Social Media นั้นกลายเป็นสังคมใหม่ที่คนนั้นเข้าไปพูดคุยและปฏิสัมพันธ์กันอย่างมากมายในตอนนี้ และ Social Media กลายเป้นเครื่องมือสำคัญของนักการตลาดเช่นกันในการเข้าไปทำการสื่อสารทางการตลาดต่าง ๆ หรือสร้างการรับรู้ การปฏิสัมพันธ์หรือการสร้างชมชุนของตัวเองขึ้นมาผ่าน social media ต่าง ๆ มา ทำให้กระแสเรื่อง Social Media นั้นยังเป็นกระแสต่อเนื่องในทุกปี
จากปี 2015 นี่มาปริมาณการใช้งาน social media ของคนไทยนั้นสูงมาก ทั้งการใช้งาน Facebook, Line หรือ IG เองก็ตาม ทั้งนี้ในวันนี้จะเอาเทรนด์ที่เกิดขึ้นเมืองนอกที่น่าสนใจในเรื่อง Social Media ที่ควรจะจับตาว่าจะมาถึงเมืองไทยและฮิตในเมืองไทยหรือไม่ และนักการตลาดนั้นจะเตรียมตัวรับมือเทรนด์เรื่อง social media นี้อย่างไรดี
1. Social Media สำหรับคนทำงาน Work
เมื่อ Social Media นั้นฮิตมากในกลุ่ม Consumer อย่างมาก ดังที่เห็นว่าการพูดคุย แบ่งปัน หรือเข้ามาบ่นในเรื่องชีวิตต่าง ๆ อย่างมากมาย นอกจากนี้ยังมีการเกิดการซื้อขายผ่าน Social Media พวกนี้อย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เกิดเหมือนยุคเว็บคือการเกิดขึ้นหรือใช้งานอย่างแพร่หลายของ Social Media ที่ใช้ในองค์กร ถ้าให้ยักตัวอย่างก็อย่างยุคเว็บไซต์ที่มีเว็บไซต์ที่เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาหาข้อมูลกับ Internal เว็บไซต์ที่ใช้ใน Intranet ที่ไว้สื่อสารภายในองค์กร
ในต่างประเทศนั้นการสร้าง Social Media สำหรับองค์กรหรือใช้เครื่องมือ Social Media เพื่อการทำงานอย่างมากมาย เช่นการใช้ Facebook for work หรือ Slack ที่สามารถแชร์ พูดคุย หรือตามงานต่าง ๆ ผ่าน Social Media นี้ได้เช่นกันกับ Social Media ที่เราใช้งานกันปกติ ทำให้แทนที่จะเกิดการทำงานแบบที่ต้องไปตามกันไปมา ค้นหา อีเมล์ หรือรอคอยการตอบ การทำงานผ่าน Social Media ด้วยเครื่องมือพวกนี้จะช่วยทำงานให้ดีขึ้น สนุกขึ้นไปอีก
2. เปลี่ยนพนักงานกลายเป็นกระบอกเสียง
ตอนนี้ในต่างประเทศนั้นบริษัทกว่า 80% นั้นมี Social Media team ที่คอยดูแลเรื่อง Social เฉพาะเลย แต่ปัญหาคือด้วยกลุ่มคนเพียงแค่กลุ่มหนึ่งในบริษัทการจะผลักดัน Content ต่าง ๆ ให้เข้าไปถึง Consumer หรือ Customer นั้นยังเป็นปัญหาอยู่ถ้า Content คุณนั้นไม่ได้ดีจริง นอกจากนี้การที่เริ่มต้นผลักดันการ Social Media โดยทีมงานนั้นก็เป็นข้อจำกัดอีกด้วย เพราะทีมงานต้องไป Focus งานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Social อีกด้วย
ทั้งนี้ในปี 2016 นี้ การมาถึง Digital Transformation จะทำให้การพัฒนาองค์กรในเรื่อง Digital กลายเป็นเรื่องสำคัญในองค์กร และด้วยทรัพยากรองค์กรที่ไม่ยังไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ นั้นคือพนักงานที่เหลือที่ยังไม่เคยช่วยการโปรโมท Social Media ต่าง ๆ อย่างจริงจัง ต่อจากนี้การให้พนักงานทั้งบริษัทช่วยโปรโมท Content จากแบรนด์ ลองนึกภาพพลังในการแชร์ Content และส่งต่อ Content จากพนักงานขึ้นมาออกไปสู่กลุ่มคนต่าง ๆ มากขึ้นนอกจากการกลุ่ม Social Media ทีมเดิมและการใช้โฆษณาออนไลน์ผลักดัน ทั้งนี้เมืองนอกได้วัดว่าการทำเช่นนี้ทำให้ Engagement เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า
3. Social Message สำหรับคนทำงาน และการติดตามวัดผลผ่านทาง Social message
ตอนนี้คงไม่มีใครแทบใช้ Line ไม่เป็นถ้าทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมที่ต้องเกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์ และยิ่งถ้าใช้ Line ในตอนนี้นอกจากการคุยกับเพื่อน แฟน และครอบครัวตอนนี้ สิ่งที่โดนกันคือการที่มี Group Line ที่ทำงาน หรือ Group Line ที่คุยกับลูกค้า ซึ่งมีการทำงานหรือตามงานผ่านทาง Line กัน นอกจากนี้ยังมีข้อความมากมายที่ติดตามไม่ได้ผ่านทาง Social Message เหล่านี้ว่า Content ที่แบรนด์ทำนั้นมันจะกระจายไปแค่ไหน
ปี 2016 นี้การเกิดขึ้นของเครื่องมือ Message ที่ใช้เพื่อการทำงานจริง ๆ จะเกิดขึ้นมาฮิตมากมาย (ซึ่งในอดีตเคยมีแล้วอย่าง Lync ของ Microsoft แต่ต่อจากนี้ Platform Social ที่แตกบริการเหล่านี้จะมีบริการสำหรับคนทำงานด้วยเช่นกัน และนอกจากนี้ยังจะเกิดเครื่องมือที่วัดผลในโลก social messaging platform เหล่านี้ด้วยว่า ข้อความหรือ Content ที่ส่งออกไปนั้นมีใครติดตามหรืออ่านกันกี่คนแล้ว
4. Social Streaming
เมืองนอกตอนนี้ Snapchat, Periscope, Meerkat นั้นกลายเป็นที่ฮิตมากในการใช้งาน Social Streaming ผ่านมายังโลกออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งการทำ Social Streaming นี้เริ่มเห็นมาขึ้นเมื่อ Facebook ให้ Feature นี้กับคนดัง ๆ หรือดารา ในที่ใช้ Facebook ที่สามารถ Live Streaming สดผ่าน Facebook เพื่อให้คนมาปฏิสัมพันธ์ได้ หรือแม้แต่ Mark Zuckerberg เองยังตอบคำถามผ่าน Live Streaming ในตอนนี้
ด้วยประเทศไทยนั้นประมูลคลื่นที่สามารถเอามารองรับการขยายตัวของ 4G ไปแล้วทำให้ต่อจากนี้จะเริ่มมีการพัฒนา 4G เพิ่มขึ้นและยิ่งเมื่อ 4G LTE มา จะทำให้ปริมาณการใช้งานผ่าน Data นั้นเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว และทำให้การ Streaming นั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายมาก จากที่ผ่านมาเราเห็นว่า การเกิดขึ้นของ Video Content ผ่านการอัดวิดีโอนั้นเกิดขึ้นมากมาย ลองนึกถึงว่าอนาคตสามารถทำ Social Streaming ได้ง่ายขึ้น จะเกิดอะไรขึ้นในการทำการตลาดได้มากมาย
5. Social Burnout
เรื่องสุดท้ายนี้เกิดจากงานวิจัยที่เพิ่งมีมา ว่าการเลิกใช้งาน Social Media นั้นทำให้มีความสุขมากขึ้น เรื่องนี้จะกลายเป็นประเด็นสำคัญของคนทำการตลาดว่าทำยังไงที่จะสื่อสารกับคนที่จะเลิกใช้ Social Media ไป ทั้งนี้เรื่องนี้เป็นที่น่าสนใจเพราะเมื่อคนเข้าไปใช้ผูกผันกับโลก Social นั้นแล้ว ต่างเจอกับเนื่องดราม่า หรือเรื่องราวที่ทำให้เราหงุดหงิด หรือทำให้อารมณ์ไม่ดีต่าง ๆ มากมาย แถมยังทำให้ปฏิสัมพันธ์ในสังคมจริงนั้นลดลงไปอย่างมาก
การหยุดการใช้งานหรือเลิกการใช้งานของกลุ่มคนบางกลุ่มจึงเกิดขึ้น และทำให้คนกลุ่มนี้หลุดจากการติดต่อสื่อสารแบบโลกยุคใหม่ไปทันที นักการตลาดต้องคิดถึงสื่ออื่น ๆ ที่จะสามารถเข้าไปเจาะคนกลุ่มนี้ได้นอกจากการใช้ Social Media และอย่าฝากชีวิตทุกอย่างกับ Social Media เพราะถ้าเทรนด์นี้เกิดขึ้นอย่างจริงจังแล้วละก็ แปลว่าคนนั้นจะหายไปจากโลก social อย่างเรื่อย ๆ
ทั้งนี้นี่คือ 5 เรื่องด้าน Social Media ที่ควรจับตามองว่าจะเกิดขึ้นมาในประเทศไทยไหม เพราะในต่างประเทศนั้นหลาย ๆ เทรนด์นั้นเริ่มเกิดขึ้นไปแล้ว สำหรับใครที่เป็นนักการตลาดลองเอา 5 เรื่องนี้ไปพิจารณาเพื่อเตรียมการรับมือไว้ก็ไม่เสียหาย