อย่างที่รู้กันว่า GET เพิ่งเปิดให้บริการในไทยเพียง 6 เดือน (ตั้งแต่ ก.พ. ปีนี้) แต่ความสำเร็จในฐานะ Lifestyle On Demand App ทำให้ชื่อของ GET กลายเป็นที่คุ้นหูของคนไทยและมีฐานผู้ใช้งานเติบโตในเวลาอันรวดเร็ว จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ แนวคิดการทำงานของคนพันธุ์ GET ว่าเป็นอย่างไร
เป็นโอกาสดีที่ GET เปิดบ้านให้เราเยี่ยมชม! เพื่อทำความรู้จักกับองค์กรที่ใช้ Data Driven ขับเคลื่อนธุรกิจและเป้าหมาย ภายใต้แนวคิด Culture First Company กับ 4 บริการ…ส่งคน (GET WIN) ส่งของ (GET DELIVERY) ส่งอาหาร (GET FOOD) และวอลเล็ท (GET PAY) ที่มีอยู่ในตอนนี้
– แม้ว่าคนไทยจะเพิ่งรู้จักกับ GET ได้เพียง 6 เดือน แต่หลังบ้าน…ทำงานกันมานาน 2 ปีแล้ว
– เป้าหมายของ GET ไม่ใช่แค่การเข้าไปตอบสนองชีวิตของผู้บริโภคผ่านบริการ แต่อยู่ที่การนำ “เทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาชีวิตผู้คน”
– เมื่อช่วงต้นเดือน GET เคยแจ้งสถิติเอาไว้ว่า มียอดดาวน์โหลดแอปมากกว่า 1 ล้านครั้ง และมีผู้ใช้งานแอคทีฟราว 5 แสนคนต่อเดือน
จบจากการปูพื้น เรียกน้ำย่อย ให้คุณเห็นภาพกว้าง ๆ ของธุรกิจแล้ว เราจะพาไปทำความรู้จักกับ GET ให้ดีขึ้น ผ่านแนวคิดและวัฒนธรรมองค์กรที่เราสรุปมาให้เข้าใจง่าย ๆ ภายใน 10 ข้อ
1. จากจุดเริ่มต้น 6 คน สู่ 200 คน
คุณภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GET เล่าเส้นทางธุรกิจว่า เมื่อช่วงเริ่มต้นธุรกิจทีมงานใช้โคเวิร์กกิ้งสเปซเป็นสถานที่ทำงาน และเริ่มต้นด้วยทีมงานเพียง 6 คน แต่ปัจจุบันมีพนักงานมากถึง 200 คนแล้ว GET จึงย้ายมาประจำการที่ชั้น 19-21 ของอาคารชาร์เตอร์สแควร์เมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยชั้น 19 ซึ่งกินพื้นที่กว่า 1,400 ตร.ม. ถูกเป็นสำนักงานขนาดใหญ่ และชั้น 20-21 เป็นพื้นที่เทรนด์นิ่งคนขับ
2. 20,000 คน & 20,000 ร้าน
แน่นอนว่าทีมงานของ GET ไม่ได้ดูแลแค่การพัฒนาบริการต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค แต่ยังต้องดูแลไปถึงร้านอาหารและคนขับด้วย ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนร้านอาหารพร้อมให้บริการผ่านระบบรวม 20,000 ร้าน ส่วนคนขับก็เป็นตัวเลขเดียวกัน คือ 20,000 คน โดย GET ยืนยันว่ารูปแบบการทำงานภายในองค์กรที่เป็นการดูแลกันแบบครอบครัวนั้น ถูกส่งต่อตั้งแต่ผู้บริหาร พนักงาน ไปกระทั่งคนขับ ภายใต้การสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบคนรุ่นใหม่เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีและส่งต่อสู่สังคม
3. ชื่อ GET มีที่มา!
