แกร็บ (Grab) ประกาศเดินหน้ากลยุทธ์เพื่อสังคม ‘Grab for Good แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ในการใช้เทคโนโลยีสำหรับยกระดับทักษะและมอบโอกาสให้แก่คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้พร้อมรับอนาคตเศรษฐกิจดิจิทัลภายในปี พ.ศ. 2568
‘Grab For Good’ จะเป็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยี แพลตฟอร์ม และพันธมิตร เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับพัฒนาทักษะและบริการด้านดิจิทัล เพื่อสร้างความพร้อมให้ผู้คนเหล่านี้ในการเป็นส่วนหนี่งในเศรษฐกิจยุคดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงเพิ่มโอกาสในการมีทางเลือกที่มากขึ้นและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น โดยจะดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้
1. พัฒนาการมีส่วนร่วมและทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล : สร้างความเชื่อมั่นว่าทุกคน ไม่ว่าจะมีภูมิหลังแบบใดหรือศักยภาพเช่นไร สามารถได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยแกร็บตั้งเป้าที่จะส่งมอบทักษะความเข้าใจ รวมถึงการเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 3 ล้านคน ภายในปีพ.ศ. 2568 ด้วยการร่วมมือกับรัฐบาล บริษัทเอกชนและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
2. ส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดย่อมและขนาดเล็ก : ด้วยการช่วยธุรกิจดั้งเดิมและร้านค้าขนาดเล็กกว่า 5 ล้านแห่งในการใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์เข้ากับขั้นตอนและกระบวนการทำงาน เพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการจัดการค่าใช้จ่ายและเพิ่มการผลิต
3. เสริมสร้างแรงงานที่พร้อมก้าวสู่อนาคต : 16 % ของเยาวชนในอาเซียนต้องการทำงานด้านเทคโนโนโลยีในอนาคต แกร็บจึงมีแผนการจะให้การอบรมแก่นักศึกษาจำนวน 20,000 คน ผ่านโครงการค้นหาผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี โดยเป็นพันธมิตรกับสถาบันการศึกษา องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรและบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี
เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แกร็บได้ประกาศเปิดตัวโครงการหลัก 2 โครงการภายใต้‘Grab For Good’ นั่นคือ การอบรมเพื่อพัฒนาทักษะรวมถึงความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างแกร็บและไมโครซอฟท์ และ โครงการ ‘Break the Silence’ ที่เป็นโครงการระดับภูมิภาค เพื่อช่วยคนหูหนวกและผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน ในการเข้าถึงเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านทางอีโคซิสเต็มของแกร็บ
โดยทั้ง 2 โครงการ เป็นจุดเริ่มต้นของแผนการระยะยาว เพื่อพัฒนาทักษะทั้งรายบุคคลและธุรกิจขนาดเล็กด้วยทักษะด้านเทคโนโลยีที่สำคัญและเครื่องมือต่างๆ ในการเดินหน้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งนี้มีโครงการอีกหลายโครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้
“เอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกภายในปีพ.ศ. 2573 แต่ยากจะปฏิเสธความจริงที่ว่า ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมถึงโอกาสความสำเร็จในการเติบโตของภูมิภาคนี้ด้วย หากภาคเอกชนร่วมกันสร้างโปรแกรมสำหรับชุมชนในแต่ละประเทศ เทคโนโลยีจะเป็นสิ่งที่สามารถเอื้อมถึงได้สำหรับหลายคน นอกจากนี้ทักษะการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ยังจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากขึ้น” แอนโทนี่ ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ กล่าว
นอกจากนี้ แกร็บยังได้เปิดเผยรายงานผลลัพธ์ทางสังคมฉบับแรก ที่คาดการณ์ว่า แกร็บ ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแล้ว 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.7 แสนล้านบาท ภายในระยะเวลา 12 เดือน จนถึงมีนาคม พ.ศ. 2562
ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดย่อมกว่า 9 ล้านราย หรือราว 1 ใน 70 คนของประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรายได้เพิ่มขึ้นผ่านแพลตฟอร์มแกร็บทั้งจากการเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พาร์ทเนอร์ผู้ส่งของ ร้านค้า และพาร์ทเนอร์ตัวแทน ซึ่ง 21 % ของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่แกร็บไม่เคยทำงานมาก่อน อีก 31 % ของพาร์ทเนอร์ตัวแทนไม่เคยมีรายได้ก่อนเข้าร่วมตัวแทนแกร็บ-คูโด้ (Grab-Kudo)
นอกเหนือจากโอกาสทางเศรษฐกิจ รายงานนี้ยังรวมถึงการที่แกร็บช่วยพัฒนาการเข้าถึงบริการทางการเงินและการจ่ายเงินแบบดิจิทัล ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2555 แกร็บได้ช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กจำนวน 1.7 ล้านรายเปิดบัญชีธนาคารบัญชีแรกได้สำเร็จ แกร็บยังช่วยผลักดันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการก้าวสู่อนาคตสังคมไร้เงินสด โดยมีผู้ใช้เงินดิจิทัลมากกว่า 9 เท่าบนแกร็บ เมื่อเทียบกับอัตราการทำธุรกรรมไร้เงินสดทั่วประเทศทั้งหมด