ในยุคที่ผู้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น กูลิโกะได้พัฒนาและคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของลูกค้า โดยเน้นที่คุณค่าทางโภชนาการและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจและเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ด้วยแนวคิด ‘Healthier days, Wellbeing for life’ กูลิโกะตั้งใจยกระดับสุขภาพของผู้บริโภคผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และมุ่งเน้นการสร้างห่วงโซ่คุณค่าที่คำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญ
สำหรับในประเทศไทย กระแสการบริโภคผลิตภัณฑ์นมจากพืช หรือ Plant-based milk ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะนมอัลมอนด์ที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ เพื่อตอบสนองโอกาสในตลาดที่กำลังเติบโตนี้ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ มิกซ์ 3 นัท’ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของนมอัลมอนด์ ‘กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ’ ที่มียอดขายอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น โดยบริษัทมีเป้าหมายขยายผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการสุขภาพดีในระยะยาว ในตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 40%
ต่อยอดการเติบโตตลาดนม Plant-based
กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ ออกสู่ตลาดในประเทศไทยเดือนธันวาคมปี 2022 ผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่อกจากเตรียมตัววางบนเชลฟ์ไม่ทันปีนั้น
ต้นปี 2023 อัลมอนด์ โคกะ สูตรดั้งเดิม, สูตรไม่เติมน้ำตาล และสูตรรสช็อกโกแลต ค่อยๆ ทยอยวางตลาด โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมแต่ละห้าง
ทำการตลาด ทำการขายมาเรื่อยๆ จนถึงประมาณเดือนมิถุนายน 2023 เป็นจังหวะแรกที่มีครบทุกห้าง และผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างดี
“ตอนแรกผู้บริโภคหลายๆ คน มีความกังวลถึงกลิ่นและรสของนมอัลมอนด์ กลัวดื่มยาก แต่หลังจากที่ได้ทำคอนซูเมอร์เทสต์ จนถึงนำสินค้าออกสู่ตลาดจริงๆ ผมคิดว่าผู้บริโภคให้การตอบรับเราเกินคาด” คุณเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าว
จนทำให้ขณะนี้แบรนด์ อัลมอนด์ โคกะ ขึ้นมาติดอยู่ในท็อป 5 ของเมืองไทยในตลาดนม Plant-based ทั้งที่เพิ่งเข้าตลาดปีเศษๆ ขณะที่คู่แข่งที่มีกว่า 20 ราย เข้าตลาดมาก่อนนานพอสมควร
คุณเฉลิมพงษ์ฉายภาพว่า “ถ้าดูตลาดนมทั้งหมด ผมแยกออกมาเป็น 3 ส่วน อันดับแรกคือนมวัว ซึ่งเป็นตลาดที่อยู่มานานมาก แล้วก็ใหญ่ที่สุดอยู่แล้ว มูลค่าตลาดประมาณ 35,000 ล้านบาทต่อปี ณ ขณะนี้ ส่วนที่เหลือก็จะเป็นนมที่เรียกว่า Plant-based หรือนมทางเลือก มีมูลค่าตลาดประมาณ 20,000 ล้านบาท ภายในตลาด Plant-based ต้องแยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งที่อยู่มานานมากคือกลุ่มที่เป็นนมถั่วเหลือง หรือ Soy milk กลุ่มนี้ต้องยอมรับว่าใหญ่จริงๆ เนื่องจากว่าเขาทำการตลาดมานาน มูลค่าประมาณ 18,000 ล้านบาท ที่เหลือทั้งหมด ก็จะเป็นนม Plant-based ที่เป็นตัวอื่นๆ มีทั้งอัลมอนด์ และไม่ใช่อัลมอนด์ ซึ่งมูลค่าของตลาดกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้าน และมีสัดส่วนการเติบโตที่สูงที่สุดในบรรดานมแต่ละประเภท”
