ไม่ใช่แค่ “Digital Trends” ที่ทำให้องค์กรต้องมองหา “นวัตกรรม” และ “เครื่องมือ” เข้ามาเป็นตัวช่วย แต่เพราะ “Smart Office” ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานในยุค New Normal ที่ทุกอย่างถูก Transform สู่ Digital
แน่นอนว่าเทคโนโลยีจำนวนไม่น้อยถูกพัฒนาออกมาตอบโจทย์ช่วง Work From Home ทั้งยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เมื่อตลาดมี Demands แน่นอนว่า…โอกาสจึงเป็นของแบรนด์ที่มีนวัตกรรมและมีโปรดักท์พร้อมขาย
ย้ำภาพแบรนด์นวัตกรรม Huawei เปิดตัว “IdeaHub” อิงกระแส Smart Office
ชื่อและภาพลักษณ์ของ “Huawei” ในฐานะบริษัทนวัตกรรม ทำให้โปรดักท์ต่าง ๆ ที่พัฒนาออกมาภายใต้ชื่อ Huawei ได้รับการการันตีทั้งคุณภาพและการยอมรับในแบรนด์ไปโดยปริยาย รวมถึงโปรดักท์ล่าสุดอย่าง “Huawei IdeaHub” ไวท์บอร์ดอัจฉริยะสำหรับ Smart Office ซึ่งมีเทคโนโลยีรองรับการประชุมผ่านระบบคลาวด์ โดยมีชิปประมวลผล AI และทำงานร่วมกับ Huawei Cloud, Meeting Service และ Huawei App Gallery พร้อมกับใส่เอฟเฟกต์ภาพและเสียงได้
แม้โปรดักท์จะเป็นไวท์บอร์ด แต่อย่างที่บอกแล้วว่าภาพของแบรนด์ Huawei ขณะนี้คือเรื่องของนวัตกรรม ดังนั้นเราจึงได้เห็นการหยิบเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใส่อยู่ในโปรดักท์ดังกล่าว จนรวมทั้งเรื่อง “บริการ” และ “ฟังก์ชัน” เข้าไว้ด้วยกัน ไม่ใช่แค่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแต่ยังเป็นการลดข้อจำกัดด้านระยะทาง ทำให้ทีมสามารถทำงานและคงความคิดสร้างสรรค์เพื่อทำงานร่วมกันอย่างเต็มศักยภาพเช่นเคย
เพิ่ม “นวัตกรรม” แต่คงความ “คลาสสิก”
หากไม่บอกก็คงไม่รู้ว่า Huawei IdeaHub ยังคงคุณสมบัติของไวท์บอร์ดกับการเขียนได้เหมือนอุปกรณ์ดั้งเดิมที่เราเคยใช้งานกันมา แต่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ฉลาดขึ้น ไฮเทคขึ้น ตามเทคโนโลยีที่แบรนด์ใส่มาพร้อมกัน ทั้งการบันทึกรายงานประชุม หรือระบุชื่อผู้เข้าร่วมประชุมได้อัตโนมัติ แม้แต่ระบบโฟกัสไปที่ผู้พูดและฟังก์ชันพิเศษที่เรียกว่า Acoustic Baffle เป็นต้น ภายใต้ “จอสัมผัส” ที่ใช้เทคโลยี ELED ให้ความเรียบง่ายและสวยงาม แต่เมื่อเทียบกับหน้าจอประเภทอื่นก็ยังมีขนาดบางกว่าถึง 30% ไม่มีสกรูที่ตัวเครื่อง ไม่ต้องเชื่อมต่อสายเคเบิลเพราะมาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย มีเพียงสายไฟเส้นเดียวก็พร้อมใช้งาน ทั้งยังมีขาตั้งที่ออกแบบพิเศษ หรือ “Ballet Leg” ช่วยให้ความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
“การเขียน” ก็เป็นประสบการณ์ที่ Huawei ใส่ใจกับการใช้ไวท์บอร์ด โปรดักท์นี้จึงออกแบบมาให้ตอบสนองต่อการเขียนอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยการสัมผัสอย่างละเอียดที่ 1 มิลลิเมตร และตอบสนองการเขียนเพียง 35 มิลลิวินาที ช่วยให้เขียนได้ราบรื่น พร้อมกับสามารถบันทึกเนื้อหาที่เขียนลงไปได้ทันที หรือจะแปลงเนื้อหาที่เขียนด้วยลายมือให้เป็นตัวพิมพ์ก็สามารถทำได้โดยอัตโนมัติ และยังสามารถสแกนผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วย
“สแกนใบหน้า พร้อม Acoustic Baffle” ไม่มีแค่คุณสมบัติของการเขียนและจดบันทึก เพราะ Huawei IdeaHub สามารถระบุและตรวจจับใบหน้าของผู้ที่กำลังพูดในระหว่างประชุมได้แบบอัตโนมัติ กล้องสามารถจับโฟกัสไปยังผู้พูดได้ไกลถึง 8 เมตร พร้อมด้วยคุณสมบัติที่เรียกว่า Acoustic Baffle ซึ่งช่วยในการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกห้องประชุม เพื่อทำให้การสื่อสารและการประชุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพในทุกสภาพแวดล้อม
“Multi-screen” สามารถรองรับการทำงานแบบหลายหน้าจอ หรือ Multi-screen Collaboration ได้ด้วย ไม่ใช่แค่การแสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่เป็นการควบคุมการทำงานผ่านหน้าจอได้ทันทีโดยผู้ใช้ไม่ต้องสลับไปมาระหว่างคอมพิวเตอร์กับ Huawei IdeaHub โดยสามารถเรียบเรียงหรือทำเครื่องหมายบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ในทันที พร้อมกับเลือกบันทึกบนอุปกรณ์หรือบนระบบคลาวด์ก็ได้
คอนเซปต์ไอเดีย “ไวท์บอร์ด” ที่มากกว่าการจดบันทึก
นอกจากคุณสมบัติต่าง ๆ จะช่วยลดต้นทุนของสำนักงานด้วยการรวมฟังก์ชันที่หลากหลายไว้ในอุปกรณ์เดียว Huawei IdeaHub ยังรวมคุณสมบัติของ “โปรเจคเตอร์” รวมถึง “ไมโครโฟน ลำโพง VDO Conference คอมพิวเตอร์สำหรับประชุม แท็บเล็ต และหน้าจอแสดงผล” ไว้ด้วยกัน จบในเครื่องเดียวโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ พื้นที่จัดเก็บ หรือแม้แต่การซ่อมบำรุงรักษา ขณะเดียวกัน ยังสามารถเข้าใช้งาน “แอปพลิเคชัน” ได้เหมือนประสบการณ์เดียวกับมือถือ จึงอาจใช้ในกิจกรรมอื่น ๆ ได้ด้วย
AI เติมเต็มประสบการณ์ใหม่ ไฮเทค – ไม่ซับซ้อน – ปลอดภัย
อย่างที่บอกไปแล้วว่า Huawei IdeaHub มีชิปประมวลผล AI จึงทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าผ่าน “Cloud Native Meeting” ซึ่งใช้งานคู่กับชิปสำหรับการประชุมโดยเฉพาะ สามารถให้เสียงและภาพแบบมืออาชีพ โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้ง OPS คอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เพียงคลิกเดียวก็สามารถทำการประชุมแบบ Cloud Native ด้วยความละเอียด 1080p ที่ 30 fps ขณะเดียวกัน ยังมีกล้องความละเอียดสูงที่ใช้งานคู่กับชิปเซ็ตจึงทำให้สามารถทำงานได้เสถียรต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
ส่วนเรื่องความปลอดภัย Huawei IdeaHub ยังมีการป้องกัน Packet Loss 30% ในระบบวิดีโอ และ 80% ในระบบเสียง สามารถแชร์เอกสารทางไกลด้วยความละเอียดสูง 4K ภายใต้ความเร็วอินเทอร์เน็ต 512 กิโลบิตต่อวินาที ทั้งข้อมูล เอกสาร เสียง และภาพ จึงสามารถสื่อสารถึงกันได้อย่างลื่นไหลแม้จะอยู่ในสภาวะที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือมีเสียงรบกวน
สำหรับผู้สนใจ Huawei IdeaHub สามารถศึกษายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ Huawei ประเทศไทย
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Email: Huawei-ENT@synnex.co.th และ Tel: 02 553 8888 Ext 8659
