นาทีนี้คงไม่มีเพจไหนร้อนแรงไปกว่าเพจ “จบข่าว” เพจมาแรงที่มีเนื้อหาสรุปข่าวจากบรรดาเว็บข่าวที่ชอบพาดหัวในลักษณะ Clickbait โดยทำยอด “แสนไลค์” ได้ในวันเดียว นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าสนใจเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ของไทยอย่างยิ่ง แต่คงไม่ต้องพูดถึงกันมาก เพราะหลายๆ ท่านที่ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในแวดวงออนไลน์คงทราบกันดีแล้วว่า เพจดังกล่าวตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร
แต่ที่เราจะนำเสนอก็คือ ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นของโลกออนไลน์ที่มีต่อเพจ “จบข่าว” ผ่านแฮชแท็ก #จบข่าว ซึ่งร้อนแรงมากขนาดที่ “Geo # Trend” ยังบันทึกว่า เป็นแฮชแท็กที่ร้อนแรงอย่างมากในประเทศไทย
แน่นอนว่าเพจใหม่นี้ ได้รับความชื่นชมยินดีจากเน็ตไทยจำนวนมาก เพราะนอกจากช่วยทำให้ไม่เสียเวลาไปกับการคลิกอ่านข่าวแบบ Clickbait แล้ว ยังจัดว่าเป็นอีกเพจที่สร้างความบันเทิงให้กับชาวเน็ตได้มากจริงๆ
แต่ในอีกทางหนึ่ง ก็มีบางเสียงเล็กๆ ที่อาจจะไม่เห็นด้วยในบางประการ ว่าคุณจะเชือเนื้อหาทั้งหมดจากการสรุปเพียงประโยคเดียว หรือบรรทัดเดียวได้อย่างไร ถ้าไม่อ่านเอง ซึ่งก็น่าคิด และบางคอมเม้นต์ก็ชี้ว่าบางอย่างก็เข้าข่ายสปอยเนื้อหาจนเกินไป
ฟังหูไว้หู โบราณว่า
นอกจากจะสรุปข่าวที่พาดหัว Clickbait แล้ยังแวะเวียนมาที่สรุปกระทู้พันทิปด้วย
นอกจากนี้ ยังอาจรุกรานไปยังเพจอื่นด้วย
“กุจะฮาก็ตรงคอมเม้นต์ฯ” กลัวโดนแย่งงาน
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเพจนี้โด่งดังแบบข้ามคืน (อันที่จริงยังไม่ถึง 1 คืนด้วยซ้ำ) ก็เป็นธรรมดา ที่จะมีหลายเพจเกาะกระแสขอเล่นด้วย
#จบข่าว (กันใหญ่)
ด้วยความที่ hashtag ได้รับความนิยมมาก เพจอื่นซึ่งแทบจะไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องก็มาขอเกาะกระแสด้วย
ถือเป็นอีกสีสันในอีกแง่มุมหนึ่งของโลกออนไลน์ไทย ที่เกิดขึ้นหลังจากเพจ “จบข่าว” โด่งดังขึ้นมา ก็ทำให้ชาวเน็ตไทยได้คึกครื้นพอสมควรหลังกระแส Gay Mariage เพิ่งจะซาไป