เขาอธิบายต่อไปว่า “ถ้าดูการเติบโตของนมวัวต่อปีอยู่ที่ประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ นมถั่วเหลืองโตประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ แต่นม Plant-based อื่นๆ ถึงไซส์ของตลาดยังเล็กอยู่ แต่เติบโตถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นส่วนที่เล็กแต่โตได้เร็วที่สุด และเราเชื่อมั่นว่ามันจะยังคงเทรนด์นี้ต่อไปเรื่อยๆ และถ้ามาดูในตลาด Plant-based ที่เหลือทั้งหมดที่ไม่ใช่นมถั่วเหลือง กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดคืออัลมอนด์ ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป้าหมายเราคือต้องการเป็นเบอร์ 1 ในตลาดให้เร็วที่สุดเท่าที่เราจะทำได้” คุณเฉลิมพงษ์ย้ำ
เปิดตัว ‘กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ’ สูตรใหม่ ‘มิกซ์ 3 นัท’ เอาใจผู้บริโภคชาวไทย
‘กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ มิกซ์ 3 นัท’ ทำมาจากถั่ว Superfood 3 ชนิด ได้แก่ อัลมอนด์ วอลนัท และเฮเซลนัท โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เปิดตัวนมสูตรนี้
คุณทิฆัมพร เพียรวิจารณ์พงศ์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ Health & Wellness บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด พูดถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้มีการออกผลิตภัณฑ์นมอัลมอนด์สูตรใหม่นี้ว่า
“เราออกผลิตภัณฑ์ของเราเมื่อปีที่แล้ว ได้รับการตอบรับดีมากๆ ฉะนั้นแรงบันดาลใจแรกของเราก็คือ เราต้องการต่อยอดการเติบโตของแบรนด์ให้เติบโตขึ้นไปมากยิ่งขึ้น และขณะเดียวกัน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของบริษัท ไทย กูลิโกะ ที่เราค่อนข้างให้ความสำคัญ แรงบันดาลใจต่อมาคือ เทรนด์ Health & Wellness มาแรงในตลาด ดังนั้น เราฐานะหนึ่งในผู้นำผลิตภัณฑ์ทางด้าน Health & Wellness เราต้องพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทันกับตลาด
“ต่อมาคือผู้บริโภค เราในฐานะบริษัทญี่ปุ่น ให้ความสำคัญกับ Consumer Insight มองว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ Plant-based อยู่ เพียงแต่ว่าบางครั้งมี pain point โดยจากรีเสิร์ช ผู้บริโภคยังมีความกังวลว่ารสชาติของผลิตภัณฑ์ Plant-based จะไม่อร่อย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้มีวันนี้เกิดขึ้น ที่เราจะขอแนะนำผลิตภัณฑ์สูตรใหม่ กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ มิกซ์ 3 นัท ที่มีความโดดเด่นด้วยรสชาติอร่อย กลมกล่อม และหอมอโรมาจากถั่ว 3 ชนิด และยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ส่งเสริมสุขภาพโดยรวม”
เพื่อการณ์นี้ได้มีการดึง ‘ใหม่ – ดาวิกา โฮร์เน่’ เป็นพรีเซนเตอร์ ‘กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อกระตุ้นยอดขายและบรรลุเป้าหมายของบริษัทด้วย
กลยุทธ์การขึ้นเป็นเบอร์หนึ่ง
คุณเฉลิมพงษ์กล่าวถึงกลยุทธ์การขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งตามเป้าหมายว่า
“อันดับแรกผมว่าเราคงในจุดยืนของเรา แบรนด์ของเราเน้นในเรื่องของสุขภาพและรสชาติ ตามวิสัยทัศน์ Great Taste and Good Health อันที่สองที่ติดตัวเรามาตั้งแต่วันแรกที่เรามาเปิดโรงงานที่นี่ คือเรื่องของคุณภาพสินค้า นอกจากนม ในส่วนของขนม และไอศกรีม ผมคิดว่าทุกคนเชื่อมั่นได้ว่าถ้าเราลอนช์สินค้าออกมาเราต้องมั่นใจว่าคุณภาพดี อันที่สาม ผมคิดว่าในเรื่องของรสชาติ ข้อได้เปรียบของเราคือเรามี R&D Center อยู่ที่เมืองไทย ซึ่งผมคิดว่าเป็นจุดสำคัญมากๆ สำหรับธุรกิจในปัจจุบันซึ่งมีความซับซ้อนมากกว่าในอดีต เราต้องเข้าใจผู้บริโภคจริงๆ ว่าสิ่งที่เขาถามหาคืออะไร แล้วจะปรับปรุงสูตร ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ รวมถึงแพคเกจจิ้งออกมายังไง ให้ตรงใจผู้บริโภค
