ประกาศความร่วมมือมาซักระยะแล้ว สำหรับ SCB และ 7-Eleven ภายใต้เป้าหมายในการเข้าใกล้ลูกค้าแบงก์ได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางไปธนาคารสาขา หรือตามหาตู้ ATM ตู้ CDM ของแบงก์ แต่สามารถใช้ QR Code ผ่านแบงก์กิ้งเอเย่นต์อย่าง 7-Eleven ซึ่งมีสาขามากกว่า 11,000 แห่งทั่วประเทศ และเปิดให้บริการ 24 ชม.
ทำอะไรผ่าน 7-Eleven ได้บ้าง ? ในฐานะ “แบงก์กิ้งเอเย่นต์” ของ SCB
สำหรับบริการแบงก์กิ้งเอเย่นต์ครั้งนี้ใช้ชื่อว่า “SCB Service” ที่ให้บริการผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสของ 7-Eleven บัญชีที่สามารถใช้บริการได้ คือ บัญชีออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวันของ SCB ได้ทั้งบริการ “ฝากเงินสด” และบริการ “ถอนเงินสด” โดยบริการฝากเงินสดสามารถฝากได้ตั้งแต่ 1-30,000 บาทต่อรายการ สูงสุด 100,000 บาทต่อวันต่อบัญชี ส่วนบริการถอนเงินสด สามารถทำได้ตั้งแต่ 100-5,000 บาทต่อรายการ สูงสุด 20,000 บาทต่อวันต่อราย ซึ่งทุกบริการจะเสียค่าธรรมเนียม 15 บาทต่อรายการ โดยจะมีการลดค่าธรรมเนียมให้ในช่วงแรก (ถึงช่วงสิ้นเดือน ก.ค.) เหลือ 5 บาท
SCB กับ 7-Eleven แตกต่างจากแบงก์กิ้งเอเย่นต์รายอื่น ธนาคารอื่นอย่างไร ?
ในเรื่องความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด คือ การให้บริการผ่านรูปแบบดิจิทัลด้วย QR Code ผ่านแอป SCB EASY และบริการที่สามารถใช้ได้ทั้งฝากและถอนเงิน ขณะที่แบงก์กิ้งเอเย่นต์รายอื่นจะใช้งานได้แค่บริการฝากเงินสดเท่านั้น และยังไม่มีรายใดที่ให้บริการผ่านรูปแบบดิจิทัลเช่นนี้
ส่วนประเด็นความปลอดภัยในการใช้บริการ ทาง SCB ยืนยันว่าปลอดภัยตั้งแต่การเข้าใช้ระบบ SCB EASY ที่ต้องใส่รหัสเพื่อเข้าใข้งานอยู่แล้ว และการใช้งานผ่านแบงก์กิ้งเอเย่นต์กับ 7-Eleven ก็มีการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนอีกขั้นหนึ่งด้วย
SCB คาดหวังอะไรจากความร่วมมือครั้งนี้ ?
สิ่งที่ SCB คาดหวังจากบริการฝาก – ถอนเงินสด แบบดิจิทัล ร่วมกับ 7-Eleven ในครั้งนี้ คือ ยอดการทำธุรกรรมราว 100,000 รายการต่อเดือน และการมีช่องทางใหม่ ๆ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงธนาคารได้ตลอด 24 ชั่วโมง สะดวกไม่ต้องเดินทางไกลผ่านสาขา 7-Eleven ที่มีอยู่นับหมื่นแห่งทั่วประเทศและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการเป็นช่องทางอำนวยความสะดวกให้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ทำให้ไม่ต้องพกเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมาก ๆ ไม่ว่าจะฝาก หรือถอนเงินสด ก็ทำได้ทันที รวมถึงการต่อยอดบริการทางการเงินอื่น ๆ ร่วมกับ 7-Eleven ในอนาคต เช่น การโอนเงินแบบไม่มีบัญชีปลายทาง, การโอนเงินต่างประเทศ, การเปิดบัญชีบริการสินเชื่อ หรือแม้แต่การขายประกันภัยต่าง ๆ ก็สามารถต่อยอดได้ในอนาคต ซึ่งหลายบริการอาจเห็นความคืบหน้าได้ภายในช่วงสิ้นปีนี้ ภายใต้เป้าหมายในการมุ่งสู่ Digital Financial Partnership
โดย คุณอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เล่าเพิ่มเติมว่า SCB ให้ความสำคัญและพัฒนาดิจิทัลเทคโนโลยีมาโดยตลอด ทำให้ธนาคารกลายเป็นแพลทฟอร์ม ด้วยการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งและสร้างดิจิทัลอีโคซิสเต็มส์ในหลากหลายมิติ เพื่อกลายเป็น Key Player หลักในอุตสาหกรรม ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มบริษัทในเครือซีพี ออลล์ ไม่ได้เป็นเพียงพันธมิตรทางธุรกิจทั่วไปแต่เป็น Key Partnership ด้านรีเทลที่สำคัญของ SCB ด้วย ทำให้เรานำจุดแข็งของทั้ง 2 องค์กร เข้ามาผสานกันเพื่อตอบโจทย์บริการทางการเงินแบบ Seamless Experience พร้อมทั้งพัฒนาไปสู่สร้างคุณค่าอื่น ๆ แก่ลูกค้า ไม่ใช่แค่ออนไลน์แต่รวมถึงออฟไลน์ด้วย
คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำความพร้อมในการมอบสินค้าและบริการที่สามารถอำนวยความสะดวกได้ 24 ชั่วโมงแก่ชุมชน ทั้งซีพี ออลล์ และเคาน์เตอร์เซอร์วิสซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของบริษัท
