เป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ เมื่อผู้ให้บริการ Food Delivery อย่าง LINE MAN Wongnai เข้าซื้อธุรกิจ Rabbit LINE PAY (RLP) จนก่อให้เกิดคำถามถึงความจำเป็นในการเข้าซื้อธุรกิจ ซึ่งหนึ่งในไลน์ธุรกิจของ LINE ที่แตกตัวออกไป และเรียกได้ว่าเป็นดีลที่มีความซับซ้อนทางธุรกิจอยู่พอสมควร เนื่องจาก Rabbit LINE PAY และ LINE MAN Wongnai เป็นกลุ่มธุรกิจที่ LINE ประเทศไทย เป็นผู้ถือหุ้นอยู่
การเข้าซื้อ Rabbit LINE PAY จึงเป็นการลักษณะการดึงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง กลับเข้ามาอยู่ในมือของ LINE โดยสิ่งที่ได้จะเป็นเรื่องของ DATA อย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วอะไรคือเป้าหมายที่วางไว้แท้จริง ซึ่งคนที่รู้ดีที่สุดคือ LINE MAN Wongnai แต่เราจะลองมาแกะแนวคิดนี้กัน ว่ามีอะไรลึกลับซับซ้อนซ่อนอยู่ในกอไผ่
Rabbit LINE PAY เติมเต็มธุรกิจ
เราลองมาดูกันว่า ธุรกิจของ LINE MAN Wongnai มีอะไรกันบ้าง แน่นอนว่าที่ชัดเจนคือเรื่องของ Food Delivery ที่เรียกว่าเป็นธุรกิจหลัก แม้ว่าปัจจุบันจะยังอยู่ในจุดที่ขาดทุน แต่ก็มีแนวโน้มเติบโตและเป็นการขาดทุนในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบปีต่อปี จากข้อมูลของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า
– ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 157,247,263 บาท
– ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 1,114,666,254 บาท เทียบกับปีก่อนหน้าขาดทุนอยู่ที่ 608.86%
– ปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 2,386,522,457 บาท เทียบกับปีก่อนหน้าขาดทุนอยู่ที่ 114.10%
– ปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 2,730,849,262 บาท เทียบกับปีก่อนหน้าอยู่ที่ 14.42%
นอกจากนี้ LINE MAN Wongnai ยังมีการให้บริการอีก 3 ด้าน ทั้ง บริการรับส่งสิ่งของ (Messenger), บริการสั่งของสะดวกซื้อ (Convenience Goods) และบริการเรียกแท็กซี่ (Taxi)
ซึ่งบริการทั้งหลายเหล่านี้สามารถชำระผ่านการโอนในระบบธนาคารต่างๆ แม้จะช่วยให้รับรู้พฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภค แต่ก็ยังไม่สามารถรับรู้ความต้องการด้านอื่น เช่น ด้านการเงิน การเข้าซื้อ Rabbit LINE PAY จึงเป็นการต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจในด้าน Payment ให้ครบสมบูรณ์ โดยการเข้าซื้อธุรกิจ Rabbit LINE PAY ครั้งนี้เป็นการซื้อหุ้นจาก BTS และ AIS ซึ่งเป็น 2 ใน 3 ของผู้ถือหุ้นหลักของ Rabbit LINE PAY
การซื้อหุ้นครั้งนี้ทำให้ LINE MAN Wongnai กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Rabbit LINE PAY โดยคุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณชอง อิน ยัง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ LINE MAN Wongnai เข้ามาดำรงตำแหน่งเดียวกันใน Rabbit LINE PAY ด้วย นอกจากนี้ยังช่วยสร้าง ecosystem เพื่อเชื่อมบริการของ Rabbit LINE PAY เข้ากับ LINE BK, LINE MAN, LINE SHOPPING, แอป LINE รวมถึงเครือข่ายร้านค้าบนแพลตฟอร์ม Wongnai ช่วยให้สามารถทำธุรกรรมได้อย่างไร้รอยต่อ
รองรับการชำระธุรกรรมบน LINE
เมื่อพูดถึงสัดส่วนการใช้งานของ Rabbit LINE PAY ต้องยกให้การใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ที่มีสัดส่วนสูงกว่าการใช้งานผ่านระบบออฟไลน์ ซึ่งการซื้อธุรกิจ Rabbit LINE PAY ครั้งนี้ ทาง LINE MAN Wongnai คอนเฟิร์มผู้ใช้รายเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น และยังคงสามารถใช้จ่ายผ่านบริการของ Rabbit LINE PAY ได้ทุกช่องทางเช่นเดิม ทั้งการเชื่อมต่อกับระบบตั๋วรถไฟฟ้า BTS และการชำระค่าบริการ AIS
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า การใช้จ่ายบนระบบออนไลน์มีสัดส่วนที่มากกว่า ประกอบกับที่ผ่านมา LINE MAN Wongnai ใช้วิธีการชำระเงินผ่านระบบธนาคารเป็นหลัก การได้ Rabbit LINE PAY มาจะช่วยสร้างประสบการณ์ธุรกรรมทางการเงินระหว่างกันได้อย่างราบรื่น ทั้งผู้ใช้งานที่มีจำนวนมากกว่า 10 ล้านคนบนแพลตฟอร์ม LINE MAN และ Wongnai รวมถึงร้านค้าอีกกว่า 5 แสนร้านและไรเดอร์อีกมากกว่า 1 แสนคน และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยสู่เทคโนโลยีดิจิทัล