“สุดท้ายคือเรื่องของการทำมาร์เก็ตรีเสิร์ช คอนซูเมอร์เทสต์ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ตราบใดที่เรายังไม่มั่นใจว่า ลูกค้าจะชอบสินค้าเรา เราก็ยังคงพัฒนาสินค้าต่อไป แต่ในขณะเดียวกันเราก็พยายามเพิ่มสปีดว่าจะทำยังไงให้สินค้าเราออกมาที่ตลาดได้เร็วขึ้น ฉะนั้นผมว่า 4-5 ปัจจัยนี้น่าจะเป็นตัวที่เรายึดถือมาตลอด ท้ายสุดก็คือ พอมาถึง ณ จุดขายจริงๆ ผมคิดว่าสินค้าใหม่ สินค้าที่เราบอกว่าอร่อย มันต้องมีการลองเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเราก็พยายามทำในเรื่องของ sampling ในเรื่องของการเทสต์ ณ จุดขาย ให้เยอะขึ้น”
ด้านคุณทิฆัมพร อธิบายถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทางแบรนด์ใช้ ดังนี้
- เน้นสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และแนะนำคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจได้อย่างชัดเจน
- สร้างการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมาย ผ่านสื่อโฆษณาและกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
- แจกสินค้าตัวอย่างและทดลองชิมตลอดทั้งปี เพื่อเพิ่มการบริโภคให้มากขึ้นของกลุ่มเป้าหมายในระยะยาว
- ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Collaboration) เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค
ส่วนกลยุทธ์ด้านราคาของนมอัลมอนด์ที่ค่อนข้างสูง คุณเฉลิมพงษ์ อธิบายว่า
“เนื่องจากว่าเราเลือกที่จะอยู่ในตลาดของนมอัลมอนด์ ซึ่งมีอัลมอนด์เป็นเบส อันดับแรกคือ อยากจะให้ผู้บริโภคทำความเข้าใจว่า อัลมอนด์ยังไม่สามารถปลูกในเมืองไทยได้ ต้องนำเข้า เราก็จะมีภาระในเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบที่เราจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากๆ สำหรับปริมาณที่เราใส่เข้าไปในหนึ่งกล่อง ต้องเรียนตามตรงว่าเราไม่เคยคิดเอาเปรียบผู้บริโภคในเรื่องราคา เราพยายามคิดตลอดว่าจะทำยังไงให้เราคาเราลดลงมาได้ แต่ต้องเรียนตามตรงเหมือนกันว่า ด้วยต้นทุนวัตถุดิบในปัจจุบัน โอกาสที่เราจะทำราคาลงมา ผมคิดว่าค่อนข้างลำบาก
“ผมมองว่าตรงนี้เป็นตลาด niche มากกว่า ว่าเป็นนมทางเลือก แล้วก็เป็นสารอาหารที่ให้ประโยชน์กับร่างกายทั้งนั้นเลย เพราะฉะนั้นผมว่าเราสมราคา พูดอย่างนี้แล้วกัน ผมว่าราคาเราอาจจะต่ำไปเสียด้วยซ้ำถ้าพูดถึงคุณภาพสินค้าที่เรานำมาออกสู่ตลาด แต่เราก็พยายามจะทำให้ดีที่สุด ว่าจะทำยังไงให้ผู้บริโภคเอื้อมถึงให้ได้มากที่สุด อยากให้ทุกคนเข้าถึงกัน ไม่ได้หมายความว่าเราอยากจะตั้งราคาสูงๆ และให้เฉพาะคนที่พอจะมีสตางค์ในการซื้อ จริงๆ เราอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสดื่ม แต่ในเมื่อเราเลือกเล่นตลาดอัลมอนด์ผมคิดว่ามันเป็นวัตถุดิบที่ค้ำคอเรานิดหนึ่ง”
กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ มีคุณประโยชน์มากมาย เช่น อุดมไปด้วยวิตามินอีถึง 100% ของปริมาณที่จำเป็นในหนึ่งวัน มีใยอาหารสูง เพิ่มกากใยในระบบอาหาร ช่วยการขับถ่าย และ 0% คอเลสเตอรอล ที่สำคัญยังปราศจากนมวัวและน้ำตาลแล็กโทส ผู้บริโภคเจหรือผู้แพ้นมวัวสามารถรับประทานได้ แม้การแข่งขันในตลาดนม Plant-Based และนมอัลมอนด์จะดุเดือด แต่กูลิโกะก็มั่นใจว่า กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ จะกลายเป็นเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดีที่สุด
กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ มิกซ์ 3 นัท ปริมาณ 180 มล. ราคาเริ่มต้นที่ 27 บาท/กล่อง และ 79 บาท/ แพ็ก (1 แพ็ก = 3 กล่อง), 1 ลิตร 132 บาท/กล่อง รวมไปถึงสูตรดั้งเดิม สูตรไม่เติมน้ำตาล และสูตรรสช็อกโกแลต มีจำหน่ายแล้วในร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
