เพราะเทรนด์ค้าขายออนไลน์กำลังเติบโตชนิดที่เรียกว่า…อะไรก็ฉุดไม่อยู่ นอกจากแบรนด์ใหญ่จะปรับตัวสู่สนามแข่งขันนี้ ผู้ค้ารายย่อยก็เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก พร้อมประชันกันบนเวทีโอกาส แน่นอนว่าแค่มีสินค้าและช่องทางก็สามารถ “ค้าขาย” ได้แล้ว แต่หากจะทำให้มีประสิทธิภาพและสร้างโอกาสระยะยาว อาจต้องได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงจากต้นแบบและได้คำแนะนำที่ดี
“Instagram” เองก็กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก – ใหญ่ พากันใช้งานเพื่อการค้า ประกอบกับจำนวนผู้ใช้งานกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก และมีการใช้งาน IG Stories ราว 500 ล้านครั้งต่อวัน นั่นยิ่งทำให้ IG กลายเป็นสนามทองคำของผู้ค้าออนไลน์
นอกจากเรื่องการเป็นช่องทางสร้างรายได้และค้าขายออนไลน์ IG ยังได้จัดกิจกรรม “Instagram Academy Thailand” ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยจัดในอินโดนีเซียมาก่อนหน้า โดย Instagram Academy ในไทยถือเป็นกิจกรรมนำร่อง เปิดรับผู้เข้าร่วมอบรมเพียง 250 คน อายุไม่เกิน 35 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพาร์ทเนอร์กับ IG เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่และวัยมิลเลนเนียลให้เข้าสู่เส้นทางธุรกิจ ด้วยเครื่องมือและฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ต่อการผลักดันธุรกิจระดับท้องถิ่น
สำหรับโปรแกรม Instagram Academy Thailand เป็นโปรแกรมฝึกอบรมต่อยอดและดัดแปลงโครงการฝึกอบรมซึ่งจัดขึ้นในเมืองต่าง ๆ ในประเทศอินโดนีเซีย มุ่งเน้นสำหรับกลุ่มนักธุรกิจรุ่นเยาว์ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี โปรแกรมดังกล่าวนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากความสำเร็จของ Instagram ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มที่ช่วยให้ผู้คนและธุรกิจต่าง ๆ สามารถแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของตนสู่ชุมชนที่มีผู้ใช้งานกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วโลก ทั้งนี้ 90% ของคนกลุ่มนี้กดติดตามธุรกิจที่ตนสนใจและสำหรับในประเทศไทย ตัวเลขดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเน้นที่การสร้างสรรค์คอนเทนต์และการอบรมด้านการใช้งานโฆษณาขั้นสูง โดยครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ เช่น ทำความเข้าใจเครื่องมือจาก Instagram ที่ช่วยผลักดันธุรกิจ, การสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพ, โฆษณาบน Instagram และ Facebook, การตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายขั้นสูง และอื่น ๆ นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการจัดช่วงเสาวนาและพูดคุยกับตัวแทนผู้ประกอบการขนาดย่อมรุ่นเยาว์ คุณลลิตา คุณาดิเรกวงศ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Copper.bkk วัย 21 ปี, คุณจิตพล ศิริวัฒนเมธางกูล ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ CAMP วัย 30 ปี และคุณชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Diamond Grains ที่ได้มาบอกเล่าประสบการณ์และกรณีตัวอย่างของความสำเร็จจากการสร้างธุรกิจ
คุณชวดี วงศ์พยัต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับประเทศ แผนกธุรกิจนานาชาติ ประจำ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า Instagram ได้พลิกโฉมวิธีที่ผู้คนค้นพบธุรกิจท้องถิ่นต่าง ๆ การซื้อของออนไลน์ การเฟ้นหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ตลอดถึงการแบ่งปันช่วงเวลาต่าง ๆ ร่วมกันกับคนอื่นในชุมชน นี่คือสิ่งที่ทำให้ Instagram เป็นแพลทฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างง่ายดาย ทุกวันนี้ มีธุรกิจจำนวนกว่า 140 ล้านรายที่ใช้งาน Facebook, Instagram และ WhatsApp ในแต่ละเดือน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกวัน
“ในประเทศไทย เราตื่นเต้นที่ได้เห็นการเติบโตของ Instagram และยินดีที่ได้เห็นว่าแพลทฟอร์มนี้ได้ช่วยเชื่อมต่อคนไทยกับสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ ตลอดถึงจุดประกายให้พวกเขาได้สร้างสรรค์และผลักดันให้พวกเขาสร้างแบรนด์ในแบบของตนเองได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
ไม่ว่าจะผ่านการติดแฮชแท็ก การโปรโมทคอนเทนต์ผ่าน Instagram Stories หรือการเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้เห็นภาพเบื้องหลังของสิ่งต่าง ๆ บรรดาครีเอเตอร์และแบรนด์จำนวนมากทั่วโลกต่างใช้ประโยชน์จากบัญชีที่มีการใช้งานในแต่ละวันร่วมกว่า 200 ล้านบัญชีเหล่านี้ในการเยี่ยมชมโปรไฟล์ที่พวกเขาสนใจอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อวัน โดยแต่ละคนมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน
“มิลเลนเนียล” พลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนธุรกิจ
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จการเติบโตของ Instagram คือกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียล ซึ่งมีจำนวน 20 ล้านคนในประเทศไทย พวกเขาไม่เพียงรับหน้าที่ในฐานะผู้บริโภค แต่มีจำนวนมากที่ใฝ่ฝันในการเป็นเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ ของตนเอง ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าชาวไทยในยุคมิลเลนเนียลนั้นเริ่มธุรกิจของตนเองด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปี หรือในขณะที่พวกเขายังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ได้ช่วยสร้างตัวเลขมูลค่าตลาดราว 7 ล้านล้านบาทในวงการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยถือเป็น 43% ของค่าจีดีพีและมูลค่าการผลิตของประเทศโดยรวม
กระแสความนิยมของ Instagram ในฐานะแพลทฟอร์มที่ช่วยให้นักธุรกิจรุ่นเยาว์สร้างสรรค์อาชีพและดำเนินตามความฝันนั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงจากการสำรวจจากอิปซอสส์ (IPSOS) ต่ออิทธิพลของ Instagram ที่มีต่อกลุ่มผู้ประกอบการขนาดย่อมในอินโดนีเซีย พบว่า ผู้ใช้งานหลายคนที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปีได้ใช้ Instagram ในการริเริ่มธุรกิจ และหลายคนมีธุรกิจเป็นของตนเองก่อนสำเร็จก่อนศึกษาอีกด้วย 82% ของผู้ที่ร่วมตอบแบบสอบถามเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า Instagram มีส่วนช่วยให้นักประกอบการรุ่นเยาว์บรรลุถึงเป้าหมายทางธุรกิจ ในขณะที่ 74% เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าธุรกิจของพวกเขาเติบโตได้จากบัญชี Instagram
“ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram และแอปพลิเคชันอื่นในเครือของเรา พันธกิจของเรายังคงไม่เปลียนแปลง นั่นคือเรามุ่งมั่นช่วยผลักดันการพัฒนาด้านดิจิทัลในประเทศไทย โดยช่วยให้ธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ก้าวสู่เส้นทางบนโลกดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับชุมชนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทยโดยเฉพาะ ซึ่งการซื้อขายผ่านการสนทนา (Conversational Commerce) ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง และประเทศไทยเองซึ่งเป็นผู้นำในด้านดังกล่าว ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่องสู่การเป็นประเทศยุคโมบายเฟิร์ส โดยเปิดรับเครื่องมือทางดิจิทัลเพื่อการเติบโตทางธุรกิจ ตลอดถึงการใช้นวัตกรรมสินค้าใหม่”
เพื่อตอบสนองการเติบโตเชิงดิจิทัลดังกล่าวและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักธุรกิจหน้าใหม่ในอนาคต งาน Instagram Academy Thailand วันนี้จึงได้ร่วมมือกับตัวแทนนักประกอบการรุ่นเยาว์จากธุรกิจด้านความงามและแฟชั่น ซึ่งถือเป็นหมวดหมู่ที่คนนิยมค้นหามากที่สุดบน Instagram ในประเทศไทย โปรแกรมการอบรมในวันนี้จึงเป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อจุดประกายความฝันให้กับผู้ประกอบการธุรกิจรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น นักศึกษาจากภาควิชาบริหารธุรกิจบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นิสิตจากภาควิชาสาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ (นานาชาติ) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และยังรวมไปถึงกลุ่มนักเรียนในสาขาแฟชั่นและการออกแบบ เป็นต้น
สะท้อนความสำเร็จ “ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์” ของไทย
ฟีเจอร์หลักของ Instagram อย่าง Instagram Stories และ Direct Message ก็มีส่วนช่วยให้ธุรกิจและชุมชนของพวกเขาขยับขยายได้ โดย คุณลลิตา คุณาดิเรกวงศ์ นิสิตสาวอายุ 21 ปี ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Copper.bkk ได้อธิบายว่า Instagram ช่วยให้การโพสต์ไอเดียเสื้อผ้าและการออกแบบง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อน และสามารถส่งข้อความติดต่อลูกค้า เพื่อออกแบบเสื้อผ้าได้ตรงกับรูปร่างความต้องการของลูกค้า
คุณชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Diamond Grains ได้เล่าว่า Instagram เป็นจุดเปลี่ยนในการดำเนินธุรกิจเพราะทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้ดีขึ้น รู้ผลตอบรับและมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น
