แม้จะเพิ่งเปิดให้บริการได้เพียง 1 ปีกว่า ๆ แต่ถือว่าระดับความสำเร็จของ “TikTok” เป็นไปได้สวย! ยิ่งในประเทศไทย…ไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ว่า โซเชียลมีเดียแนววิดีโอเช่นนี้จะได้รับความนิยมมากเพียงใด ผนวกกับจุดเด่นของแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสผู้ใช้กลายเป็นครีเอเตอร์ได้ จากวิดีโอความยาวแค่ 15 วินาที และพฤติกรรมการเสพโซเชียลที่ไม่ด้อยกว่าชาติอื่น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะทำให้ไทยติด “Top 3 ประเทศที่ผู้ใช้งานเติบโตสูง” เพราะสามารถกวาดคะแนนนิยมจาก Gen Z ซึ่งเป็นทาร์เก็ตหลักไปได้มหาศาล
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่ TikTok สามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้มากมาย เพราะจากสถิติ (ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019) มีการอ้างอิงถึงยอดดาวน์โหลดทั่วโลกไว้ว่า สูงถึง “1,000 ล้านครั้ง”
เมื่อเข้าสูตร “มีฐานผู้ใช้งานจำนวนมาก” ประกอบกับ “วิดีโอสามารถใส่โฆษณาได้” นั่นกลายเป็นประตูบานแรกที่ทำให้ TikTok เริ่มกลยุทธ์ในการดึงดูด “แบรนด์” เข้าสู่แพลตฟอร์ม และแน่นอนว่าไม่ได้มีประตูแค่บานเดียว! เพราะตอนนี้ TikTok เริ่มกลยุทธ์บทใหม่ที่เรียกว่า “Hashtag Challenge Plus” แล้ว
คุณสมบัติของ Hashtag Challenge Plus ก็คือ ช่วยให้ผู้ใช้ TikTok สามารถกดซื้อสินค้าจากแบรนด์ได้โดยตรง แถมไม่ต้องออกจากแอปไปสู่ช่องทางช้อปปิ้งอื่น ๆ กลยุทธ์เช่นนี้ไม่ได้ตอบโจทย์แค่นักช้อปออนไลน์อย่างเดียว แต่ยังเพิ่มโอกาสให้แบรนด์ได้ผ่านสายตาผู้บริโภคมากขึ้น และขณะเดียวกันยังสามารถตรึงผู้ใช้งานให้ใช้เวลาอยู่กับแอปมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับลูกเล่นใหม่นี้ มี Kroger ร้านค้าปลีกชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ได้เริ่มต้นทดสอบฟีเจอร์ดังกล่าวไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อน โดยใช้แฮชแท็ก #TransformUrDorm ซึ่งแม้ว่า TikTok จะไม่ได้เปิดเผยความสำเร็จด้านยอดขาย แต่มีการอ้างถึงจำนวนผู้เข้าชมวิดีโอต่าง ๆ ที่ติดแฮชแท็กดังกล่าว ว่าสูงถึง 447 ล้านครั้งเลยทีเดียว
ที่มา : engadget