แม้จะเป็นแอปที่ได้รับเงินลงทุนจาก GO-JEK สตาร์ทอัพยักษ์ใหญ่จากอินโดนีเซีย แต่การดำเนินงานหลาย ๆ เรื่องของ GET เกิดขึ้น ภายใต้ความพยายามในการนำเสนอแบบ “Brand Localization” นับตั้งแต่ชื่อ GET ที่บริษัทเลือกเอง ตั้งขึ้นเอง ไม่ได้มาจากการตัดสินใจของ GO-JEK ซึ่งเป็นเจ้าของทุน รวมถึงการพัฒนาบริการหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็จะเน้นจากความเข้าใจและต้องการตอบโจทย์ลูกค้าในไทยให้ดีที่สุด
4. เติมดีเทล…เอาใจคนไทยชอบแบรนด์น่ารัก
นอกจากนี้ แบรนด์ยังพยายามใส่รายละเอียดน่ารัก ๆ เพื่อสร้างคาแรกเตอร์ให้ GET เช่น โทนสีหลักของแบรนด์ที่เลือกใช้สีที่เห็นเป็นประจำบนท้องถนนเพื่อสื่อถึงบริการของ GET ที่ต้องเดินทางอยู่บนถนนเพื่อผู้คน คือ สีเหลือง Safety Yellow และสีเทา Street Grey โดยสีเหลืองเป็นสีที่สามารถสะท้อนได้ดีเวลากลางคืนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ส่วนสีเทามาจากสีของพื้นถนนคอนกรีต เนื่องจากคนไทยมีความชื่นชอบแบรนด์ที่มีรายละเอียดและสื่อถึงเรื่องราวน่ารัก ๆ จึงเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะยิ่งทำให้คนไทยรัก GET มากขึ้น
5. จับเรื่องราวบน “ถนน” มาใส่ “ออฟฟิศ”
ไม่ใช่แค่กาารนำรายละเอียจากท้องถนนมาใส่ในแบรนด์ แต่ GET ยังต่อยอดมาถึงการออกแบบและตกแต่งออฟฟิศ โดยเรียกไอเดียนี้ว่า “Street Smart” มีการจำลองทางม้าลาย เส้นแบ่งช่องทางเดินรถ หมวกกันน็อค เสื้อวิน ฯลฯ เข้ามาเป็นอุปกรณ์ตกแต่งออฟฟิศ นอกจากจะแปลกตาแล้วก็ยังสร้างสีสันให้บรรยากาศการทำงานได้ด้วย
6. สำคัญทั้ง “Flexibility” และ “Work-Life Balance”
ตามคอนเซปต์สำนักงานองค์กรยุคใหม่ GET ก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่สนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่นและให้ความสำคัญกับสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน ภายในสำนักงานแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยพื้นที่ส่วนกลาง โซฟา ห้องประชุมถึง 8 ห้อง ซึ่งถูกตกแต่งให้มีบรรยากาศสบาย ๆ ชมวิวก็ได้ นั่งทำงานก็ดี เรียกว่าเป็นออฟฟิศไร้สาย! เพราะมีปลั๊กไฟติดตั้งไว้แทบทุกพื้นที่อยากทำงานตรงไหนจึงเลือกได้เอง ผสมผสานไปกับโต๊ะทำงานภายในห้องที่เปิดโล่ง ไม่เน้นมุมอับมุมลับ อยากออกกำลังกายก็มีโต๊ะปิงปอง ห้องเล่นเกม แถมยังมี…ห้องพักผ่อนที่เรียกว่า GET Some Rest ซึ่งมีเตียงนอน 2 ชั้นนุ่ม ๆ พร้อมต้อนรับสำหรับผู้ที่อยากงีบหลับเพิ่มพลังระหว่างวันหรืออยากพักผ่อนเพราะเจ็บป่วย ยังไม่รวมกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นตามวาระ เช่น รวมตัวกันเล่นโยคะในพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อยืดเส้น ลดความเมื่อยล้าจากการทำงาน เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ GET พยายามส่งเสริมการทำงานของบุคลากรผ่าน 4 ไอเดีย ได้แก่
Collaboration : ทำงานแบบสตาร์ทอัพ คือ ทำงานร่วมกัน ตัดสินใจร่วมกัน แม้จะแบ่งการทำงานเป็นทีมใครทีมมันแต่ทุกทีมสามารถรวมกันเป็นทีมเดียวได้
