แม้ COVID-19 จะทำให้อีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งส่งผลให้บริการโลจิสติกส์เติบโตตามไปด้วย แต่เทรนด์ดังกล่าวได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในตลาด จากความต้องการขนส่งสินค้าที่หลากหลายขึ้น โดยพบว่ามี 3 กลุ่มที่การซื้อขายเติบโตอย่างมากโดยเฉพาะสินค้าขนาดใหญ่ เช่น ของใช้ภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ (55%), เครื่องใช้ไฟฟ้า (63%), ของใช้สัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ฟิตเนส (71%)
คุณคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Flash Express กล่าวว่า เทรนด์ดังกล่าวทำให้เกิดความต้องการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ซึ่งมีข้อจำกัดในการขนส่งและมีบริการแบบ Door to Door ค่อนข้างน้อย ทำให้ผู้บริโภคต้องเคลื่อนย้ายสินค้าไปที่จุดรับบริการด้วยตนเอง ทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักซึ่งผู้ให้บริการส่วนใหญ่รับไม่เกิน 25 – 30 กก. จาก Pain Point ดังกล่าวทำให้ Flash Express เปิดบริการใหม่ในชื่อ Flash Bulky Service เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาจากเรื่องดังกล่าว
ความแตกต่างของ Flash Bulky Service
สำหรับ Flash Bulky Service จะให้บริการขนส่งสินค้าน้ำหนัก 5 – 100 กก. และเพิ่มการรองรับขนาดสินค้าจากเดิมที่รองรับสูงสุด 180 ซม. เป็น 400 ซม. ส่วนความยาวสินค้าแต่ละด้านไม่เกิน 160 ซม. ทั้งยังให้บริการแบบ Door to Door ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ราคาเริ่มต้น 50 บาทสำหรับการจัดส่งทั่วไทย ให้บริการทุกวันตลอดปี และมีการันตีแบบ Speed Guarantee เป็นบริการเสริมเพื่อการันตีระยะเวลาการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้รับ โดยกรณีส่งล่าช้ากว่ากำหนดก็จะคืนเงินค่าส่งแก่ผู้จัดส่งสินค้าด้วย
โลจิสติกส์โตเพราะอีคอมเมิร์ซ แต่แบกต้นทุนมหาศาล
คุณคมสันต์ อธิบายว่า ธุรกิจโลจิสติกส์ได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซจริง แต่ผู้ให้บริการต้องแบกรับต้นทุนมหาศาลตามมา เช่น ค่าน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาพรวมโลจิสติกส์ในประเทศไทยปีนี้ ผู้บริโภคอาจมีกำลังจัดซื้อลดลงโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแฟชัน แต่จะมีความนิยมมากขึ้นในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าขนาดใหญ่ โดยเป็นผลจากการปรับตัวของผู้บริโภคที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับสถานการณ์ COVID-19 จึงมองหากิจกรรมที่ทำภายในบ้านร่วมกับครอบครัวมากขึ้น ส่วนภาวะการแข่งขันในปีนี้ มองว่าไม่แตกต่างจากปี 2021 มากนัก เนื่องจากผู้ให้บริการส่วนใหญ่ล้วนมีแคมเปญและโปรโมชันขนส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Flash Express มั่นใจว่ายังสามารถแข่งขันได้ในฐานะผู้นำตลาดต่อไป
ส่วนการเป็น Unicorn นั้น ส่วนตัวมองว่าไม่ได้สร้างความแตกต่างในการดำเนินธุรกิจ แต่ส่งผลดีต่อมุมมองธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่มีผู้ลงทุนให้ความสนใจมากขึ้นและเชื่อมั่นว่าประเทศไทยก็มีศักยภาพเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในปี 2022 Flash Express จะลงทุนต่อเนื่องเพื่อขยายบริการไปยังต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซอื่น ๆ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทต้องการเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร ขณะที่ Flash Bulky Service นั้น เป็นการลงทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2020 และจะลงทุนต่อเนื่องต่อไป ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานเกือบ 10,000 คนรองรับการขนส่งแล้ว
ส่วนผลประกอบการในปี 2021 Flash Express คาดการณ์รายได้รวมอยู่ที่ 17,000 ล้านบาท จากการจัดส่งสินค้ามากกว่า 600 ล้านชิ้นในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้ขยายบริการไปยังประเทศลาวและฟิลิปปินส์แล้ว และคาดว่าในปีนี้จะเปิดตัวในมาเลเซียอย่างเป็นทางการ หลังจากสามารถขยายพื้นที่บริการได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2022 ทาง Flash Express ตั้งเป้าหมายขยายบริการไปยังประเทศอื่น ๆ ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 4 ประเทศ ส่วนแผนการเปิดระดมทุนรอบใหม่นั้น คาดว่าจะมีการอัพเดทอีกครั้งในช่วงกลางปีนี้
Related posts:
เปิดตัว ‘FUZE POST’ น้องใหม่ Cold Chain Express ที่มี 3 เสือโลจิสติกส์เป็นหลังบ้าน ชิงตลาดมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทต่อปี
เปิดจดหมาย CEO Flash Express ถึงลูกค้า ประกาศชดเชย 200 ล้านบาท เหตุสินค้าค้างคลังจากการปิดศูนย์กระจายพัสดุ วังน้อย
อีคอมเมิร์ซช่วยส่งต่อความสำเร็จให้โลจิสติกส์ ‘Flash Express’ เติบโต 500% ยอดส่ง 300 ล้านชิ้น รายได้เดือนละ 6,000 ล้านบาท
ค้าขายออนไลน์ยังส่งพัสดุได้ปกติ! “โลจิสติกส์” ยืนยัน “เปิดบริการ” สู้ COVID-19
เปิดเบื้องหลัง “DHL Express” ทำไมเป็น “ผู้นำส่งด่วนระหว่างประเทศ”? ในยุคโลจิสติกส์แข่งเดือด
ถึงพี่ดุ หนูก็ไหว! “Flash Express” เดินเกม “ราคา – คุณภาพ” ฝ่าสมรภูมิโลจิสติกส์