คุณจิตพล ศิริวัฒนเมธางกูล ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ CAMP ได้บอกว่า Instagram เปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าฟาสต์แฟชั่น ยกตัวอย่างงานวิจัยล่าสุดที่พบว่า 50% ของผู้บริโภคมีตัวเลือกสินค้าในใจก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาเยี่ยมชมที่หน้าร้านหรือบนเว็บไซต์ และ Instagram เองได้ทำหน้าที่เป็นเสมือนแคตตาล็อกและหน้าร้านที่ลูกค้าสามารถกดเข้ามาเยี่ยมชมได้ก่อนการซื้อจริง
สรุปไฮไลท์ประจำปีจาก Instagram
– การใช้แฮชแท็กมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของคุณและสามารถช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตได้ ผ่านการค้นหาและกระตุ้นการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับลูกค้า นอกจากนี้การใช้แฮชแท็กยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาสิ่งต่าง ๆ ใน Instagram
– จากข้อมูลในปี 2562 และสรุปไฮไลท์ประจำปีของ Instagram ในประเทศไทย พบว่าข้อมูลด้านแฟชั่นและความงามเป็นข้อมูลที่มีผู้ค้นหามากที่สุดบน Instagram ในประเทศไทย โดยเฉพาะคำค้นหายอดนิยม เช่น #เสื้อผ้าแฟชั่น #เสื้อผ้าแนวสตรีท และ #แมทช์ได้กับเสื้อทุกสี รวมถึงคำคมยอดนิยม อาทิ #คำคมความรัก
– ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้ว่าคนไทยใช้ Instagram ด้วยเหตุผลที่หลากหลาย ไม่ใช้แค่เพื่อติดต่อสื่อสารกับคนในครอบครัว และเพื่อนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการค้นหาแรงบันดาลใจในชีวิตประจำวัน และได้พบปะมีปฏิสัมพันธ์กับเหล่าครีเอเตอร์ และเจ้าของธุรกิจที่ตนเองชื่นชอบ
เส้นทางสร้างความสำเร็จของธุรกิจบน Instagram
เริ่มต้นด้วยการสร้างโปรไฟล์ธุรกิจ Instagram
ทำให้ธุรกิจสามารถเผยแพร่ข้อมูลและกระตุ้นยอดขายโดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่าย คุณสามารถสร้างโปรไฟล์ธุรกิจฟรีด้วยการไปที่บัญชีผู้ใช้และกดเปลี่ยนเป็นโปรไฟล์ธุรกิจ (Business Profile) จากนั้น คุณจะสามารถสร้างชุมชนของคุณและเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าได้ Instagram สามารถทำหน้าที่เป็น “หน้าร้าน” โดยไม่ต้องมีเว็บไซต์ ซึ่งที่จริงแล้วร้อยละ 50 ของธุรกิจบน Instagram ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ด้วยซ้ำ
ใช้งานชุดเครื่องมือของ Instagram ทั้งหมด
ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบน Instagram คือแอคเคานท์ที่มีการโพสต์เนื้อหาลงบน Feed รวมถึงใช้งาน Stories, Live และ IGTV โดยเครื่องมือทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารของพวกเขา อย่ากังวลมากนักเกี่ยวกับรูปภาพหรือวิดีโอที่ต้องผลิตออกมาอย่างสวยงาม คุณควรให้ความสำคัญกับการแสดงถึงความมีเอกลักษณ์มากกว่า และเชิญชวนให้ลูกค้าแชร์โพสต์และ Stories เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ เพื่อที่คุณจะได้สามารถแชร์เนื้อหานั้นซ้ำผ่านบัญชีของคุณได้
ใช้เนื้อหาที่เรียบง่ายสำหรับ Stories
Stories เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจ หนึ่งในสามของ Stories ที่มีการรับชมมากที่สุดนั้นมาจากธุรกิจ สำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่ คุณไม่จำเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องใด ๆ เพียงแค่โพสต์ในเวลาที่คุณสามารถโพสต์ได้ สร้างกิจกรรมให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมด้วยการใช้สติ๊กเกอร์แบบอินเทอร์แอคทีฟและโพล เป็นต้น
ใช้งานข้อมูลเชิงลึกบน Instagram และเข้าใจผู้ชมของคุณ
ข้อมูลเชิงลึกของ Instagram ช่วยให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับผู้ติดตามของคุณและประเมินว่าเนื้อหาของคุณมีผลอย่างไรต่อผู้ชม ด้วยข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ คุณสามารถเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับผู้ติดตามของคุณและประเภทของเนื้อหาที่สร้างการมีส่วนร่วมที่มากขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถดูข้อมูลเชิงลึกของโพสต์และ Stories ที่คุณได้สร้างสรรค์ขึ้นแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์ของเนื้อหาแต่ละโพสต์และดูว่าผู้คนมีส่วนร่วมกับเนื้อหาเหล่านั้นอย่างไร
เชื่อมต่อกับลูกค้าและธุรกิจอื่น ๆ โดยตรง
ส่งข้อความโดยตรงเพื่อแบ่งปันบันข้อมูลและสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าโดยตอบกลับการแสดงความคิดเห็นของพวกเขา นอกจากนี้ แท็กธุรกิจบนโพสต์ของคุณหรือส่งข้อความโดยตรงไปหาพวกเขาเพื่อสร้างความร่วมมือ หรือขอให้พวกเขาโพสต์เนื้อหาของคุณซ้ำ ท้ายที่สุด บันทึกรูปภาพและวิดีโอจากธุรกิจอื่น ๆ เพื่อศึกษาว่าคุณชอบเนื้อหาแบบไหนและพัฒนาเนื้อหาเพื่อธุรกิจของคุณในแบบของคุณเอง