Concentration : นอกจากโต๊ะทำงานประจำตัวและพื้นที่ส่วนกลางที่เลือกทำงานได้อิสระ ก็ยังมี Quiet Corner ไว้ให้คนที่ต้องการสมาธิหรือคุยโทรศัพท์ด้วย
Community : ผ่อนคลายได้ทั้งระหว่างทำงานหรือหลังเลิกงาน ตามไอเดีย Work & Play กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจในการทำงาน
Mobility & Freedom : ถึงจะเลือกมุมนั่งทำงานได้ทุกพื้นที่แล้ว แม้แต่ในห้องประชุมก็ยังมีการต่อจอแบบไร้สาย และเทคโนโลยี Zoom ทำให้คอมพิวเตอร์ของพนักงานทุกคนสามารถ Cast Content ขึ้นจอได้ทันที
7. เป็น “เครื่องบินใหม่” แต่ “คนขับเก่า”
GET วางแนวคิดองค์กรแบบ “Culture First Company” ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กรมากกว่าการใส่ใจจดจ่อกับตัวเลขความสำเร็จ ทำให้องค์กรให้ความสำคัญตั้งแต่การคัดเลือกทีมงาน และต้องสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเปรียบเทียบว่า…เป็นเครื่องบินลำใหม่ที่มีคนขับเก่ามากประสบการณ์เป็นผู้ควบคุม เท่ากับว่า GET ยอมรับสถานะของตนเองว่าเป็นผู้เล่นรายใหม่ในตลาด แต่ก็ยังมั่นใจในฝีมือของผู้บริหารและทีมงานในองค์กรว่าเป็นทีมคุณภาพมากฝีมือ
8. ยึด Core Values 3 ประการ
ทั้งหมดทั้งมวลของการทำงานภายในบ้าน GET องค์กรมี Core Values 3 เรื่อง คือ
It’s not About You คือ ทุกคนต้องมองมุมกว้างและคิดถึงผู้อื่นเสมอ
Collaborate with Compassion คือ แม้จะมีความหลากหลายทั้งวัย เพศ เชื้อชาติ ต่างมุมมอง แต่ต้องทำงานร่วมกันได้และสุดท้ายแล้วต้องเห็นภาพเดียวกัน เพราะที่นี่มีหัวหน้าทีมที่อายุน้อยที่สุดเพียง 25 ปี และมีหัวหน้าทีมอาวุโสที่สุดในวัยใกล้ 50 ปี
Shoot for Greatness คือ การพัฒนาตนเองตลอดเวลา
9. “คิดได้เมื่อวาน วันนี้ เปิดบริการ ทันที”
ฟังแล้วไม่น่าเชื่อ แต่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องจริง เพราะทีมผู้บริหารของ GET บอกเองว่า องค์กรมีการกระจายงานอย่างเป็นระบบและผ่านกระบวนการคิดมาเป็นอย่างดี ประกอบกับจุดเด่นการเป็นธุรกิจแนวใหม่ที่ใช้ความเชี่ยวชาญจากทีมผู้บริหารและพนักงานในแต่ละส่วนงานร่วมกัน ยิ่งทำให้ GET สามารถพัฒนาหรือปรับปรุงบริการออกมาได้เร็ว เร็วถึงขนาดที่ว่า “บางเรื่องเพิ่งคิดเมื่อวาน แต่เราก็ออกบริการนั้นในวันนี้แล้ว”
10. สวัสดิการ แน่น!
ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้และกำลังรู้สึกอิจฉาคนในองค์กร GET ต้องบอกเลยว่า นอกจากบรรยากาศการทำงานที่ค่อนข้างอิสระในการบริหารจัดการตัวเองแล้ว ที่นี่ยังมีสวัสดิการที่น่าสนใจ เช่น การมีคูปองอาหารกลางวันให้พนักงานลงไปใช้บริการร้านค้าที่อยู่ด้านล่างอาคาร ไม่ต้องทนแดด ทนฝน ไปหาซื้อไกล และยังมี GET PAY ให้พนักงานได้ใช้จ่ายสำหรับใช้บริการภายในแอป GET อีกด้วย
ออฟฟิศทั้งสวยและทันสมัยขนาดนี้ ไม่รู้ว่า GET จะกลายเป็นองค์กรที่มนุษย์เงินเดือนอยากร่วมงานด้วย เป็นอันดับต้น ๆ เลยไหมนะ
อ่านเพิ่มเติม :