ถ้ามีคนบอกว่าการใช้ชีวิตของคนยุค 2020 กำลังเข้าสู่พฤติกรรม “New Lifestyle” คุณคิดอย่างไร? แน่นอนว่าพฤติกรรมของผู้คนในยุคนี้กลายเป็น “พฤติกรรมใหม่” ไปแล้วจริงๆ แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่มาไวไปไวเหมือนโลกแฟชั่น เพราะกลายเป็นเรื่องใหม่ที่ทุกคนเปิดรับและคุ้นชิน จนซึมซับและกลายเป็นพฤติกรรมปกติในที่สุด
พฤติกรรมใหม่ของคนไทยที่เกิดขึ้นนี้ ยังนำไปสู่ พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่นอกจากจะพึ่งพาเทคโนโลยีและดิจิทัลมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เกิดพฤติกรรมการทำงานอย่างมีสไตล์ และอยู่บ้านอย่างมีสไตล์ (In Home In Style) มากขึ้น พฤติกรรมเหล่านี้ เกิดขึ้นกับคนอินเทรนด์อย่างคุณแล้วหรือยัง?
1. Remote Working คนขยันทำงานได้จากทุกที่
ยุคนี้การทำงานไม่จำเป็นต้องอยู่แค่ในสำนักงานอีกแล้ว เพราะเราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์และข้อมูลต่าง ๆ ได้จากทุกสถานที่ ไม่ใช่แค่งานเอกสารเท่านั้น ขอแค่อุปกรณ์พร้อม สัญญาณอินเทอร์เน็ตดี แม้จะไม่ได้นั่งโต๊ะประจำตำแหน่ง…การทำงานก็ลื่นไหลเสมอ! เรื่องนี้ถือเป็น New Lifestyle ที่ชัดเจนมาก กระทั่งบริษัทผู้พัฒนาและเจ้าของเทคโนโลยีจำนวนมาก พากันเสิร์ฟช่องทางอำนวยความสะดวกในการทำงาน จนพวกเรามีตัวเลือกอย่างมากมายตั้งแต่การประชุมออนไลน์ การส่งและเข้าถึงข้อมูลได้พร้อม ๆ กันในเวลาเดียว หรือแม้แต่การเข้า – ออกงานผ่านระบบออนไลน์ไม่ต้องสแกนนิ้ว ตอกบัตร อยู่ที่ไหนก็รับผิดชอบงานได้ตามปกติ เรียกว่าพลิกโฉมการทำงานนอกออฟฟิศอย่างแท้จริง
2. ท่องเที่ยว เรียน-สอน ผ่าน Virtual Reality
เมื่อการเรียนและการสอนถูกยกระดับขึ้นสู่ออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่เพียงความรู้หรือทักษะเสริมจากห้องเรียนอีกต่อไป แต่กลายเป็นช่องทางหลักให้ทั้งนักเรียนและคุณครูใช้อินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต เพื่อเรียนรู้ได้ไม่แตกต่างจากกิจกรรมการเรียนการสอนที่เกิดขึ้นภายในห้องเรียน การท่องเที่ยวไม่ได้ถูกจำกัดว่าต้องไปให้ถึงที่ แต่หมายถึงการที่เราสามารถเดินทางไปได้ทั่วโลก! หรือ Virtual Reality Tours เที่ยวผ่านออนไลน์ เพราะยุคนี้แค่คลิกเดียวก็เพลินได้ทั้งวัน แถมไปได้ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่สำคัญต่าง ๆ แถมไม่มีวัน เวลา ปิดเยี่ยมชมซะด้วย
3. สุขภาพดี ไม่ต้องออกจากบ้านด้วย PT online และ Ring Fit
เราไม่ได้พูดถึงวิดีโอหรือคอร์สสอนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี แต่ยุค 2020 กับเทรนด์ที่สร้างพฤติกรรมใหม่นี้ ยังมีทั้งเรื่องของ…ธุรกิจเทรนเนอร์ที่ดูแลและแนะนำกันสุดสะดวกผ่านออนไลน์ หรือแม้แต่การสร้างคอมมูนิตี้คนรักสุขภาพให้มารวมตัวแล้วออกกำลังกายพร้อมๆ กัน ให้ความรู้สึกคล้ายกับตอนไปออกกำลังที่สวนสาธารณะ หรือ GYM ที่เคยนัดก๊วนเพื่อนไปพร้อมหน้าพร้อมตา นี่ยังไม่รวมถึงเทรนด์ฮิตอย่างการใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆ จากการเล่นเกม เช่น Ring Fit (Nintendo Switch) เกมที่ออกแบบมาเพื่อสู้กับเหล่าวายร้าย ผ่านการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนสุขภาพและการออกกำลังอีกด้วย
4. “Nescafe Cold Brew Experience” กาแฟสกัดเย็น เทรนด์ใหม่ พฤติกรรมใหม่ การยกประสบการณ์คาเฟ่มาไว้ที่บ้าน
กาแฟสกัดเย็น หรือ Cold Brew กำลังกลายเป็น “เทรนด์พฤติกรรมใหม่อย่างมีสไตล์” เพราะกาแฟ Cold Brew เป็นกาแฟที่ใช้กรรมวิธีพิเศษโดยการสกัดด้วยน้ำเย็น ให้รสชาติที่แตกต่างจากกาแฟชงร้านทั่วไปที่เราคุ้นชิน กาแฟสกัดเย็นจะมีรสที่นุ่มลื่น บอดี้คลีน ดื่มง่าย บรรจุอยู่ในขวดพร้อมดื่มโดยไม่ต้องออกไปตามหารสชาติกาแฟดีๆ เช่นนี้จากคาเฟ่ หรือร้านกาแฟดัง ๆ ที่ไหน ง่ายต่อการพกพา หรือเสิร์ฟเองได้ที่บ้าน
Nescafe แบรนด์เดียวที่มองเกมขาด เปลี่ยนภาพกาแฟสกัดเย็น สู่ “Nescafe Cold Brew” สร้างประสบการณ์ใหม่ได้ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ผ่าน Nescafe Cold Brew 2 รสชาติ ทั้ง Nescafe Cold Brew Craft Latte (เนสกาแฟโคลด์บริว คราฟท์ลาเต้) ที่ใช้นมวัวแท้นําเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ เป็นส่วนผสม ทำให้ได้รสชาติหวานเบา ๆ แต่หอมอร่อย และ Nescafe Cold Brew Pure Black (เนสกาแฟโคลด์บริว เพียวแบล็ค) ที่มาแบบเพียว ๆ ไม่ผสมนม ก็ยังให้อรรถรสที่นุ่มลื่น ดื่มง่ายและหวานเบา ๆ กับพลังงานเพียง 15 กิโลแคลอรี่ต่อขวด ตรงใจทั้งคนรักกาแฟและคนรักสุขภาพ
ไม่น่าเชื่อว่า Nescafe Cold Brew ในรูปแบบขวดพร้อมดื่มจะให้รสชาติกาแฟสกัดเย็นได้อย่างเต็มที่ ส่วนหนึ่งมาจากความแตกต่างของกรรมวิธีสกัด ซึ่งกาแฟทั่วไปจะสกัดผ่านน้ำร้อนหรือไอน้ำร้อน แต่ Nescafe Cold Brew ใช้การสกัดโดยไม่ผ่านอุณหภูมิความร้อน และใช้เวลานานในการสกัดผ่านน้ำเย็นหลายชั่วโมง ทําให้ต้องใช้ปริมาณกาแฟในการสกัดมากกว่ากาแฟสกัดร้อนทั่วไปถึง 4-5 เท่า ความเย็นจะสามารถสกัดและเก็บรักษาความกลมกล่อมของรสชาติเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% ได้เต็มที่ เป็นที่มาของความหอม นุ่มลื่น มีบอดี้ที่คลีนไม่ดึงรสเปรี้ยวและความขมออกมา ทำให้ดื่มง่ายสบายท้องเพราะกรดจะต่ำกว่าด้วย เรียกว่าสร้าง Cold Brew Experience ในรูปแบบใหม่ของจริง
เพราะ “การดื่มกาแฟดีๆ = เสพศิลปะ”
นอกจากความพิเศษครั้งแรกที่ Nescafe ทำตลาดกาแฟสกัดเย็นในรูปแบบพร้อมดื่ม ยังมีการ Collaborate กับศิลปิน street art ชาวไทย ระดับโลก “Alex Face” โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป Nescafe Cold Brew จะออกแพ็กเกจจิ้งใหม่ “Summer Limited Edition” ซึ่งมีภาพคาแรคเตอร์ “น้อง Mardi” อยู่บนขวดของกาแฟทั้ง 2 รสชาติ (เฉพาะการจําหน่ายผ่าน 7-Eleven เท่านั้น) เพื่อเพิ่มอรรถรสให้การดื่มกาแฟ กลมกล่อมไปพร้อมกับการชื่นชมศิลปะ ที่มีเอกลักษณ์ จากไอเดียและลายเส้นของศิลปินชื่อดังชาวไทย ที่สามารถเก็บสะสมไว้เป็นคอลเลกชันเก๋ๆไว้ตกแต่งบ้าน มุมทำงาน หรือมุมโปรดก็ยังได้ เรียกว่าเพิ่มความสุนทรีย์ให้กับกาแฟรสชาติโปรดมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ดูเข้มขรึมแบบแพ็กเกจจิ้งกาแฟในอดีตอีกด้วย
ย้ำจุดเด่น “ซื้อง่าย” ขยี้ความเป็น New Style
เรื่องนี้ก็ถือเป็นอีกจุดเด่นที่ Nescafe Cold Brew หยิบมาทำตลาด กับความสะดวกในการซื้อหาติดบ้าน ติดสำนักงานเอาไว้ เพราะนอกจากกาแฟจะเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนทำงานแล้ว การเลือกพัฒนาโปรดักส์ในลักษณะนี้มาลงตลาดและขายผ่านสะดวกซื้อ ก็คล้ายกับรูปแบบการขายเครื่องดื่มสำเร็จรูปสไตล์ร้านสะดวกซื้อในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นการเอาใจผู้บริโภคให้มีสินค้ารสชาติพรีเมียมที่เข้าถึงได้ง่าย อยากดื่มเมื่อไหร่ก็มีขาย หาซื้อง่าย พกพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา และยังรสชาติกลมกล่อม กลายเป็นประสบการณ์การดื่มกาแฟที่แปลกใหม่ไปจากเดิม
ปัจจุบันมีเพียงแบรนด์เดียว “Nescafe” ที่รับบทผู้บุกเบิกรายแรกของไทย กับ “Nescafe Cold Brew” โปรดักส์กาแฟ Cold Brew ในขวดพร้อมดื่ม และได้สร้างพฤติกรรมใหม่ให้เราได้เห็นในปี 2020
5. งานบ้านหนักๆ ผลักไปบนโลกดิจิทัล
เราเกิดความคุ้นชินกับการใช้โทรศัพท์มือถือ อำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ทั้งการซื้อสินค้า ของใช้ในบ้าน อาหาร หรือข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น และยังอำนวยความสะดวกด้วยการใช้บริการทำความสะอาด ซักรีด และแม้แต่ล้างรถ เรียกได้ว่าไม่มีกำแพงกั้นระหว่างการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค และจากร้านค้า กับการใช้บริการผ่านออนไลน์อีกต่อไป
6. Food Delivery อิ่มท้องทุกมื้อ
ขอจบด้วย New Style ตัวจริงเสียงจริง! ไม่ใช่แค่การปรับตัวของผู้บริโภคที่หันมาสั่งอาหารทางออนไลน์มากขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงเทรนด์ผู้ประกอบการที่หันมาค้าขาย เสิร์ฟสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กันทั้งสิ้น แถมเทรนด์นี้เหมาะกับเมืองไทยเป็นที่สุด ทั้งประหยัดเวลา ทั้งลดมลพิษจากการขับรถ การเดินทาง ไม่ต้องเสียเหงื่อเผชิญกับสภาพอากาศสุดอบอ้าว แต่ก็ยังสามารถอิ่มได้กับทุกเมนูที่ชื่นชอบ
พฤติกรรมใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในปี 2020 นี้ ที่ทุกคนกำลังเปิดรับเทคโนโลยีเข้าสู่ชีวิตประจำวัน สร้างความสะดวกสบาย และสไตล์ของการใช้ชีวิต พฤติกรรมนี้จะทำให้คนไทยปรับวิถีชีวิตสู่ไลฟสไตล์ในรูปแบบใหม่ New Style หรือ พฤติกรรมใหม่อย่างมีสไตล์ ที่จะกลายเป็นพฤติกรรมปกติในที่สุด
