ในยุคที่ทุกองค์กรมุ่งเติมศักยภาพทางดิจิทัล เพื่อต่อสู่กับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยี ประเด็นสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจไม่ได้อยู่ที่ “ความเร็ว” ในเอาปรับตัวหรือตั้งรับยุค Digital Disruption เท่านั้น แต่รวมถึงความสามารถในการ “บริหารความเสี่ยง” อันเกิดขึ้นจากดิจิทัลด้วย
ซึ่งมีข้อมูลน่าสนใจจาก PwC ประเทศไทย เกี่ยวกับรายงานการประเมินความเสี่ยงขององค์กร หรือ Risk in Review Study ในหัวข้อ Being a smarter risk taker through digital transformation ประจำปี 2562 ระบุว่า ในขณะที่หลายองค์กรทั่วโลกได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานตรวจสอบภายใน ความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่พวกเขายังไม่ได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนในการเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ รายงานของ PwC ได้ทำการศึกษาปัจจัยใดที่เป็นตัวสนับสนุนให้หน่วยงานด้านความเสี่ยงขององค์กรมีความพร้อมทางด้านดิจิทัล (Digitally fit) ทั้งในแง่ของความสามารถในการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยงแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และความสามารถของหน่วยงานด้านความเสี่ยงเองในการปรับตัวและปลูกฝังขั้นตอนการปฏิบัติงานใหม่ ที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลขององค์กร โดยรายงานฉบับดังกล่าวได้สำรวจความคิดเห็นของเหล่า CEO รวมถึงผู้บริหารระดับอาวุโส คณะกรรมการบริษัท ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารความเสี่ยง การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบภายในมากกว่า 2,000 คน รวมถึงสัมภาษณ์ผู้บริหารและคณะกรรมการอีกจำนวนมากเพื่อหาว่า หน่วยงานด้านความเสี่ยงมีความแตกต่างกันอย่างไรเมื่อพูดถึงการเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลขององค์กร
สำหรับมาตรการเตรียมความพร้อมทำให้องค์กรสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้ดีขึ้น ได้แก่…
- ผนวกแผนงานทางด้านดิจิทัลให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานหลักขององค์กรและมีการปฏิบัติตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
- หมั่นเพิ่มทักษะ และความสามารถใหม่ ๆ ให้กับบุคลากรเพื่อก้าวไปพร้อมกับองค์กร
- ศึกษาถึงการนำเทคโนโลยีเกิดใหม่มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับองค์กร
- ทำให้องค์กรมีความพร้อมในการรับมือกับความเสี่ยงอย่างทันท่วงที
- สร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในโครงการด้านดิจิทัลที่สำคัญขององค์กรอย่างสม่ำเสมอ
- ประสานการทำงานให้สอดคล้องเพื่อทำให้ทุกฝ่ายเห็นถึงภาพรวมของความเสี่ยงขององค์กรในด้านต่าง ๆ
เรื่องนี้ คุณจิม วูดส์ หัวหน้าสายงานบริหารความเสี่ยง ประจำ PwC Global แสดงความเห็นว่า ผู้ประกอบวิชาชีพด้านความเสี่ยงถือว่ากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ เพราะเทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจแบบเดิมจากการวิเคราะห์ข้อมูลไปสู่การนำระบบอัตโนมัติมาใช้ ถือเป็นความเสี่ยงด้วยเช่นกัน แต่ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลขององค์กรจะช่วยเพิ่มศักยภาพ และช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ได้ดีขึ้น แต่จากข้อมูลรายงานพบว่ายังมีหน่วยงานด้านความเสี่ยงอีกมากที่ยังไม่ได้ตระหนักถึงจุดนี้มากนัก
– มีเพียง 22% ของประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ตอบแบบสอบถามในการสำรวจ CEO Survey ของ PwC ที่บอกว่า มีข้อมูลความเสี่ยงที่ครอบคลุมและเพียงพอต่อการตัดสินใจในระยะยาว ซึ่งถือเป็นตัวเลขเดียวกับรายงานเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ชี้ให้เห็นว่า หน่วยงานด้านบริหารความเสี่ยงยังคงไม่ได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่มากมายมหาศาลอย่างเต็มศักยภาพ
– แม้จะดูเหมือนมีสิ่งที่ต้องทำหลายด้านเพื่อเพิ่มความสามารถด้านดิจิทัล แต่แทนที่จะทุ่มเงินลงทุนไปในทีเดียว องค์กรควรเริ่มจากพัฒนาแผนงานเสียก่อน จากนั้นค่อยมุ่งเน้นไปที่ขั้นตอนแต่ละส่วนที่ต้องทำเพื่อพัฒนาขีดความสามารถขององค์กร
นอกจากนี้ รายงานยังได้ระบุองค์ประกอบที่สำคัญเกี่ยวกับ “ความสามารถทางด้านดิจิทัล” ขององค์กรซึ่งประกอบด้วย
- มีความพร้อมทั้งทางด้านทักษะและความสามารถในการให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับความเสี่ยง และให้ความมั่นใจเกี่ยวกับโครงการทางด้านดิจิทัลใหม่ ๆ ขององค์กรแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- ปรับเปลี่ยนขั้นตอน กระบวนการ รวมทั้ง เครื่องมือ และบริการของหน่วยงานด้านความเสี่ยง โดยหันมาใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนและทำให้เกิดการใช้งานแบบดิจิทัล เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยง และสามารถตอบโต้หรือรับมือกับความเสี่ยงในระดับที่องค์กรสามารถเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลได้