ในสนามสตาร์ทอัพคงคุ้นเคยกับชื่อ “กระทิง – เรืองโรจน์ พูนผล” กันดีจนไม่มีอะไรต้องเล่า แต่ในบทบาท “ประธาน KBTG” หรือ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป อายุงานของเขาเพิ่งครบรอบ 1 ปีเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ภายใต้ความถนัดในการหยิบจับเทคโนโลยี เสิร์ฟผ่านบริการเพื่อตอบโจทย์ผู้คน โจทย์ของเขาในร่ม KBTG วันนี้จึงกลายเป็นหน้าที่ที่ใหญ่กว่าเดิมกับการพาองค์กรไปสู่การเป็น “Regional Technology Company” ไม่ได้หยุดอยู่แค่การให้บริการเพื่อธนาคาร
“ตอนนี้ KBTG มีพนักงานในไทย 1,500 คน ในจีน 300 คน และในเวียดนามตั้งเป้าไว้ที่ 100 คน” ประธาน KBTG อัพเดทสถานการณ์บุคลากร และเล่าถึงเป้าหมายอื่น ๆ ว่า…
ไม่หวังชิงธงแค่ “จีน” แต่มองไกลขยายระดับภูมิภาค
คุณกระทิง อธิบายว่า การดำเนินงานของ KBTG ในจีน อยู่ภายใต้บริษัท K Tech ตั้งอยู่ในเมืองเซินเจิ้น ถือเป็น FinTech รายแรกที่จัดตั้งโดยธนาคารต่างประเทศในเซินเจิ้น โดยลงทุนไปแล้ว 300 ล้านหยวน (ประมาณ 1,300 ล้านบาท) โดยกลยุทธ์การทำธุรกิจในจีนนั้นบริษัทให้ความสำคัญ 3 แนวทาง คือ การที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาบริการต่าง ๆ ด้วยตนเอง หรือมองหาพาร์ทเนอร์ด้าน FinTech ในจีน หรือหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีในจีน ส่วนในเวียดนามนั้นอยู่ระหว่างเริ่มลงทุนและสร้างทีม
“อย่างที่บอกว่าเราหวังจะสร้างโมเดลแห่งอนาคต เพื่อทำให้ KBank เป็นมากกว่าธนาคาร จากความสามารถทางเทคโนโลยีที่ KBTG เสิร์ฟให้ แต่การทำตลาดในจีนนั้นเราไม่ได้หวังจะเข้าไปเป็นเบอร์หนึ่ง เรามีความคาดหวังอื่น ๆ จากจุดแข็งระหว่างประเทศไทยและจีน ที่มีทั้งค้าขาย ท่องเที่ยวเชื่อมโยงถึงกัน แต่ตลาดที่เราเชื่อว่าจะเป็นเบอร์หนึ่งได้ คือใน AEC ส่วนในไทยเองจะลงทุนราว 5,500 ล้านบาท สำหรับสร้าง Innovation Runway พัฒนานวัตกรรมและบริการใหม่ ๆ”
เหลือเวลา 4 ปี ไต่สู่เป้าหมาย “Regional Digital Banking”
เป้าหมายใหญ่ของ KBank ในตอนนี้ คือการเป็น Regional Digital Banking ภายในปี 2024 ซึ่งคุณกระทิง ยอมรับว่า COVID-19 เป็นปัจจัยหลักที่เร่งให้กำหนดการทำงานต่าง ๆ ถูกเร่งให้เร็วขึ้นจากเดิม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานผ่านบริการในรูปแบบดิจิทัลรวมถึงบริการใหม่ ๆ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ เช่น Contactless ภายใต้ข้อดีของสถานการณ์นี้ที่ทำให้พนักงาน 1,500 คนของเรา ต้อง Work From Home ก็ยอมรับว่าช่วง 2-3 สัปดาห์แรกที่เกิด COVID-19 จึงเป็นการปรับตัวที่ทำให้เราต้องช้า แต่ก็ทำให้ได้เห็นและสามารถดึงศักยภาพของคนและองค์กรออกมาได้มากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ประเด็นนี้ทำให้ KBTG ปรับการให้ความสำคัญและเร่งเครื่องธุรกิจด้วย 4 กลยุทธ์ คือ “Innovation” นวัตกรรมและเทคโนโลยี “Regional Expansion” การขยายบริการและตลาดไปยังระดับภูมิภาค “Transformation” ปรับตัวธุรกิจธนาคารแบบเดิมสู่ความเป็นดิจิทัลและตอบโจทย์ชีวิต “People” การสรรหาบุคลากรเพื่อเติบโตในสายงาน ซึ่งเป็นเรื่องยากและทำได้ล่าช้าเนื่องจากไม่สามารถสรรหาและพัฒนาความสามารถของผู้คนได้ในระยะเวลาอันสั้น
“ส่วนเป้าหมายของ KBTG ในการเป็นผู้นำเทคโนโลยีตามที่เคยบอกไว้ เราก็ยังหวังอยู่ ตอนนี้เดินทางมาแล้ว 30% มีบางเรื่องที่เราทำได้ดีอย่างการ Transformation และบางเรื่องช้ากว่าที่คาด เช่นเรื่อง People ที่ตอนนี้ผมต้องออกแบบสายบริหารให้แยกเป็นการบริหารคน หรือบริหารแต่คอม เพื่อช่วยให้เรา Recruit บุคลากรระดับบริหารได้เร็วขึ้น”
5 ปัจจัย เคล็ดลับความสำเร็จของ “องค์กรนวัตกรรม”
สูตรสำเร็จของการทำงานในแบบ KBTG มีวัฒนธรรมองค์กร ที่เรียกว่า “TAVIA” ได้แก่…
T : Teamwork การทำงานโดยรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
A : A Class คิดถึงความเก่งในสิ่งที่ตนเองเป็น พร้อมทั้งรักษาหรือพัฒนาให้เป็นระดับ A Class อยู่เสมอ
V : Value Creation เร่งสร้างคุณค่าให้ลูกค้าและคู่ค้า
I : Innovation ค้นหานวัตกรรม
A : Agility ลงมือทำอย่างรวดเร็ว
จับตา Q3-Q4 ทยอยปล่อยของ!
ในช่วงครึ่งหลังของปีที่เหลืออยู่ คุณกระทิง เปิดเผยว่า ภายในเดือนกันยายน KBTG จะทยอยเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 4 โปรดักท์ บริการที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ FinTech 60%, AI 20%, Vertical Solution 20% ส่วนบริการในจีนก็เตรียมเปิดตัวภายในปีนี้เช่นกัน