของ Metaverse ในระยะยาว จึงได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า 10 รายการบนโลกเสมือนจริง เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการแก่ลูกค้า ครอบคลุมทั้งภายใต้แบรนด์ “McDonald’s” และ “McCafe” เช่น
– ไฟล์มัลติมีเดียรูปแบบต่างๆ ประกอบด้วยไฟล์อาร์ตเวิร์ค, ข้อความ, เสียง, วิดีโอ และ NFTs
– บริการด้านความบันเทิง เช่น การจัดคอนเสิร์ตจริง และรูปแบบเสมือนจริง, อีเว้นท์เสมือนจริง
– ดำเนินร้านอาหาร McDonald’s ที่มีทั้งสินค้าจริง และสินค้าเสมือนจริง, ร้านออนไลน์เสมือนจริง มีฟีเจอร์บริการจัดส่งถึงบ้าน
“Chipotle”
“Chipotle” เชนร้านอาหารเม็กซิกันรายใหญ่ที่ถือกำเนิดในสหรัฐอเมริกา ก่อนจะขยายไปในหลายประเทศแถบยุโรป ถึงปัจจุบันมีเกือบ 3,000 สาขา ได้เปิดตัวร้านเสมือนจริงบน “Roblox” โดยพาผู้เล่นกลับไปยังร้าน Chipotle แห่งแรกที่เปิดในปี 1993 และมีเกม Burrito Builder ที่ให้ผู้เล่นลองทำงานหลังเคาน์เตอร์ได้ ด้วยการทำเบอร์ริโตตามออเดอร์ภายในระยะเวลาจำกัด
และหากทำได้สำเร็จ ผู้เล่นจะได้ Burrito Bucks ซึ่งเป็นสกุลเงินของแบรนด์บน Roblox สำหรับใช้เข้าถึง Item ต่างๆ ในเกม
นอกจากนี้ผู้เล่น Roblox 100,000 คนแรกที่เล่นเกม Burrito จะได้รับ Burrito Bucks สำหรับนำไปแลกรหัสใช้บนแพลตฟอร์ม Chipotle app, chipotle.com และ chipotle.ca
รวมทั้งเกม Burrito Builder ยังมีฟีเจอร์ Leaderboard แบบเรียลไทม์ แสดงลำดับผู้เล่น 5 อันดับแรกที่เป็นผู้นำของทุกวัน ระหว่างวันที่ 7 – 13 เมษายน 2022 เพื่อได้สิทธิรับเบอร์ริโตฟรีเป็นเวลา 1 ปี (สิทธิประโยชน์นี้ได้เฉพาะผู้เล่นในสหรัฐฯ เท่านั้น)
3 เหตุผลทำไม “ร้านอาหาร” ขยายสู่โลก Metaverse
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “ธุรกิจร้านอาหาร” โดยเฉพาะในช่วงเร่ิมต้นเป็นเชนใหญ่ เร่ิมเข้าสู่โลก Metaverse นั่นเพราะ
1. เชื่อมต่อกับผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ Gen Z และ Gen Alpha สู่การสร้างชุมชนแฟนคลับแบรนด์
ผู้บริโภคกลุ่มสำคัญที่หลายแบรนด์ต้องการสร้าง Engage เพื่อเป็นฐานลูกค้าในระยะยาวต่อไป คือ กลุ่ม “Gen Z” คนที่เกิดปี 1995 – 2009 เป็นช่วงวัยรุ่น จนถึงวัยทำงาน และ “Gen Alpha” คนที่เกิดปี 2010 – 2024
– คาดการณ์ว่าจำนวนประชากรกลุ่ม Gen Z ทั่วโลกอยู่ที่ 2.47 พันล้านคน หรือคิดเป็น 32% ของประชากรทั้งโลกที่มีกว่า 7.7 พันล้านคน
– ขณะที่ Gen Alpha ปัจจุบันทุกๆ สัปดาห์มีประชากรกลุ่มนี้เกิดขึ้น 2.5 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าภายในปี 2025 จำนวนประชากร Gen Alpha จะอยู่ที่เกือบ 2 พันล้านคนทั่วโลก
ผู้บริโภคทั้งกลุ่ม Gen Z และ Gen Alpha เกิดและเติบโตมาในยุคเทคโนโลยี ทำให้เปิดรับและเรียนรู้เทรนด์เทคโนโลยีได้เร็ว ทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อ และต่อไปเป็นฐานจำนวนประชากรขนาดใหญ่
ดังนั้นในมุมมองสำหรับแบรนด์แล้ว “Metaverse” ไม่ใช่เป็นเพียงเทคโนโลยีเท่านั้น หากแต่ยังเป็นแพลตฟอร์มทางการตลาดสำหรับ connect กับผู้บริโภคสองกลุ่มนี้ และสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์ กับผู้บริโภค เพื่อต่อยอดสู่สร้าง Community ของแบรนด์ที่คนในชุมชนบนโลกเสมือนจริงเหล่านี้ จะกลายเป็นฐานแฟนแบรนด์
เหมือนอย่างที่ Tressie Lieberman, VP, Digital and Off-Premise ของแบรนด์ Chipotle ให้เหตุผลถึงการที่ Chipotle เข้าไปอยู่บน ว่า “การปรากฎตัวของเราบน Roblox ช่วยให้เราสามารถสร้าง engage กับกลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นผู้บริโภคที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนแพลตฟอร์มนี้”
