ถึงเราจะคุ้นหูคุ้นตากับคำว่า Digital Transformation กันมาหลายปี แต่คำถามที่ว่า “ทำอย่างไร” , “จำเป็นหรือไม่” หรือแม้แต่ความกังวลต่อ “งบประมาณ” และ “ความคุ้มค่า” ก็ยังเป็นเรื่องคาใจของหลายต่อหลายองค์กร แต่ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ COVID-19 กลับทำให้เราได้เห็นองค์กรและแบรนด์ทยอยเข้าสู่สนาม Digital Transformation ด้วยความจำเป็น
ประเด็นนี้สตาร์ทอัพที่ให้บริการโซลูชัน HR อย่าง “AMPOS” ก็เห็นแนวโน้มดังกล่าว โดย คุณบัญชา ธรรมารุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมพอส โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AMPOS อธิบายว่า ในภาวะที่ทุกคนต้องเก็บตัวอยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยง ไม่สามารถเดินทางไปทำงาน ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเพียงอย่างเดียว เพราะส่วน “หลังบ้าน” อย่างภายในองค์กรก็ได้รับผลกระทบโดยตรง ตั้งแต่การสื่อสาร แจ้งข่าว การประสานงานระหว่างพนักงานและส่วนงาน กลายเป็นปัญหาที่องค์กรต้องเร่งปรับเปลี่ยนและมองหาเทคโนโลยีเพื่อเข้ามาช่วยแก้ไข ซึ่งยังไม่รวมกับความต้องการ Transform ของภาคธุรกิจ
“ยกตัวอย่างแค่การประกาศ แจ้งข่าวเร่งด่วนภายในองค์กร เรื่องนี้กลายเป็นโจทย์ยากขององค์กรขนาดใหญ่ว่าจะทำอย่างไรให้สารถูกส่งถึงพนักงานได้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ และมีเครื่องมือใดที่จะช่วยองค์กรในการจัดเก็บดาต้าเพื่อนำกลับมาวัดผลการสื่อสาร ยิ่งในช่วงที่เกิด COVID-19 ยิ่งทำให้องค์กรเรียนรู้ว่าเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญเพียงใด”
6 ปัจจัยที่องค์กรต้องพิจารณาในยุค New Normal
คำถามที่คนส่วนใหญ่สงสัยเกี่ยวกับ New Normal คงหนีไม่พ้นประเด็นที่ว่า นอกจากการปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภค องค์กรจำเป็นต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างไร ซึ่ง คุณบัญชา แสดงความเห็นว่า ผลกระทบจากภาวะ New Normal ที่องค์กรควรให้ความใส่ใจ คือ…
- Business Strategy & Business Model กลยุทธ์และโครงสร้างธุรกิจที่ต้องปรับเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค
- Communication & Collaboration การสื่อสารและความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งกับบุคลากร ธุรกิจ และลูกค้า
- Innovation & Digital Transformation การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น
- Team Capabilities & Productivity การพัฒนาความสามารถและประสิทธิภาพของทีม
- Team Physical & Mental Health ความแข็งแรงพร้อมทั้งกายและใจ
- Organization Culture Resilience & Agile วัฒนธรรมองค์กรและความคล่องตัวที่ยืดหยุ่น
อย่างไรก็ตาม การสื่อสารภายในองค์กรไม่ได้เข้าสู่ Digital Transformation เพียงเพราะมีโรคระบาด แต่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่องค์กรต้องทำเพราะโลกเปลี่ยนเร็ว สามารถวัดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเรื่องของ Scale ได้ดี หรือแม้แต่การกระตุ้นให้บุคลากรมีกิจกรรมต่อเนื่องหลังเสร็จสิ้นการอบรม ดังนั้นโซลูชัน HR ของเราจึงไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องเช็คอินเช็คเอาท์ แจ้งข่าว หรือมอบหมายงานอย่างที่เข้าใจ แต่มีรายละเอียดและสามารถออกแบบ Journey ให้ตรงกับความต้องการขององค์กร พร้อมกับใช้ประโยชน์ในการคาดการณ์ สามารถวางแผนโลจิสติกส์ เพื่อจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ธุรกิจประเภทไหน ควรมีโซลูชัน HR
คุณบัญชา อธิบายว่า ในส่วนของ AMPOS ขณะนี้มีลูกค้าอยู่หลากหลายอุตสาหกรรม เช่น โรงพยาบาล, ธนาคาร, โอเปอเรเตอร์, โรงงานอุตสาหกรรม, พลังงาน, อสังหาริมทรัพย์, ค้าปลีก และหน่วยงานภาครัฐ
ส่วนธุรกิจที่เหมาะกับโซลูชัน HR ได้แก่ องค์กรขนาดใหญ่ที่มีสาขา มีพนักงานจำนวนมาก มีระบบการทำงาน 24 ชั่วโมง เช่น โรงพยาบาล สนามบิน เพื่อสื่อสาร แจ้งข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ และต้องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างทั่วถึงแก่บุคลากร เนื่องจากโซลูชันของ AMPOS สามารถออกแบบเพื่อการแจ้งข่าวสารอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานได้อัตโนมัติทั้งตรวจสอบการเข้าถึง ประเมินผล และยังมีคุณสมบัติอื่น เช่น ก
ปัจจุบัน ธุรกิจที่มีการใช้งานโซลูชัน HR อย่างแพร่หลาย ได้แก่ โรงพยาบาล, โลจิสติกส์, โรงงานอุตสาหกรรมกลุ่มอาหาร, พลังงาน เป็นต้น
“AMPOS” มั่นใจโตต่อเนื่อง ช่วยองค์กรตอบโจทย์
คุณบัญชา เปิดเผยแผนธุรกิจของ AMPOS ว่า จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้ AMPOS เน้นตอบโจทย์ลูกค้าด้วยโซลูชันตามความต้องการ โดยเฉพาะด้านพัฒนาบุคลากร ผ่านเทคโนโลยีและแอปแพลตฟอร์ม เน้นการ Reskill Upskill บุคลากร และช่วยให้องค์กรมีกระบวนการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีของ AMPOS รวมถึงบริการให้คำปรึกษาจากคู่ค้า โดยในช่วง COVID-19 ยิ่งทำให้ AMPOS มีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากเดิมที่เติบโต 2-3 เท่าตัวต่อปี แต่คาดว่าในปีนี้บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 1.5 เท่าตัว จากลูกค้าในไทย จีน ไต้หวัน และเวียดนาม