ปัจจุบันยังไม่มีการประกาศเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่อย่างเป็นทางการของ Apple แต่ไม่มีกี่วันมานี้สำนักข่าวและกูรูไอทีในต่างประเทศ ก็ออกมาฟันธงกันแล้วว่า iPhone 11 จะมีการเปิดตัวภายในวันที่ 10 เดือนกันยายนอย่างแน่นอน ถึงจะดูน่าตื่นเต้นไม่น้อยสำหรับแฟนๆ แต่ก็คนจำนวนหนึ่งกลับไม่ได้ว้าวกับวันเปิดตัวเสียเท่าไหร่ เพราะตามธรรมการเปิดตัวเรือธงของค่ายต่างๆ มักจะมีข้อมูลทั้งสเปคเครื่อง ภาพโมเดล ถูกแชร์บนโลกออนไลน์อยู่เรื่อยๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเรื่องจริง และนี่คือคำพยากรณ์ที่ผ่านมา ที่อาจได้เห็นบน iPhone 11 เร็วๆ นี้
จะไม่มีรุ่น S ในซีรีส์ iPhone อีกต่อไป
ผลิตภัณฑ์รุ่น Pro ของ Apple ถือเป็นตราสัญลักษณ์บ่งบอกความพรีเมี่ยมระดับท็อปของซีรีส์ อย่าง MacBook Pro และ iPad Pro และล่าสุดมีการคาดการณ์ว่า iPhone ตัวท็อปจะมีรุ่น Pro เช่นกัน แทนกันใช้ชื่อรุ่น S อย่าง iPhone XS หรือ iPhone XS Max
ดังนั้น iPhone รุ่นถัดไป จะใช้ชื่อเป็น iPhone 11, iPhone 11 Pro, iPhone 11R และ iPhone 11 Max โดยรุ่น Pro จะถือเป็นตัวท็อปที่สุด ส่วนรุ่น Max เป็นเครื่องที่ขยายหน้าจอ และรุ่น R ยังคงใช้สำหรับเจาะกลุ่มผู้ใช้ระดับกลางเหมือนเดิม
นอกจากนี้ iPhone 11 จะได้ใช้ชิปเซ็ตตัวล่าสุดอย่าง A13 ซึ่งถือเป็นชิปประมวลผลที่ดีที่สุดของตลาดสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องขนาดหน้าจอจะใช้เป็น 5.4 (ขนาดหน้าจอเล็กลงกว่ารุ่นเดิมที่มีขนาด 5.8), 6.1 และ 6.7 นิ้ว และอาจใช้จอแสดงผล OLED กับทุกรุ่น จากเดิมรุ่น R จะใช้จอ LCD ซึ่งมีราคาถูกกว่าจอรุ่นอื่นๆ และที่น่าเสียดายคือ อาจพบกับหน้าจอรอยบากเหมือนเดิม
กล้องหลัง 3 ตัว
ดูเหมือน iPhone จะเอาจริงด้านการถ่ายภาพมากขึ้น ซึ่งในปีนี้จะมีหนึ่งรุ่นที่จะมีกล้องถ่ายภาพด้านหลังถึง 3 ตัว คาดว่าจะเป็น iPhone 11 Pro ที่จะสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งมุมกว้าง ถ่ายซูมระยะไกล และถ่ายภาพมาโครเหมือนกับ Huawei หรือ Samsung ได้สักที
iPhone รุ่นล่าสุด ในปี 2019 จะไม่รองรับ 5G
ปัจจุบันผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในหลายๆ ได้เปิดตัวระบบ 5G อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านสมาร์ทโฟนรุ่นปี 2019 ก็มีการเปิดตัวที่รองรับ 5G เช่นกัน อย่าง Samsung Galaxy S10 5G, LG V50 THINQ และ Xiaomi Mi Mix 3 เป็นต้น แต่ฝั่ง Apple ดูเหมือนจะได้ได้เปิดตัวรุ่น 5G ในเร็วๆ นี้ คาดว่าเป็นผลมาจากการฟ้องร้องเรื่องชิปประมวลผลกับ Qualcomm และ Intel ไม่สามารถผลิตตัวชิปได้ทันการขายในปีนี้ โดยจะเลื่อนเป็นปี 2020 แทน
iPhone 11 จะสามารถแบ่งปันแบตเตอรี่ได้แล้ว
หลังจากมีการเปิดตัวแผน AirPower เครื่องชาร์จไร้สาย ก็ได้สร้างความฮือฮาแก่ชาวผลไม้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับ Apple (แต่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวหุ่นกระป๋องเพราะมีให้ใช้งานมาก่อนแล้ว) ซึ่งก่อนหน้าจะชาร์ตที่ต้องพึ่งพา Adapter เท่านั้น แต่จู่ๆ แผนดังกล่าวก็ดับลงไป อาจเกิดจากปัญหาด้านการใช้งานที่ไม่สมบูรณ์
แต่ล่าสุดก็ได้มีข่าวออกมาอีกว่า Apple ได้พยายามผลักดัน iPhone รุ่นใหม่ให้มีคุณสมบัติ Wireless Power Share คือ สามารถใช้ iPhone เป็นแบตเตอรี่สํารองไร้สายแบ่งปันพลังงานให้กับ iPhone เครื่องอื่นได้ เหมือนกับที่สมาร์ทโฟนอย่าง Huawei และ Samsung ทำได้แล้วตอนนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับข่าวลือที่ว่า iPhone จะเพิ่มความจุแบตเตอรี่ภายในเพิ่มขึ้นอีก จากเดิมเฉลี่ยการใช้งานจะอยู่ 13 ชม. ได้เพิ่มเป็น 19 ชม.
3D Touch ได้ตายไปแล้ว
Wall Street Journal และกูรู Ming-Chi Kuo ได้เก็บข้อมูลจากซัพพลายเออร์ ซึ่งข้อมูลที่ได้ส่วนใหญ่ก็มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้พบกับอินเทอร์เฟซ 3D Touch อีกต่อไป ในปี 2019 แต่อาจเปลี่ยนมาพัฒนา Taptic Engine ใหม่ ชื่อรหัสว่า “leap haptics” ซึ่งเป็นการต่อยอดจากเทคโนโลยี Haptic Touch ของ iPhone XR แทน.
ราคาโหดเหมือนเดิม
หลายคนยังคงกังวลเรื่องราคาที่แสนโหด และแน่นอนในปีนี้ยังคงโหดเหมือนเดิม แม้ช่วงที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์จะมียอดขายที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากการแข่งขันภายในตลาด แต่นั้นก็ไม่ทำให้ iPhone 11 สามารถลดราคาลงได้ สาเหตุเกิดจากการทำสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน ที่มีการเก็บภาษีการเปิดกิจการ ทั้งร้านขายสินค้าและการเปิดโรงงานการผลิตในจีน ทำให้ต้นทุนนั้นสูงขึ้น บวกกับค่านิยมของ Tim Cook ที่มองผลิตภัณฑ์เป็นสินค้ากลุ่มพรีเมี่ยมมาโดยตลอดจึงเป็นเรื่องยากที่จะลดราคา หากไม่ใช่เครื่องรุ่นเก่า
ที่มา : cnet.com