2. สร้างประสบการณ์ “Immersive Experience” 24 ชั่วโมง 7 วัน
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ส่งผลให้การเชื่อมต่อประสบการณ์ในโลกจริง และโลกเสมือนล้ำไปไกลระดับ “Immersive Experience” เนื่องจากการเกิดขึ้นของ Immersive Technology ทั้งหลาย เช่น VR, AR ทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างภาพ – การเคลื่อนไหว – เสียง – เทคโนโลยี นำพาผู้บริโภคเข้าสู่โลกเสมือนจริง ที่สามารถโต้ตอบ หรือมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมในโลกเสมือนได้
เพราะฉะนั้นร้านอาหารที่สร้าง Virstual Restaurant ใน Metaverse รวมไปถึงครีเอทเกม เพื่อส่งมอบ Immersive Experience ให้กับผู้เล่น หรือผู้ใช้งาน ซึ่งเหนือไปกว่าประสบการณ์ดิจิทัลทั่วไป เพราะทำให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งการร่วมกิจกรรม การโต้ตอบ หรือมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ หรือแม้แต่มีส่วนร่วมกับผู้เล่นคนอื่นได้อย่างไม่มีข้อจำกัด เช่น ข้อจำกัดด้านเวลา จึงทำให้แบรนด์สามารถ connect กับผู้บริโภคได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน
3. ต่อยอดสู่โมเดล “Play-to-Earn”
“Play-to-Earn” เป็นโมเดลใหม่ของธุรกิจเกม ภายใต้แนวคิดระบบเศรษฐกิจเปิด (Open Economy) ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สินทรัพย์รูปแบบต่างๆ เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) อาทิ Token, NFTs, Crypto Coin หรือได้มูลค่าบางอย่างจากการเล่นเกม และสามารถโอน หรือนำสินทรัพย์นั้นๆ มาใช้งานในโลกจริง (Real World)
จากโมเดล Metaverse ที่แบรนด์ใช้เป็นแพลตฟอร์มใหม่ในการเข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ แน่นอนว่าการจะดึงผู้บริโภคให้เข้ามาเป็นผู้เล่น และมีส่วนร่วมกับร้านของแบรนด์เองใน Metaverse ได้ จึงต้องมีแม่เหล็กในการดึงความสนใจให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามา หนึ่งในแม่เหล็กคือ “เกม” โดยมีการใช้ Digital Asset รูปแบบต่างๆ มาดึงดูดผู้เล่น และทำให้ผู้เล่นได้ Digital Asset หรือได้มูลค่าบางอย่างจากการเข้าไปมีส่วนร่วมกับแบรนด์บน Metaverse
อย่างกรณีของ “Chipotle” เมื่อเข้าสู่โลก Metaverse นอกจากสร้างร้านเสมือนจริงบนแพลตฟอร์ม Roblox แล้ว ยังใช้ โมเดล Play-to-Earn ด้วยการออกแบบเกม และพัฒนาเหรียญของตัวเอง แล้วให้ผู้เล่นที่ได้เหรียญนั้น สามารถนำไปใช้แลกเป็นสิทธิประโยชน์ต่างๆ
“เราใช้รูปแบบ Play-to-Earn เพราะมองว่าเป็นโมเดลที่สร้าง Engagement ใน Metaverse ได้ จึงได้เปิดตัวการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ล่าสุดของเราบน Roblox โดยเราผสมผสานระหว่างองค์ประกอบของแบรนด์ใน Metaverse และในโลกแห่งความเป็นจริงเข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับการนำเสนอประสบการณ์ให้แก่แฟนๆ ของ Chipotle ไปอีกขั้น” Chris Brandt ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด Chipotle เล่าถึงการใช้โมเดล Play-to-Earn
การที่เชนร้านอาหารยักษ์ใหญ่ระดับโลกขยับตัวเข้าสู่ Metaverse นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ และหากสามารถผลักดันแบรนด์เข้าสู่ Metaverse ได้สำเร็จ เชื่อว่าต่อไปจะมีอีกหลายแบรนด์ พยายามสร้างร้านบนโลกเสมือนจริง เพราะ Metaverse ไม่ได้เพียงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นแพลตฟอร์มเชื่อมต่อกับโลกจริง และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่
Source : Business Insider 1 , 2
Source : The Wall Street Journal
Source : Food Institute
Source : Yahoo
Source : Chipotle
Source : Wendy’s