ขณะที่ LINE ประเทศไทย มองว่า เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับ LINE ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ LINE MAN แพลตฟอร์มและ LINE SHOPPING ผู้ให้บริการแชทคอมเมิร์ซ เติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกกลุ่ม รวมถึง LINE POINTS และ LINE STICKERS มายกระดับประสบการณ์ให้กับผู้ใช้ได้อีกด้วย
มองอนาคต LINE MAN Wongnai ก่อน IPO
เมื่อมองดูภาพรวมธุรกิจบวกกับการซื้อกิจการของ Rabbit LINE PAY จะมองเห็นการสร้าง ecosystem ทางธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งในแง่ของ Financial Service ที่ให้บริการกู้เงินรายย่อยผ่าน LINE BK หรือการให้บริการ Payment ผ่าน Rabbit LINE PAY รวมถึงบริการด้านอื่นๆ ทั้ง Food Delivery, TAXI, Messenger เป็นต้น และด้านช่องทางจำหน่ายสินค้าอย่าง LINE SHOPPING ยังไม่นับรวมด้านการสื่อสารผ่านแชท นั่นหมายถึงโอกาสที่ LINE จะกลายก้าวสู่การเป็น Super App อย่างแท้จริง
และสิ่งที่ LINE MAN Wongnai จะได้จากการซื้อ Rabbit LINE PAY ครั้งนี้ คือ ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคที่ครอบคลุม เช่น เมื่อใช้จ่ายผ่านบริการต่างๆ นอกจากจะช่วยให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยให้เห็นถึงความสามารถทางด้านการเงินของลูกค้า และจะเปิดโอกาสให้สามารถนำเสนอรูปแบบสินเชื่อผ่าน LINE BK ได้อย่างเหมาะสมตรงกับความต้องการและพฤติกรรม
ไม่เพียงเท่านี้ ในแง่ของร้านค้าต่างๆ ทั้งในกลุ่ม Food Delivery และ LINE SHOPPING ร้านค้าออนไลน์ LINE MAN Wongnai ยังช่วยนำเสนอสินเชื่อที่เหมาะสมกับธุรกิจผ่าน LINE BK เพื่อให้ธุรกิจเหล่านั้นสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ยังไม่นับรวมถึงกลุ่ม Rider ที่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างง่ายดาย ช่วยเสริมศักยภาพในการทำงาน ทั้งโทรศัพท์ที่สามารถรับงานได้อย่างรวดเร็ว รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
นั่นหมายถึงการดำเนินการตามแผนลดการขาดทุนและสร้างกำไร รวมถึงโอกาสในการพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ที่อาจจะยังไม่มี ทั้งที่พัฒนาขึ้นมาเอง รวมไปถึงการเป็นพันธมิตรหรือการเข้าซื้อธุรกิจใหม่ๆ ที่อาจจะเป็น Travel, Hotel, Insurance เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้เพื่อให้ภาพรวมของธุรกิจครอบคลุททุกความต้องการของผู้บริโภคก็จะเริ่ม IPO ที่มีการวางแผนไว้ว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปี 2025 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า
ข้อมูลทั้งหมดผสมกับเมื่อดูจากการประกาศที่จะเข้า IPO ในอีก 2 ปีครั้งหน้า บวกกับการเข้าซื้อกิจการ Rabbit LINE PAY เพื่อเชื่อมบริการของ Rabbit LINE PAY เข้ากับระบบนิเวศของ LINE มากขึ้น ทำให้ Payment การใช้งานบริการต่างๆ ผ่าน LINE SHOPPING และ LINE MAN มีประสบการณ์การใช้จ่ายที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการสร้างสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้งาน LINE ,LINE SHOPPING และ LINE MAN
ทำให้เราวิเคราะห์ว่า นี่คือหนึ่งในแผนการ IPO ที่จะเกิดขึ้น เพื่อสร้าง Financial ecosystem ให้ครอบคลุมทุกธุรกรรมด้านการเงิน โดยมีเป้าหมายคือการจัดเก็บข้อมูลการใช้จ่าย และต่อยอดไปสู่การนำเสนอบริการของ LINE BK ได้อย่างตรงใจทั้งในกลุ่มผู้บริโภค ร้านค้าและ Rider ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ ecosystem
ซึ่งหาก ecosystem ทำงานได้อย่างราบรื่น นอกจากจะช่วยให้ได้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกและได้รับ DATA ได้อย่างครบถ้วนแล้ว ยังช่วยให้พันธมิตรทั้งร้านค้าและ Rider สามารถเข้าถึงบริการด้านการเงิน และยังสร้างโอกาสที่จะทำให้เกิดบริการใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้แผนการสร้างกำไรสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การ IPO ในอีก 2 ปีข้างหน้า LINE MAN Wongnai จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน
