เป็นอีก Big move สำคัญของ SCB กับการประกาศลงทุนครั้งใหญ่ใน GOJEK ผู้ให้บริการ platform on demand สตาร์อัพระดับ Decacorn (มูลค่ากิจการระดับหมื่นล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ) จากอินโดนีเซียในการระดมทุบรอบ Series F เพื่อสร้าง Eco System ด้านการเงินเต็มรูปแบบ
การลงทุนครั้งนี้ ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงเม็ดเงินการลงทุน ซึ่งทาง ดร.อารักษ์ สุธีวงษ์ ผู้จัดการใหญ่ SCB ให้เหตุผลว่า ทาง GOJEK ยังไม่ได้ปิดระดิมทุนในรอบ Series F ซึ่งหากปิดการระดมทุน จึงจะเปิดเผยได้
นอกจาก SCB จะได้ร่วมลงทุนใน GOJEK แล้ว ยังได้จับมือกับ GET ในการเป็น Strategic Partner ที่จะมาร่วมกันสร้างและพัฒนาระบบนิเวศด้านดิจิทัลไลฟ์สไตล์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศผ่านกลุ่มคนขับ (GET driver) , ร้านค้า GET Food รวมไปถึงร้านค้าที่ใช้แม่มณีในการชำระเงิน และผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน SCB Easy และ GET เพื่อให้เกิดการรับเงินและชำระเงิน ได้อย่างสะดวกรวดเร็วในรูปแบบ Cashless Society ด้วยโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.กลุ่มคนขับ (GET driver) – สินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending), การเปิดบัญชี, การเติมเงินในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ GET PAY ผ่าน SCB EASY, การนำเงินออกจาก GET PAY เพื่อเข้าบัญชีไทยพาณิชย์แบบฟรีค่าธรรมเนียม และบริการด้านประกันในรูปแบบต่างๆ อาทิ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น
2.กลุ่มร้านค้า (Merchant) – สินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending) สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการรายย่อย (SSME), การนำเงินออกจาก GET PAY เพื่อเข้าบัญชีไทยพาณิชย์แบบฟรีค่าธรรมเนียม
3.กลุ่มผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน (End Consumer) – โซลูชันด้านการชำระเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเติมเงินในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ GET PAY ผ่าน SCB EASY, การตัดบัญชีออมทรัพย์ การผูกบัตรเดบิต/บัตรเครดิต รวมถึงโปรโมชันพิเศษที่เหนือกว่าเพื่อลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์โดยเฉพาะ
เป้าหมาย คือการสร้างประสบการณ์ด้านการชำระเงินแบบไร้รอยต่อ (Seamless Payment Experience) และสำคัญกว่านั้น เป็นการร่วมมือที่จะต่อยอดและเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตร (Key Business Partnership) ของธนาคารที่หลากหลายในกลุ่มต่างๆ อาทิ รีเทล ค้าปลีก ค้าส่ง โรงแรม ร้านอาหาร โรงพยาบาล และมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ
รวมถึงพันธมิตรระดับสากล เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด (Exponential Growth) ยกระดับและขยายขอบเขตของอีโคซิสเต็มให้กว้างขึ้นและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทาง KBank ได้ประกาศลงทุนใน Grab ด้วยเม็ดเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ กว่า 1,600 ล้านบาท เป้าหมายก็เพื่อร่วมมือกันสร้าง e-Wallet ในบริการทางการเงินที่ชื่อว่า GrabPay by KBank รวมถึงขยายการให้บริการทางการเงินอื่น ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เช่น การพัฒนาให้แอป K PLUS และ Grab สามารถใช้งานร่วมกันได้
